หลังพบงานวิจัยเผยว่าไวรัสโควิด-19 สามารถติดเข้าสู่เม็ดเลือดขาวได้เหมือนไวรัส HIV ทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้ที่ได้ทราบข่าวนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เพจเกี่ยวกับไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยีไบโอเทค สวทช. ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง ว่า การวิจัยดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีการใช้เซลล์ที่แยกจากคนโดยตรงมาเปรียบเทียบ
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เพจ “Virology and Cell Technology Lab-BIOTEC” เพจที่เกี่ยวกับห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยีไบโอเทค สวทช. ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับกรณี ไวรัสโควิด-19 สามารถติดเซลล์เม็ดเลือดขาวเหมือนกับเชื้อ HIV ได้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได่มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ออกมาในหัวข้อ “SARS-CoV-2 infects T lymphocytes” จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลแก่ผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ทางเพจได้ระบุว่า เมื่อได้อ่านงานวิจัยดังกล่าวอย่างละเอียด จะพบว่า งานวิจัยดังกล่าวมีจุดอ่อนหลายที่ และ ที่สำคัญที่สุดในความเห็นของผู้เขียน คือ ผู้แต่งสรุปผลงานตัวเองเกินจริง (overclaim) ในงานวิจัยนี้ ผู้วิจัยไม่ได้ใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวที่แยกมาจากคนจริงๆ แต่เป็นการเลี่ยงใช้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม จนทำให้สามารถเลี้ยงได้ในห้องปฏิบัติการต่อไปเรื่อยๆ (Cell line) เป็นที่ยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ ว่า คุณสมบัติทางชีววิทยาของเซลล์ประเภทนี้จะแตกต่างจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายคนเราอย่างสิ้นเชิง การใช้เซลล์ดังกล่าวเป็นตัวแทนเซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์ จึงไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของงานวิจัยที่ดี และ การสรุปงานวิจัยโดยไม่มีการใช้เซลล์ที่แยกจากคนโดยตรงมาเปรียบเทียบจึงทำให้งานนี้ไม่น่าเชื่อถือ
เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่กำลังพิจารณาเพื่อตีพิมพ์จากนักวิจัยในแคนาดา นักวิจัยกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จในการแยกเชื้อไวรัสจากผู้ป่วย COVID-19 2 ราย และ นำไวรัสดังกล่าวมาทดสอบการติดเชื้อในเซลล์ชนิดต่างๆ หนึ่งในนั้น คือ เซลล์เม็ดเลือดขาว ที่แยกมาจากคนปกติ ซึ่งรวมไปถึง CD4+T cell ซึ่งเป็นเซลล์เป้าหมายของ HIV โดยงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่านักวิจัย “ไม่สามารถตรวจพบไวรัส SARS-CoV-2 ที่ถูกสร้างใหม่จากเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดใดๆ เลย หลังจากพยายามติดเซลล์เหล่านั้นด้วยไวรัส” และ ที่น่าสนใจมากๆ คือ ทีมวิจัยนี้ใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ตรวจพบอนุภาคคล้ายๆ ไวรัสใน CD4+T cell แต่เหมือนไวรัสเหล่านั้นติดและตายอยู่ในเซลล์นั้นสร้างลูกหลานออกมาไม่ได้ ทางไวรัสวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Abortive infection
ประกอบกับข้อมูลที่ว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวไม่มีการแสดงออกของ ACE2 ซึ่งจำเป็นต่อไวรัสในการเพิ่มจำนวน หลักฐานจึงชี้ชัดว่าไวรัส SARS-CoV-2 ยังไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือน HIV ตามที่สื่อพยายามสร้างกระแส ...ท้ายที่สุด ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ดี (Bad Science) จะถูกหักล้างด้วยข้อมูลที่ดีกว่า (Good Science) เสมอ