ชาวบ้านกาฬสินธุ์ ร้องศูนย์ดำรงธรรม ถูกนายทุนฟ้องซ้ำผิดสัญญาเงินกู้ แปลกใจจ่ายหนี้หมดตั้งแต่สมัย “พล.อ.ประวิตร” คืนโฉนดที่ดิน ตามโครงการคืนความสุขให้ประชาชน
จากกรณี ชาวบ้าน จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 10 ราย นำโดยนางอภิรุจี นุครุน ตกเป็นจำเลยหลังถูกนายทุนเงินกู้รายหนึ่ง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาล และให้มารับทราบข้อกล่าวหาผิดสัญญาเงินกู้ ซึ่งชาวบ้านได้รับหมายศาลดังกล่าวแล้วรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากโจทก์คนยื่นฟ้องเป็นนายทุนเงินกู้รายเดียวกันเมื่อปี 2558 หลังนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้และได้เคลียร์จบสิ้นแล้ว สมัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการคืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม เมื่อวันที่ 20 ก.ย.61 ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) แต่ล่าสุดชาวบ้านกลับได้รับหมายศาล โดยนายทุนรายเดิมเป็นโจทก์ฟ้อง ข้อหาเดิม ทั้งๆที่ไม่ได้ไปทำสัญญากู้เงินกับนายทุนรายนี้อีก นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนบ้านที่เคยเป็นลูกหนี้นายทุนรายดังกล่าว โทรมาสอบถาม และแจ้งว่าได้รับหมายศาลเช่นกันในข้อหาเดียวกัน จึงรวมตัวกันมาขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 มี.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ และที่ปรึกษากรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่าชาวบ้านที่ถูกหมายศาลได้รวมตัวกันเข้ามาขอปรึกษาปัญหาเรื่องนายทุนเงินกู้ดังกล่าว โดยมี นางอภิรุจี ชุครุน , นางสมศิลป์ ชินคีรี , นายชูศักดิ์ ระวิวรรณ , นางสมฤดี ระวิวรรณ และ นายนิยม วารีบ่อ ซึ่งประชาชนแจ้งว่ามีการกู้ยืมเงินจริงและได้ชำระหนี้ไปหมดแล้วจนได้รับการคืนโฉนดที่ดิน แต่ในการกู้ยืมนั้นมีการให้ลงนามในเอกสารหลายฉบับ และนายทุนได้นำไปเติมข้อความเองในภายหลังและนำมาฟ้องตามที่เป็นข่าว
นายสามารถ เผยอีกว่า กรณีดังกล่าวมีลักษณะพฤติการณ์แบบเดียวกับ นายชุมสิทธิ์ ทรัพย์บ้านใหม่ ที่มายื่นเรื่องขอเงินกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ซึ่งอนุกรรมการประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้อนุมัติความช่วยเหลือค่าทนายความ จำนวน 10,000 บาท เมื่อวันที่ 16 มี.ค.63 โดยศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีในวันนี้ (24 มี.ค.) และขณะนี้เป็นการต่อสู้ในคดีแพ่งที่ถูกฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนเรื่องดำเนินคดีนั้นทางยุติธรรมจังหวัดขอให้อัยการคุ้มครองสิทธิช่วยพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายสามารถ เผยต่อว่า การปราบปรามหนี้นอกระบบ ยังได้รับเสียงตอบรับจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนจำนวนมากในภาคอีสาน แม้แต่นาย สุทัศน์ เงินหมื่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมาธิการการกฏหมาย การยุติธรรม และ สิทธิมนุษยชน ชมเชยถึงท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อต้นเดือนมี.ค. ประชาชนได้แจ้งมายังกรรมาธิการการกฎหมายฯ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ30-50 โดยการทวงหนี้มีการทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สิน โดยทางกรรมาธิการได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการต่อ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทางรัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นปราบปรามแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบมาโดยอย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงยุติธรรมนำโดย นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นให้ทางกระทรวงยุติธรรมอำนวยความยุติธรรมให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะคนจน
นายสามารถ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงยุติธรรมมีกองทุนยุติธรรมคอยดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบ ก็ได้เน้นย้ำให้ยุติธรรมจังหวัดเร่งเข้าไปช่วยเหลือร่วมบูรณาการกับศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) พร้อมกับ กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ เข้าไปบูรณาการร่วมกันช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ตามเคสที่เป็นข่าวทางกระทรวงยุติธรรมก็ได้ลงไปช่วยเหลือติดตามอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าถ้าได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ สามารถติดต่อยุติธรรมจังหวัดในทุกจังหวัดได้เลย หรือจะติดต่อมาที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข สายด่วน 1111 กด 77 ทางกระทรวงยุติธรรมพร้อมช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ภายใต้การนำของรัฐบาลเน้นให้ทำยุติธรรมเชิงรุกสร้างสุขให้ประชาชน และการปราบปรามหนี้นอกระบบต้องทำอย่างต่อเนื่องพร้อมมาตรการช่วยเหลือสร้างอาชีพเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพื่อพอกับการยังชีพเน้นไม่สร้างหนี้ใหม่ พร้อมจัดหาทุนในระบบเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้เพื่อตัดวงจรหนี้นอกระบบให้หมดไปจากสังคมไทย
รายงายข่าวแจ้งว่า นายสามารถ พร้อม นายศิริพงษ์ รัศมี สส.กรุงเทพฯ เขตหนองจอก น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส. กรุงเทพฯ เขตบางกะปิ นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กรุงเทพฯ เขตวัฒนา เขตคลองเตย พร้อมคณะทำงานศูนย์ร้องทุกข์ของพรรคพลังประชารัฐ PW ได้ทำแคมเปญ หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอยู่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นการให้คุณหมอ และ คุณพยาบาลได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อประเทศไทยของเราทุกคน พวกเรามั่นใจว่าถ้าคนไทยทุกคนร่วมมือกัน เราจะผ่านปัญหานี้ไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน