xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนจากโคราช! สางขบวนการ “สร้างบ้านขายทหาร” ซื้อถูก-ขายแพง-มีเงินทอน ลุ้น ผบ.ทบ.สังคายนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไขปมชนวนเหตุกราดยิงโคราช วิเคราะห์จากปัญหา “บ้านหลวง” มีไม่พอ สู่ขบวนการ “จัดสรรที่ดิน-สร้างบ้าน” ขายให้ “ทหารชั้นผู้น้อย” ในราคาเกินจริง ซื้อที่ดินเกษตรกรรม ต้นทุน 7 แสน แต่กู้ 1.5 ล้าน หวังส่วนต่างเงินทอน ลุ้น ผบ.ทบ.สังคายนาล้างบ้านกองทัพ ลดความเหลื่อมล้ำก่อนเกษียณ

รายงานพิเศษ

เหตุการณ์สะเทือนขวัญวันพระใหญ่ ที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารสังกัดกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ วัย 48 ปี ผู้บังคับกองพันฯ กับ นางอนงค์ มิตรจันทร์ วัย 65 ปี แม่ยายคาบ้านพัก ก่อนบุกปล้นคลังอาวุธออกมาพร้อมรถฮัมวี่

กระทั่งเกิดโศกนากฏรรมกราดยิงผู้คนไม่เลือกหน้า ทั้งที่วัดป่าศรัทธารวม และศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จ.นครราชสีมา เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 คน ก่อนที่จะจบชีวิต ถูกตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษวิสามัญฆาตกรรม บริเวณห้องเย็นของฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เกต บริเวณชั้น LG หรือชั้นใต้ดิน หลังเหตุการณ์ตึงเครียดกว่า 18 ชั่วโมง

ชนวนเหตุสำคัญมาจากการที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ทำสัญญาเงินกู้ออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (เงินกู้ อทบ.) ประเภทเพื่อการเคหสงเคราะห์จากกองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก จำนวน 1,500,000 บาท เพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้านพักในโครงการจัดสรรแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 5 ต.โคกกรวด อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา


โครงการนี้มีนางอนงค์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เป็นเจ้าของ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 ก.ย. 2562 และอนุมัติจ่ายเงินงวดสุดท้ายเป็นเงิน 375,000 บาทไปแล้ว แต่เหลือส่วนต่าง 50,000 บาท ที่จะต้องคืนเงินแก่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ แต่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ก็ยังไม่ได้รับเงิน จึงเป็นชนวนเหตุดังกล่าว

หลังเหตุการณ์คลี่คลาย นางพรลภัทร์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ อ้างว่าตัวเองและครอบครัวไม่ได้ยักยอกโกงเงินของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เพราะนางอนงค์มีหน้าที่ทำเอกสาร เงินส่วนต่าง 50,000 บาท อ้างว่าได้ให้นายหน้าโครงการไปแล้ว และเมื่อคุยกันนายหน้าอ้างว่าเอาเงินไปเลี้ยงดู ไปเที่ยวผู้หญิงหมดแล้ว

แต่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า สิ่งที่ภรรยาของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์กล่าวไม่เป็นความจริง จ.ส.อ.จักรพันธ์ถูกเบี้ยวเงินส่วนต่างค่าบ้าน ทวงเงินแล้วไม่ได้รับ ยังถูกลงโทษด้วยการอมเบี้ยเลี้ยงและสั่งขังลงโทษ และยังมีค่านายหน้าที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์แนะนำลูกค้ายังไม่ได้รับอีกต่างหาก

เรื่องนี้แม้จะแสวงหาความจริงได้ยากลำบาก เพราะฝ่ายของคู่กรณี พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ แม่ยาย ก็ย่อมที่จะอ้างถึงความชอบธรรมของฝ่ายตนเอง ขณะที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ก็ถูกวิสามัญไปแล้ว เท่ากับ “คนตายพูดไม่ได้ แถมยังเป็นปริศนาว่า “นายหน้า” โครงการนี้เป็นใคร จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แสดงตัวออกมาให้ชัดเจน

มีเพียงข้อความปริศนาของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ก่อนลงมือยิงผู้บังคับบัญชา ระบุว่า “ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบผู้อื่น มันคิดว่ามันจะเอาเงินไปใช้ในนรกได้หรือไง


ย้อนไปถึงที่พักสวัสดิการ ปกติแล้วกองทัพบกจะจัดสรร “ที่พักสวัสดิการ ให้แก่ข้าราชการทหารที่ไม่มีบ้านเป็นของตนเองในจังหวัดที่ปฏิบัติราชการ อาจจะเป็นในรูปแบบของบ้านพักหรือห้องชุด (แฟลต) เรียกกันติดปากว่า “บ้านหลวง โดยไม่คิดค่าเช่าแม้แต่บาทเดียว เสียเฉพาะค่าน้ำ ค่าไฟ ในราคาที่ถูกกว่าภายนอก

ยกตัวอย่างทหารยศ “สิบเอก รายหนึ่ง ซึ่งย้ายเข้ามาอาศัยในแฟลตทหารประมาณ 2 ปี กล่าวกับ MGR Online ว่า แม้จะไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่เสียค่าน้ำค่าไฟตามปกติ โดยจะได้ราคาพิเศษกว่าข้างนอก เช่น ค่าน้ำเดือนละประมาณ 30 บาท ค่าไฟจากที่เปิดเครื่องปรับอากาศทุกคืน เสียประมาณ 300 บาทเศษ

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ที่ผ่านมาที่พักสวัสดิการทหารมีจำนวนจำกัด ทหารที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่จะต้องรอให้ผู้ที่หมดสิทธิในการพักอาศัยย้ายออกไปก่อนจึงจะได้ที่พัก

แต่พบว่าทหารบางนายถูกย้ายไปอยู่หน่วยอื่นกลับไม่คืนบ้านพัก เอาญาติพี่น้องมาอยู่แทน หนักกว่านั้นคือให้เช่าแก่บุคคลอื่น ทั้งที่ตามระเบียบทำไม่ได้ แถมนายทหารบางคนที่เกษียณอายุราชการไปแล้วยังคงอาศัยในบ้านพักสวัสดิการทหารโดยไม่ย้ายออกไปที่อื่น หนำซ้ำยังคงใช้สวัสดิการยานพาหนะ และกำลังพลรับใช้อีกต่างหาก

แม้ที่พักสวัสดิการทหารจะให้อยู่ฟรี ค่าน้ำ ค่าไฟถูก แต่ตามระเบียบให้อยู่ได้จนถึงเกษียณอายุราชการ คืออายุ 60 ปีเท่านั้น หลังจากนี้ต้องย้ายออกไป ข้าราชการทหารส่วนหนึ่งอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองเพื่อสร้างครอบครัวที่มั่นคง และเป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลาน

เมื่อกล่าวถึงการจัดสรรที่ดินเพื่อเป็นสวัสดิการทหาร ย้อนกลับไปเมื่อ 30 พ.ค. 2548 มติคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร เห็นชอบให้นำ ที่ดินราชพัสดุ ที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการที่พักอาศัยให้ข้าราชการและลูกจ้างกองทัพบกมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในลักษณะสัญญาเช่าระยะยาวในอัตราที่ผ่อนปรน

มี.ค. 2554 สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กองทัพบกนำร่องตั้งโครงการจัดสรรที่ดินครั้งแรก ใช้ที่ดิน 83 ไร่ บริเวณบ้านน้ำลัด ต.ริมกก อ.เมืองฯ จ.เชียงราย นำมาจัดสรรเอง โดยมีราคาบ้านตั้งแต่หลังละ 600,000-1,850,000 บาท สัญญาเช่า 30 ปี สามารถต่อสัญญาได้ และเบิกค่าเช่าซื้อได้ตามสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้าราชการทหารอีกส่วนหนึ่งที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองในลักษณะเป็น ที่ดินมีโฉนด มากกว่าแค่สัญญาเช่าระยะยาว กลายเป็นช่องทางที่ทำให้ นายทหารระดับสูง บางคน ไปจับมือกับ นายทุนอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกิจจัดสรรที่ดินในลักษณะเอกชน แล้วนำมาขายให้ ทหารชั้นผู้น้อย โดยเฉพาะ

ภาพ : ช่อง 9 MCOT HD
บ้านเดี่ยวสองหลัง เนื้อที่หลังละประมาณ 40 ตารางวา พื้นที่บ้านโป่งแมลงวัน หมู่ 5 ต.โคกกรวด อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา หนึ่งในนั้นคือบ้านพักของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ มือกราดยิงโคราช ตามรายงานข่าวระบุว่าบ้านหลังนี้มีเพียงรองเท้าคอมแบตถอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนด้านในบ้านมีเพียงเต็นท์สนามกางอยู่

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ทำเลที่ตั้งของบ้าน จ.ส.อ.จักรพันธ์ ตั้งอยู่ ไกลปืนเที่ยง กลางไร่ข้าวโพด ไปตามถนนลูกรังเล็กๆ ห่างจากถนนมิตรภาพ ลึกเข้าไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองนครราชสีมากว่า 20 กิโลเมตร ที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเกษตรกรรม หากคิดตามราคาประเมินจะอยู่ที่ประมาณ ไม่กี่ร้อยบาท เท่านั้น

ตามรายงานข่าวระบุว่า ราคาที่ดินทำเลดังกล่าว 40 ตารางวา ไม่น่าจะถึง 1 แสนบาท หากรวมค่าสร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 7 แสนบาทเท่านั้น

ตามระเบียบของ กองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก ระบุว่า เงินกู้ อทบ.เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ต้องรับราชการทหารไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยนำโฉนดที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดมาเป็นหลักประกันเงินกู้ ยื่นคำขอกู้ผ่านหน่วยงานต้นสังกัด

ทหารชั้นยศพลอาสาสมัคร (พล.อ.ส.) ถึงจ่าสิบเอก (จ.ส.อ.) จะได้รับวงเงินกู้สูงสุด 1,500,000 บาท ผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 40 ปี นับอายุผู้กู้เป็นเกณฑ์ โดยชำระคืนให้เสร็จสิ้นก่อนอายุ 65 ปี

ตามขั้นตอนจะพบว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ กู้เงิน อทบ.จำนวน 1,500,000 บาท เพื่อปลูกสร้างอาคาร โดยได้รับเงินออกเป็น 3 งวด ตามอัตรา 2:1:1 ได้แก่ งวดแรกจำนวน 750,000 บาท (50%) งวดที่ 2 จำนวน 375,000 บาท (25%) และงวดที่ 3 จำนวน 375,000 บาท (25%) ซึ่งจะได้รับก็ต่อเมื่องานก่อสร้างได้ดำเนินการเสร็จตามขั้นตอน

รายงานข่าวระบุว่า ถ้าจะกู้เงิน อทบ.เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ไปสร้างบ้านเป็นของตัวเอง จะต้องใช้หลักฐานที่ดินและต้องสร้างบ้านจริง แต่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ไม่มีหลักทรัพย์ จึงใช้บริการนางอนงค์ เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร ผ่านทาง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และมีศักดิ์เป็นลูกเขยของนางอนงค์

จากเงินกู้ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ จำนวน 1,500,000 บาท คู่กรณีคือนางอนงค์ คิดราคาที่ดินและสร้างบ้านอยู่ที่ 1,100,000 บาท เพราะฉะนั้น เงินจำนวน 400,000 บาท เรียกว่า เงินทอน จะตกเป็นของผู้กู้ คือ จ.ส.อ.จักรพันธ์ แต่ระหว่างนั้นจะต้องจ่ายค่าหัวคิวให้ นายหน้า เดินเรื่องเอกสาร เพราะต้องให้ผู้บังคับบัญชาอนุญาต

นอกจาก จ.ส.อ.จักรพันธ์แล้ว รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ยังมีทหารชั้นผู้น้อยที่ไปกู้เงิน อทบ.เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ถูกบรรดา นายหน้า โกงเงินทอนกว่า 1,000 คน เสียหายตั้งแต่ 50,000 ถึง 500,000 บาท เฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีไม่ต่ำกว่า 400 คน ที่ผ่านมาทำได้แค่ใช้วิธีหาทางร้องเรียนขอให้กองทัพบกตรวจสอบเรื่องนี้ ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรม

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ชี้แจงว่า การปล่อยเงินกู้เป็นไปตามระเบียบที่ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของหน่วย สามารถดำเนินการยื่นได้ที่หน่วยโดยตรง และยืนยันว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ไปซื้อของเอกชน ไม่เกี่ยวกับโครงการบ้านของกรมธนารักษ์เช่าที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน


