สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล แจ้งชาวไทยที่มีความจำเป็นต้องเข้าเกาหลี โดยมีมาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)
วันนี้ (18 มี.ค.) เพจเฟซเบุ๊ก “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul” ได้โพสต์ถึงมาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีผลบังคบใช้ในวันที่ 19 มี.ค. 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 โดยเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุข้อความว่า
“มาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอเรียนแจ้งพี่น้องชาวไทยเกี่ยวกับมาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้ทุกคน ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 ดังนี้ค่ะ
1. ผู้เดินทางทุกคนจะต้องกรอก (1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ (Health Declaration) และ (2) บันทึกการเดินทาง (Travel Record Declaration) ที่ได้รับแจกบนเครื่องบิน โดยสำหรับบันทึกการเดินทางจะต้องกรอกข้อมูลช่องทางการติดต่อ (เบอร์โทรศัพท์มือถือ) และที่อยู่ในเกาหลีใต้ด้วย
2. เจ้าหน้าที่กักกันโรคจะตรวจวัดไข้ผู้เดินทางทุกคน รับแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ และทำการตรวจสอบกักกันโรค ในกรณีที่มีอาการของการติดเชื้อไวรัส รวมทั้ง ตรวจโรคหากจำเป็น
3. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะตรวจสอบที่อยู่ภายในประเทศ ช่องทางการติดต่อ (เบอร์โทรศัพท์มือถือ) โดย
(3.1) ผู้เดินทางต้องมีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเปิดใช้งานโรมมิ่งหรือมีซิมการ์ดของเกาหลีใต้ เท่านั้น ในกรณีที่ไม่ได้เปิดใช้บริการโรมมิ่งหรือไม่มีซิมการ์ดของเกาหลีใต้ ผู้เดินทางจะต้องติดต่อซื้อซิมการ์ดของเกาหลีใต้จากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือภายในประเทศ มิเช่นนั้น จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง
(3.2) ผู้เดินทางต้องดาวน์โหลด Self-Diagnosis Mobile Application ของเกาหลีใต้ลงในมือถือ เพื่อรายงานอาการตนเองทุกวันเป็นเวลา 14 วัน โดยหากผู้เดินทางมีอาการเบื้องต้นที่เข้าข่ายติดเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (Korea Center for Diseases Control and Prevention: KCDC) และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะติดตามเพื่อดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป
(3.3) ในกรณี การเดินทางเป็นครอบครัว นั้น หนึ่งครอบครัวอาจมีโทรศัพท์มือถือซึ่งเปิดใช้งานโรมมิ่งหรือมีซิมการ์ดของเกาหลีใต้เพียง 1 เครื่อง แต่ต้องมีเอกสารยืนยันการเป็นครอบครัว
(3.4) หากผู้เดินทางไม่มีโทรศัพท์มือถือ และไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนซึ่งมีที่พำนักภายในเกาหลีใต้ซึ่งสามารถติดต่อได้ จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง
(3.5) ผู้เดินทางไม่สามารถแจ้งที่อยู่โรงแรมเป็นช่องทางการติดต่อได้
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถตรวจสอบที่อยู่ภายในเกาหลีใต้ และช่องทางการติดต่อได้ ผู้เดินทางจะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองค่ะ”
วันนี้ (18 มี.ค.) เพจเฟซเบุ๊ก “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul” ได้โพสต์ถึงมาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีผลบังคบใช้ในวันที่ 19 มี.ค. 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 โดยเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุข้อความว่า
“มาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอเรียนแจ้งพี่น้องชาวไทยเกี่ยวกับมาตรการตรวจคนเข้าเมืองของทางการเกาหลีใต้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้ทุกคน ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 ดังนี้ค่ะ
1. ผู้เดินทางทุกคนจะต้องกรอก (1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ (Health Declaration) และ (2) บันทึกการเดินทาง (Travel Record Declaration) ที่ได้รับแจกบนเครื่องบิน โดยสำหรับบันทึกการเดินทางจะต้องกรอกข้อมูลช่องทางการติดต่อ (เบอร์โทรศัพท์มือถือ) และที่อยู่ในเกาหลีใต้ด้วย
2. เจ้าหน้าที่กักกันโรคจะตรวจวัดไข้ผู้เดินทางทุกคน รับแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ และทำการตรวจสอบกักกันโรค ในกรณีที่มีอาการของการติดเชื้อไวรัส รวมทั้ง ตรวจโรคหากจำเป็น
3. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะตรวจสอบที่อยู่ภายในประเทศ ช่องทางการติดต่อ (เบอร์โทรศัพท์มือถือ) โดย
(3.1) ผู้เดินทางต้องมีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเปิดใช้งานโรมมิ่งหรือมีซิมการ์ดของเกาหลีใต้ เท่านั้น ในกรณีที่ไม่ได้เปิดใช้บริการโรมมิ่งหรือไม่มีซิมการ์ดของเกาหลีใต้ ผู้เดินทางจะต้องติดต่อซื้อซิมการ์ดของเกาหลีใต้จากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือภายในประเทศ มิเช่นนั้น จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง
(3.2) ผู้เดินทางต้องดาวน์โหลด Self-Diagnosis Mobile Application ของเกาหลีใต้ลงในมือถือ เพื่อรายงานอาการตนเองทุกวันเป็นเวลา 14 วัน โดยหากผู้เดินทางมีอาการเบื้องต้นที่เข้าข่ายติดเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (Korea Center for Diseases Control and Prevention: KCDC) และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะติดตามเพื่อดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป
(3.3) ในกรณี การเดินทางเป็นครอบครัว นั้น หนึ่งครอบครัวอาจมีโทรศัพท์มือถือซึ่งเปิดใช้งานโรมมิ่งหรือมีซิมการ์ดของเกาหลีใต้เพียง 1 เครื่อง แต่ต้องมีเอกสารยืนยันการเป็นครอบครัว
(3.4) หากผู้เดินทางไม่มีโทรศัพท์มือถือ และไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนซึ่งมีที่พำนักภายในเกาหลีใต้ซึ่งสามารถติดต่อได้ จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง
(3.5) ผู้เดินทางไม่สามารถแจ้งที่อยู่โรงแรมเป็นช่องทางการติดต่อได้
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถตรวจสอบที่อยู่ภายในเกาหลีใต้ และช่องทางการติดต่อได้ ผู้เดินทางจะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองค่ะ”