บล็อกเกอร์ไอทีดังเจอคนร้ายขี่ จยย.ชิงมือถือจากหูในซอยพหลโยธิน 9 ใกล้ตึกเอไอเอส 2 ค้น Find My iPhone ได้พิกัดคนร้ายแท้ๆ แต่ตำรวจยังขอรหัสอีมี่ สุดท้ายได้แค่ลงบันทึกประจำวัน สงสัยขนาดเชี่ยวชาญไอทียังขอความช่วยเหลือยาก แล้วประชาชนทั่วไปเจอมิจฉาชีพจะทำยังไง
วันนี้ (20 มี.ค.) ในเว็บไซต์พันทิป มีผู้ใช้นามแฝงว่า “Jetboat” ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีชื่อดัง ได้ตั้งกระทู้เตือนภัยแก๊งวิ่งราวโทรศัพท์มือถือ ย่านพหลโยธิน ระบุว่า เมื่อค่ำวันที่ 19 มี.ค. ขณะที่กำลังโทรศัพท์อยู่ในซอยพหลโยธิน 9 ใกล้อาคารเอไอเอส ทาวเวอร์ 2 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ดึงโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 โปร สีเขียว พยายามวิ่งตามคนร้าย และมีพลเมืองดีพยายามขี่รถจักรยานยนต์ตามไปแต่ไม่ทัน จากนั้นจึงตั้งสติ เปิดโปรแกรม Find My iPhone เพื่อติดตามพิกัดเป็นระยะ จนเกือบเข้าใกล้ตัวได้แล้ว แต่คนร้ายไหวตัวทันปิดเครื่องไปก่อน ถึงกระนั้นคนร้ายไม่สามารถใช้เครื่องมือถือได้ เพราะโทรศัพท์เครื่องนี้ฝัง eSIM และมีการล็อกทั้งรหัสผ่านเปิดเครื่อง จนถึงระบบสแกนใบหน้า ทันทีที่เปิดจะรู้พิกัดทันที
เมื่อเข้าแจ้งความที่ สน.บางซื่อ และกล่าวว่า เปิดระบบติดตามอยู่ ขอความช่วยเหลือตามหาคนร้าย แม้ตำรวจจะให้ความร่วมมือดี แต่ยืนยันขอรหัสอีมี่ (IMEI หรือรหัสสากลประจำอุปกรณ์เคลื่อนที่) โทรศัพท์มือถือ และกล่าวว่า ถ้าเป็นระบบจีพีเอสจะแม่นยำกว่า ทั้งที่คนปกติคงไม่มีใครจดอีมี่เครื่องไว้ และความคลาดเคลื่อนโปรแกรม Find My iPhone ไม่เกิน 25 เมตร แต่ตำรวจอ้างว่า บางทีไปเจอตึกแล้วมันก็หาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ตรงไหน ขนาดพิกัดที่ชี้ไปถึงบ้านเลขที่ก็ยังไม่ฟังเลย ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับ สน.บางซื่อ และพิกัดคนร้ายอยู่บริเวณปากซอยวัดจอมสุดาราม ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ห่างจาก สน.บางซื่อเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น จึงทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน
หลังจากนั้น ตนจึงขึ้นรถจักรยานยนต์ไปตามหาจากพิกัด Find My iPhone พบว่า คนร้ายไหวตัวทัน ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไปจนถึงคลองถม และพิกัดสุดท้ายที่ได้มา คือ บริเวณถนนพระราม 2 บริเวณวัดยายร่ม เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
“ถ้าตำรวจ สน.บางซื่อ เขาฟังประชาชนบ้าง ผมคงเหนื่อยน้อยกว่านี้ ผมเลยต้องเก็บเส้นทางการหนีของคนร้ายด้วยตัวเองทุกระยะ พรุ่งนี้คงไปแจ้งอีมี่กับทาง สน.บางซื่อ และเอไอเอสก่อน เพราะคอลเซ็นเตอร์ไม่มีสิทธิ์ในการดูพิกัดเหมือนกัน นี่ขนาดผมเป็นคนมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ยังขอความร่วมมือจากตำรวจไทยยากมากเลย แล้วประชาชนทั่วไปจะทำยังไง เมื่อเจอมิจฉาชีพ” ผู้ใช้นามแฝง Jetboat ระบุ
ด้าน เอไอเอส คอลเซ็นเตอร์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า เอไอเอสไม่มีบริการติดตามเครื่องที่สูญหาย เนื่องจากการติดตามเครื่องที่สูญหายนั้นถือเป็นเรื่องของการดำเนินการทางกฎหมาย หากติดต่อแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานกับเอไอเอส เพื่อขอข้อมูลเครื่องที่สูญหาย อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยไม่ต้องติดต่อเอไอเอส เนื่องจากกระบวนการติดตามทางกฎหมายจะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงช่องทางเดียว ส่วนหมายเลขที่ใช้งาน สามารถระงับการใช้บริการชั่วคราวก่อน เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมมอบซิมการ์ดใบใหม่หมายเลขเดิมฟรี
คลิกที่นี่ เพื่ออ่านกระทู้จากเว็บไซต์พันทิป