นอกจากประเด็นทหารชั้นผู้น้อยถูกนายหน้าโกงเงินแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ขบวนการจัดสรรที่ดินเพื่อสร้างบ้านขายให้ทหารชั้นผู้น้อย โดยพบว่ามี นายทหารระดับสูง ร่วมกับ นายทุน ด้านอสังหาริมทรัพย์ กว้านซื้อที่ดินเกษตรกรรม หรือที่ดินห่างไกลเมือง 10-20 ไร่ จากชาวบ้านราคาถูก

ก่อนจะนำไปจัดสรรแบ่งโฉนดย่อย 40-50 ตารางวา แล้วให้นายทหารระดับสูงไปชักชวนทหารชั้นผู้น้อยให้มาซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านบนแปลงที่จัดสรรไว้ โดยมีการทุจริตในลักษณะ ปั่นราคา ให้สูงขึ้น พอดีกับวงเงินกู้ อทบ.สูงสุด ทั้งๆ ที่ดินเหล่านี้ราคาประเมินต่ำ และต้นทุนสร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวไม่กี่แสนบาท

บรรดานายทหารระดับสูง ล่อใจทหารชั้นผู้น้อยให้กู้เงิน อทบ.ซื้อที่ดินและปลูกบ้าน โดยอ้างว่า “จะมีเงินทอนให้” และเมื่อทหารชั้นผู้น้อยเห็นเงินทอนก้อนโตล่อตาล่อใจ จึงตัดสินใจซื้อที่ดินและปลูกบ้าน

ปรากฏว่ากรรมไปตกอยู่กับทหารชั้นผู้น้อย เวลาเงินเดือนออกจะถูกหักชำระเงินกู้ อทบ.ก่อนทุกงวดเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ทหารเหล่านี้เกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะเงินเดือนไม่พอใช้ บางคนถูกหักสารพัด เหลือแค่อย่างน้อย 1 ใน 3 ของยอดเต็ม ที่ซวยซ้ำสองก็คือ หากเจอนายหน้าโกง จ่ายเงินส่วนต่างไม่ครบก็ยิ่งช้ำใจหนักเข้าไปอีก

ฝ่ายที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คงจะเป็น นายทุน ที่กินส่วนต่างในลักษณะ ซื้อถูก-ขายแพง เอาที่ดินไกลปืนเที่ยงมาสร้างบ้านปั่นราคา ฟันกำไรมากกว่า 4-5 แสนบาท ส่วน นายทหารระดับสูง ได้ผลประโยชน์จากนายทุนในลักษณะ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เพราะถ้าไม่มีผู้บังคับบัญชาชักชวนทหารชั้นผู้น้อยซื้อบ้าน นายทุนก็ไม่ได้ลูกค้า


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า เคยมีโครงการบ้านสวัสดิการ ที่หน่วยงานบางหน่วยร่วมมือกับพ่อค้าโดยมีการวิ่งเต้น และยืนยันว่ามีข้อมูลเชิงลึกที่จะเอาผิดนายทหาร ตั้งแต่ระดับนายพลถึงพันเอก จะลงโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการในช่วงเดือน ก.พ.ถึง เม.ย.ที่จะถึงนี้

พร้อมกันนี้ยังเตรียมจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากนายทหารชั้นผู้น้อย ส่งตรงถึง ผบ.ทบ.โดยตรง เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหากำลังพลไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ แม้จะเหลือเวลาก่อนเกษียณอายุราชการเพียง 7-8 เดือนก็ตาม

ความไม่เป็นธรรม การเอารัดเอาเปรียบ ระหว่าง “ผู้บังคับบัญชา” กับ “ทหารชั้นผู้น้อย” ไม่ได้มีเพียงแค่กรณีกราดยิงที่โคราชเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายกรณีที่ทหารชั้นผู้น้อยเลือกที่จะอยู่กับปัญหาอย่างเงียบๆ เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ถือเป็นโจทย์สำคัญที่กองทัพบกจะต้องสังคายนาเพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส

ถึงเวลา “ล้างบ้าน” กองทัพบกให้สะอาด ไม่ให้เป็นบ่อเกิดของการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ของบาดแผล ความเจ็บปวด และการสูญเสีย เฉกเช่นเหตุกราดยิงที่โคราชเกิดซ้ำรอยเกิดขึ้นมาอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น