xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง โปรดเกล้าฯ กรมหลวงพัชรฯ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์ เรือนจำกลางเขาบิน ทอดพระเนตรกิจกรรมเสียงเพลงศิลปะบำบัดจิตใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพประชาชนทุกภาคส่วนให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกันทุกหมู่เหล่า ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขังที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่จะดูแลรักษา สมควรมีสิทธิ์ได้รับการรักษาดูแลสุขภาพอนามัย อันเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม และเมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ อันเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรทนาถบพิตร เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพหลังจากพันโทษ

วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฐานะที่ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้กับเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี และเรือนจำกลางนครปฐม จ.นครปฐม และพระราชทานรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ต้องขังและประชาชนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จ.นครปฐม จ.ราชบุรี ได้ใช้ประโยชน์ ณ เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี

การนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทอดพระเนตรการตรวจรักษาผู้ต้องขังป่วย โดยแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี ด้วยระบบ Telmedicnie ซึ่งเรือนจำกลางเขาบินได้รับคัดเลือกให้เป็นเรือนจำนำร่องโครงการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมในการใช้พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล อันเป็นการรักษาทางไกลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยผู้ต้องขังสามารถตรวจรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล และทอดพระเนตรการสาธิตการทำฟันและจักษุ โดยแพทย์จากโรงพยาบาลราชบุรี

จากน้ันทรงเปิดมุมสุขภาพ “ราชทัณฑ์ ปันสุข”ทอดพระเนตรการสาธิตของ พระเนตรอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.ชาย) ในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่ง อาสาสมัครฯ1 คน จะดูแลผู้ป่วย 50 คน โดย อสรจ.ชายจะทำหน้าที่ การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR และทำการตรวจวัดเชื้อ HIV ผ่านทางช่องปากโดยใช้แผ่นเทปผสมน้ำยา ซึ่งสามารถอ่านผลได้ภายใน 20 นาที และพระราชทานถุงพระราชทานให้กับผู้ต้องขังชายป่วย จำนวน 3 ราย ผู้ต้องขังพิการและชราจำนวน 18 ราย พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ นิทรรศการจิตอาสา เราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของเรือนจำและทัณฑสถานในเขตพื้นที่7 และโรงพยาบาลในเขตพื้นที่5

ทอดพระเนตรการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังและการใช้ศิลปะบำบัดใจ โดยโครงการศิลปะบำบัดใจมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ต้องขังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และผ่อนคลาย ในขณะที่อยู่ภายในเรือนจำ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ต้องขังด้วยกัน ที่จะได้มีวิชาความรู้ความสามารถติดตัวภายหลังพ้นโทษออกไป

ต่อมาทอดพระเนตรการแสดงร้องเพลงประสานเสียงของผู้ต้องขังจำนวน 3 บทเพลง ประกอบด้วยเพลงราชทัณฑ์ปันสุข ซึ่งเป็นบทเพลงที่ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มิเคยทรงทอดทิ้งผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่หลังกำแพง หากแต่ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ทรงเล็งเห็นว่าผู้ต้องขังทุกคนควรได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน จึงทรงก่อตั้งโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เพลงแสงว่างแห่งความยุติธรรม เป็นเพลงที่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบินประพันธ์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร เจ้าหญิงนักกฎหมายที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย กำลังพระทัย ในการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้มีกำลังใจในการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากพ้นโทษ เปรียบประหนึ่งทรงเป็นแสงสว่างแห่งความยุติธรรม ปิดท้ายด้วยเพลงตอบแทนน้ำพระทัย อันเป็นบทเพลงที่ผู้ต้องขังเรือนจำราชบุรี ประพันธ์ขึ้นเพื่อถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร ที่ทรงเป็นดังแสงจันทร์สาดแสงส่องสว่างนำทางให้กับผู้ต้องขังทุกคนให้ได้มีกำลังใจในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และผู้ต้องขังทุกคนจะตอบแทนน้ำพระทัยด้วยการตั้งใจเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่กลับมาทำผิดซ้ำเมื่อพ้นโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ผู้ต้องขังทุกคนขับร้องเพลงประสานเสียงถวายต่อหน้าพระพักตร์ ผู้ร่วมงานและผู้ขับร้องเพลงทุกคนต่างน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

การนี้ก่อนเสด็จฯกลับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร ทรงมีพระปฎิสันธารสอบถามสารทุกข์สุขดิบของผู้ต้องขังอย่างไม่ถือพระองค์ ยังความปลาบปลื้มใจและสำนึกในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ผู้ต้องขัง

เรือนจำกลางเขาบินปัจจุบันมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 2,896 คน มีผู้ต้องขังเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 158 คน รองลงมาคือโรคเบาหวาน จำนวน 46 คน โรคHIV จำนวน 43 คน และผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 25 คน นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นอีกเช่น วัณโรค หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง และโรคตา และในส่วนของฝ่ายสาธารณสุขของจังหวัดราชบุรี ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาผู้ต้องขังป่วย มีโรงพยาบาลแม่ข่ายและมีจิตอาสา เราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีส่วนร่วมด้านการช่วยเหลือด้านการแพทย์ การพยาบาล และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เรือนจำกลางเขาบิน ยังได้รับบริการทันตกรรม จากมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปีละ 1 ครั้ง ทันตแพทย์จิตอาสา จากโรงพยาบาลดอนตูมเดือนละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้เรือนจำกลางเขาบินได้มีการตรวจรักษาผู้ต้องขังป่วยโดยวิธี Telemedicine ในส่วนของโรงพยาบาลนครปฐม มีการจัดระบบ VDO conference สำหรับผู้ป่วยจิตเวช และมีแผนจะจัดระบบ VDO conference ที่แผนกฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นนวัตกรรมในการทำงาน และมีความก้าวหน้าอย่างมากในส่วนของฝ่ายสาธารณสุข

การดำเนินงานโครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขังในการเข้าถึงการได้รับรักษาพยาบาลแล้ว ทำให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขมากขึ้น ทำให้ผู้ต้องขังดีใจ คลายกังวลในเรื่องการเจ็บป่วย และยังเป็นต้นแบบให้กับเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเรือนจำเป้าหมายได้นำแนวทางไปปฏิบัติต่อไป ซึ่งส่งผลดีที่ผู้ต้องขังมีโอกาสเข้าถึงการเข้าถึงการรักษา พยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน