รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบแอลกอฮอล์ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรค ว่า ปลอมหรือไม่ หลังพบมิจฉาชีพนำ “เมทิลแอลกอฮอล์” มาหลอกขายว่าเป็น “เอทิลแอลกอฮอล์”
วันนี้ (17 มี.ค.) รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการ และอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Jessada Denduangboripant” ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการง่ายๆ ในการทดสอบแอลกอฮอล์ ว่า ปลอมหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันแอลกอฮอล์ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรค ขาดแคลนและหาซื้อได้ยาก และเริ่มมีมิจฉาชีพทำสินค้าปลอมออกมาขาย รศ.ดร.เจษฎา จึงได้ระบุวิธีตรวจสอบแอลกอฮอล์ที่เราซื้อมานั้น เป็นของปลอมหรือไม่ โดยได้ระบุไว้ทั้งหมด 4 วิธีดังนี้
1. วิธีที่แม่นยำที่สุด คือ “การนำไปวัดจุดเดือด” ด้วยการใส่ในภาชนะทางเคมี ตั้งไฟ แล้วใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิเมื่อถึงจุดเดือด ... เอทิลแอลกอฮอล์ จะมีจุดเดือดประมาณ 78 องศาเซลเซียส ขณะที่ เมทิลแอลกอฮอล์ จะมีจุดเดือดประมาณ 65 องศา
2. วิธีที่ง่ายแต่ไม่แม่นยำ คือ การดมกลิ่น ... เอทิลแอลกอฮอล์ จะมีกลิ่นแบบแอลกอฮอล์ที่แรงกว่าเมทิลแอลกอฮอลฺมาก แต่เมทัลแอลกอฮอล์จะดมแล้วแสบจมูกมากกว่า (อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องระวัง อย่าสูดดมเข้าไปมากเกินไป เพราะจะเป็นพิษต่อร่างกายได้)
3. ทำปฏิกิริยาไอโอโดฟอร์ม iodoform reaction โดยการเอาตัวอย่างแอลกอฮอล์นั้น ใส่หลอดทดลอง เอาไปเติมสารละลายไอโอดีน (เช่น เบตาดีน) ผสมกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (ก็คือ โซดาไฟ) แช่หลอดในอ่างน้ำอุ่น เขย่าหลอด แล้วทิ้งไว้ซัก 2 นาที ... ถ้าเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ จะมีตะกอนสีเหลืองของหมู่ไตรไอโอโดมีเทน CHI3 (triiodomethane) เกิดขึ้น ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์ จะไม่มีตะกอน (การทดลองนี้ อาจจะทำค่อนข้างยากหน่อย)
4. ลองจุดไฟ ดูลักษณะสีของเปลวไฟ เปรียบเทียบกับในคลิปวิดีโอนี้ https://youtu.be/cxd_CH2NIWE ซึ่งเอทิลแอลกอฮอล์ (ด้านขวา) จะติดไฟโชติช่วงและสว่างเป็นสีเหลืองมากกว่า ขณะที่ เมทิลแอลกอฮอล์ (ด้านซ้าย) จะติดไฟน้อยกว่า และแสงจะออกไปทางสีฟ้า
(วิธีทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ใช้ทดสอบในส่วนของแอลกอฮอล์ที่เป็นของเหลวบริสุทธิ์ ไม่ใช่ในรูปของเจลแอลกอฮอล์นะครับ ซึ่งจะมีสารอื่นเข้ามาปนแ ละทำให้ผลการทดลองผิดเพี้ยนได้)
ปล. เตือนอีกครั้งว่า วิธีการทดสอบเจลแอลกอฮอล์ที่แชร์ๆ กันอยู่ เช่น เอาไปจุดไฟ หรือเอาไปทาบนใบเสร็จรับเงิน ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องนะครับ มีสารเคมีอีกหลายตัวที่ผสมอยู่ในเจล และทำให้ผลการทดลองไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ (เช่น กรีเซอรีนในเจล จะทำให้จุดไฟไม่ติด เป็นต้น)