ชาวบ้านร้องได้โฉนดคืนจาก “บิ๊กป้อม” แต่กลับถูกนายทุนเงินกู้ฟ้องระนาว

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดกาฬสินธุ์นำหมายศาลร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ถูกนายทุนเงินกู้ส่งฟ้องศาลเหตุไม่จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย ทั้งๆ ที่บิ๊กป้อมเคลียร์เรื่องให้จบแล้วปี 2561 แต่ยังถูกทวงหนี้และส่งฟ้องศาลจากนายทุนเดิม


วันนี้ (23 มี.ค. ) ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวน 10 คน นำโดยนางอภิรุจี นุครุน อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 ต.ดงพยุง อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์, นางสมศิลป์ ชินคีรี บ้านเลขที่ 60 หมู่ 4 ต.ลำห้วยหลัว อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และนางนงเยาว์ กมลเรือง บ้านถ้ำปลา หมู่ 3 ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งหมดอ้างว่าตกเป็นจำเลยถูกนายทุนเงินกู้รายหนึ่งใน อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง โดยมีนายสนุน แจะหอม นิติกรประจำศูนย์ดำรงธรรม ให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ชาวบ้าน


นางอภิรุจี นุครุน กล่าวว่า ตนได้รับหมายศาลดังกล่าวแล้วรู้สึกตกใจและแปลกใจมาก เนื่องจากโจทก์ที่เป็นคนยื่นฟ้องเป็นนายทุนเงินกู้รายเดียวกับที่ตนเคยนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้เมื่อปี 2558 ซึ่งครั้งนั้นทำสัญญากู้มาจำนวน 50,000 บาท โดยถูกหักเงินต้นในวันทำสัญญาร้อยละ 5 ซึ่งนอกเหนือจากคิดดอกเบี้ยรายเดือนอีกอัตราหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หนี้สินและเงินกู้ก้อนนั้นได้เคลียร์จบแล้วเมื่อครั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการคืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า)

แต่เมื่อเร็วๆ นี้ตนกลับได้รับหมายศาลโดยนายทุนรายเดิมเป็นโจทก์ฟ้องข้อหาเดิม จำนวนเงินกู้เท่าเดิม ทั้งๆที่ไม่ได้ไปทำสัญญากู้เงินกับนายทุนรายนี้อีก จึงรู้สึกตกใจและแปลกใจ ช่วงนี้เองก็มีเพื่อนบ้านที่เคยเป็นลูกหนี้นายทุนรายดังกล่าวโทร.มาสอบถาม และแจ้งว่าได้รับหมายศาลข้อหาเดียวกัน และวันต่อมามีหลายคนโทร.มาสอบถามว่าประสบปัญหาเดียวกับตน ด้วยความไม่สบายใจจึงรวมตัวกันมาขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์

ด้านนางสมศิลป์ ชินคีรี กล่าวว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านายทุนมีเจตนาอะไรถึงส่งฟ้องศาลอีก ทั้งๆ ที่เรื่องจบกันไปแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วระหว่างพวกตนกับนายทุนรายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องฟ้องร้องที่เกิดขึ้นรอบนี้สร้างความสงสัยให้แก่พวกตนมากว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า ยืนยันว่าหลังจากเคลียร์หนี้สินเดิมที่ไปกู้เมื่อปี 2558 แล้วไม่เคยไปกู้เงินอีกเลย แต่กลับได้รับหมายศาลจากนายทุนรายเดิมอีก จึงเกิดความสงสัยและเป็นทุกข์

อาจเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนและลูกหนี้ที่ถูกฟ้อง เพราะตอนที่ไปทำสัญญากู้เมื่อปี 2558 นั้นไม่ได้อ่านรายละเอียดในเอกสารสัญญากู้ เห็นเขาให้ลงชื่อรับรองก็ลงชื่อไปในเอกสารหลายแผ่น บางคนบอกว่าเป็นสัญญาลอย ตอนนั้นตนนำโฉนดที่ดินไปยื่นกู้จากนายทุนรายดังกล่าวจำนวน 30,000 บาท ถูกหักวันทำสัญญาร้อยละ 5 เหมือนกันทุกคน แต่อาจจะส่งคืนทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยไม่เหมือนกัน บางคนกำหนดส่ง 20 งวด บางคน 30 งวด

คาดว่าจะมีชาวบ้านได้รับหมายศาลและได้รับความเดือดร้อนเป็นร้อยๆ คน เท่ากับว่าตอนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานคืนโฉนดและเคลียร์หนี้สินให้ไม่มีความหมายอย่างนั้นหรือ จึงพากันมาขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว




ด้านนายสนุน แจะหอม นิติกร ประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากสอบถามชาวบ้านที่มาร้องเรียน ทราบว่ากำหนดขึ้นศาลในเร็วๆ นี้ หลายคนได้จัดหาทนายความเพื่อสู้คดีในชั้นศาลแล้ว หากใครที่ยังไม่ได้ตั้งทนายความสามารถมาปรึกษาที่ศูนย์ดำรงธรรมหรือยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ชาวบ้านใจเย็นๆ เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายไปก่อน และทุกอย่างอยู่ในดุลพินิจของศาล