MGR Online - “ดีเจเคนโด้” เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร พิธีกรรายการ “เป็นเรื่อง” ทาง NEWS1 ร้อง ปอท.แจ้งจับ “มณิตา” แม่ทีมอาหารขายเสริม LYN ตัดต่อคลิปเสียง โพสต์ในเฟซบุ๊กทำให้ ปชช.เข้าใจผิดว่าตนสนับสนุนขายสินค้าอาหารเสริมลีน
วันนี้ (1 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้” ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรรายการ “เป็นเรื่อง” ทาง NEWS1 พร้อมด้วยนายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” ทนายความ นำหลักฐานการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและคลิปเสียงที่ถูกตัดต่อ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. พ.ต.อ.ดร.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปอท. ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแม่ทีมอาหารเสริมลดน้ำหนัก LYN (ลีน) หลังพบว่ามีการตัดต่อคลิปเสียงเพื่อสร้างความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (1) นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายเกรียงไกรมาศเปิดเผยว่า สืบเนื่องช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีประชาชนส่งข้อมูลมาให้ตนเกี่ยวกับอาหารเสริม LYN (ลีน) เป็นเลข อย.ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ และเลขฮาลาล เป็นเลขของผลิตภัณ์น้ำปลาชนิดหนึ่ง จึงได้พยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เจ้าของแบรนด์แต่ไม่สะดวก ทำให้ไปสัมภาษณ์แม่ทีมคนหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ชื่อ น.ส.มณิตา รัตนเกษมชัย หรือเอ๋ โดยมีการพูดคุยกันประมาณ 28 นาที แต่บ่ายเบี่ยงไม่ให้ข้อมูล กลับพูดเรื่องอื่นๆ และก่อนวางสายโทรศัพท์ได้ขออนุญาตเพื่อขอเขียนข่าว แต่ น.ส.มณิตาไม่ยินยอมให้ออกอากาศ จึงไม่มีการนำเสนอข่าวประเด็นดังกล่าว
นายเกรียงไกรมาศเผยอีกว่า จากนั้น 2-3 วันต่อมา น.ส.มณิตากลับนำคลิปเสียงสนทนาที่บันทึกไว้นำไปตัดต่อเหลือความยาว 3 นาที โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Manita Rattanakasemchai (Marnie)” และถูกโยงเป็นตัวกลางแก้ตัวให้กับ พจดอกจิก ที่ได้โจมตีเกี่ยวกับอาหารเสริมชนิดต่างๆ ซึ่งจริงแล้วตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพจดังกล่าว เพียงแค่นำเสนอข้อมูลตามหน้าที่ของสื่อมวลชนเท่านั้นเพื่อเตือนผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการคอมเมนต์ด่าทอตนว่าไม่มีจรรยาบรรณและเคลียร์ปัญหาให้กับเพจดอกจิก
“ส่วนคลิป 3 นาทีถูกตัดต่อนั้นพบว่าเป็นคำพูดลักษณะการสนับสนุนสินค้า ขายสินค้าอาหารเสริมลีน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายได้ ทั้งนี้ ทราบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ถูกจับกุมและยุติจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว” นายเกรียงไกรมาศกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปอท.รับเรื่องแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำส่งผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป