xs
xsm
sm
md
lg

บล็อกเกอร์ต่างชาติ เผยขั้นตอนตรวจเข้มของสนามบินก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ริชาร์ด แบร์โรว์” บล็อกเกอร์ต่างชาติ โพสต์ข้อความลงในเพจของตนเอง บอกเล่าถึงมาตรการของสนามบินในการตรวจชาวต่างชาติก่อนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เผยสุวรรณภูมิแทบจะเป็นเมืองร้าง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. เพจ “Richard Barrow in Thailand” ของริชาร์ด แบร์โรว์ บล็อกเกอร์ต่างชาติที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากสื่อต่างๆ ทั่วโลก ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน ในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยได้ระบุเป็นภาษาอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Sasi Posayajinda” ได้นำข้อความดังกล่าวออกมาแปลเป็นภาษาไทยเพื่อให้ประชาชนบางกลุ่มที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบิน โดยได้แปลข้อความดังกล่าวว่า

“หลังเครื่องลงจอดแล้ว ทุกคนจะต้องผ่านเครื่องสแกนอุณหภูมิจับความร้อน (thermal scan) หากใครมีไข้จะถูกจับแยกออกมาเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติม เมื่อผ่านจุดตรวจอุณหภูมิในร่างกายแล้วจะมีโต๊ะขายซิมการ์ดในราคา 49 บาท สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องซื้อซิมมือถือใช้ระหว่างอยู่ที่ไทยอยู่แล้ว (เพิ่มเติมจากผู้แปลเอง : คิดว่าเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อการติดตามตัวได้จากระบบมือถือในกรณีที่มีการติดเชื้อ)

ทางเข้าจุดตรวจคนเข้าเมืองจะมีจุดตรวจอีก 1 จุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องกรอกฟอร์ม T8 ขั้นตอนคือต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงบนสมาร์ทโฟน และเข้าไปที่ฟอร์ม T8 ในแอปพลิเคชันนี้ จะต้องถ่ายรูปพาสปอร์ตและอัปโหลดเข้าไป จากนั้นจึงกรอกรายละเอียดต่างๆ เช่น ประวัติการเดินทางก่อนหน้านี้ หมายเลขเครื่องของสายการบินที่นั่งมา หมายเลขที่นั่ง ที่อยู่ที่จะอาศัยในประเทศไทย และสุขภาพโดยทั่วไป

เมื่อกรอกฟอร์มเสร็จและเจ้าหน้าที่ตรวจความถูกต้องเรียบร้อย จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าโถงจุดตรวจคนเข้าเมืองได้ ในบริเวณนี้คนน้อยมาก ผมใช้เวลาประมาณแค่ 1 นาทีในการผ่านจุดนี้ เพราะสถานการณ์ช่วงนี้ทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากนัก ตรงจุดรับกระเป๋าเดินทางก็ค่อนข้างโล่ง ไม่ค่อยมีคนเยอะเช่นเดียวกัน หลายๆสายการบินใช้สายพานส่งกระเป๋าเดียวร่วมกัน ผมใช้เวลารอกระเป๋าแค่ 5 นาทีเท่านั้น

จากนั้นก็ตรงไปที่จุดตรวจศุลกากร ซึ่งบางคนสามารถผ่านจุดนี้ได้เลยโดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าตรวจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง x-ray สแกนตรวจได้เลย ผมผ่านด่านเรียบร้อย แต่คนไทย 2 คนซึ่งอยู่ข้างหน้าผมถูกขอให้เปิดกระเป๋าเดินทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในกระเป๋าเพิ่มเติม ผมเข้ามาถึงภายในบริเวณขาเข้าของสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 5โมงเย็น มันเหมือนเมืองร้างมาก แทบจะไม่มีคนเดินไปมารอบๆ เลย ผมไม่เคยเห็นสภาพสนามบินที่คนโหรงเหรงว่างเปล่าแบบนี้มาก่อน

เมื่อลงมาถึงจุดเรียกรถ taxi ด้านล่าง จุดนี้ก็ว่างเปล่าเวิ้งว้างเช่นกัน มันเริ่มทำให้ผมรู้สึกเศร้า คนขับรถ taxi บอกผมว่า เขามาจอดรถรอคิวอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 09.47 น.แล้ว ผมเพิ่งเป็นผู้โดยสารรายแรกของเขา นั่นแปลว่าเขารอผู้โดยสารมากกว่า 7 ชั่วโมง ผมบอกได้เลยว่าคุณสมชาย (คนขับ taxi) ต้องรู้สึกผิดหวังแน่ๆ ที่ผมเรียกไปในระยะทางไม่ไกลเท่าไร ทำให้เขาได้ค่าโดยสารไม่มากนัก เขาบอกว่าจะวนรถกลับไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็คงไม่ได้ผู้โดยสารแล้ว เขายังบอกอีกว่าเขาต้องนอนในรถด้วย ผมจึงให้เขาไป 1,000 บาท และบอกว่าให้เก็บเงินทอนไว้ และถึงจะไม่มีจุดบ่งชี้ใดที่บอกว่าผมต้องแยกตัวเองออกมา แต่เนื่องจากผมได้ไปอยู่ในสถานที่ที่มีการแพร่เชื้ออย่างต่อเนื่อง ผมจึงยินดีที่จะกักตัวเองเพื่อดูอาการที่บ้านต่อเนื่องตามระยะ 14 วัน โชคดีที่ผมคิดล่วงหน้าเก็บอาหารไว้ในตู้อยู่พอสมควร

อัปเดตเพิ่มเติม

สำหรับใบรับรองสุขภาพและประกันสุขภาพที่ครอบคลุม Covid-19 จะต้องใช้แสดงเพื่อยืนยันก่อนขึ้นเครื่องบิน ไม่ใช่มาแสดงที่ขาเข้าประเทศไทย สายการบินจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกตั๋วโดยสารขึ้นเครื่องให้เลย ถ้าไม่มีใบรับรองสุขภาพมายืนยัน และถ้าคุณมาถึงประเทศไทยแล้วและถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ Covid-19 สายการบินที่คุณโดยสารมาจะต้องเสียค่าปรับอีกด้วย ผมเห็นหลายๆ คนที่ถูกขอให้แสดงใบรับรองสุขภาพ แต่พวกเขาไม่มีและไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องที่สนามบิน Heathrow ที่กรุงลอนดอน”




















กำลังโหลดความคิดเห็น