ผู้ใช้ทวิตเตอร์หนุ่มพัทยาวัย 20 ปี มีคนตามกว่า 1.3 แสน ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ระบุโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ แล้วตามสืบจนพบ ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เหตุอัตราโทษสูง เกรงจะหลบหนี พบเป็นคนสนใจประวัติศาสตร์ ชื่นชอบแนวคิด "สมศักดิ์ เจียมฯ" ถึงขนาดนำมาเป็นตัวย่อบัญชี
วันนี้ (20 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัววัยรุ่นชายอายุ 20 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ (ขอสงวนนาม) ที่มีผู้ติดตาม 1.38 แสนคน โดยแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากโพสต์ภาพและข้อความพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในวันนี้ได้นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา ศาลอนุญาตให้ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน เมื่อครอบครัวยื่นขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว จึงได้ควบคุมตัวเข้าเรือนจำ
โดยครอบครัววัยรุ่นชายคนดังกล่าวระบุว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นายนำหมายศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก ก่อนตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และนำตัววัยรุ่นชายพร้อมบิดามารดามาที่ สภ.เมืองพัทยา ก่อนจะแยกสอบสวนวัยรุ่นชายและพ่อแม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานเป็นข้อความในทวิตเตอร์ที่เจ้าตัวโพสต์กว่า 30 แผ่น หลายข้อความพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่จะขอความร่วมมือบอกรหัสผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้ยอมรับว่าเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนั้นจริง
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัววัยรุ่นชายคนดังกล่าวไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ร.ต.ท.ชลวิทย์ อธิพันสีห์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว นำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาฝากขัง โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามไปด้วย ซึ่งในคำร้องขอฝากขังระบุข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560 มาตรา 14 (3) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา”
ในคำร้องขอฝากขังระบุอีกด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบความเคลื่อนไหว พบบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวเปิดใช้งานเมื่อเดือนตุลาคม 2561 โดยพบว่ามีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการรายหนึ่งจากไอพีแอดเดรสถึง 2 ครั้ง และจากการตรวจสอบกับผู้ให้บริการพบว่า เป็นของหมายเลขโทรศัพท์ซึ่งผู้ต้องหาลงทะเบียนเปิดใช้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมให้ผู้ต้องหาเข้าใช้บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว โดยใส่รหัสผ่าน พบว่ามีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และรับว่าตนเป็นผู้โพสต์ จึงจับกุมดำเนินคดี ทั้งนี้ การสอบสวนคดียังไม่เสร็จสิ้น โดยยังต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และรอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลในการฝากขัง กำหนด 12 วัน และยังคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง หากให้ประกันตัวผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี
ต่อมา ศาลจังหวัดพัทยาได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้อง ทางครอบครัวของวัยรุ่นชายคนดังกล่าว ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเป็นเงิน 1 แสนบาท ก่อนที่เวลาประมาณ 15.20 น. ศาลจังหวัดพัทยาจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา ระบุว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง หากปล่อยตัวไป เกรงว่าจะหลบหนี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ทำให้วัยรุ่นชายคนดังกล่าวถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า วัยรุ่นชายผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าว ระบุโปร์ไฟล์ตัวเองว่า มีความสนใจด้านประวัติศาสตร์ มักจะโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองและข่าวสารทั่วไปอย่างเผ็ดร้อน และเป็นผู้ที่ชื่นชอบแนวคิดของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากรัฐบาลฝรั่งเศสมาถึงปัจจุบัน ถึงขนาดนำมาใช้เป็นตัวย่อผสมกับปีที่มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ในการตั้งชื่อบัญชีทวิตเตอร์อีกด้วย