“สมชัย” ชี้ดูจากสถิติย้อนหลัง เวลาที่ศาล รธน.นัดอ่านคำวินิจฉัย คดีเสียบบัตรแทนกัน (7 ก.พ.) บ่ายวันศุกร์ มักออกมาเป็นข่าวดี ส่วนคดียุบพรรคอนาคตใหม่ปมเงินกู้ (21 ก.พ.) นัดบ่ายสาม ยิ่งบ่ายยิ่งส่อไม่รอด แนะเตรียมทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจสำรองไว้เลย แต่ยืนยันคำเดิมกู้เงินไม่ผิด หากผิดพรรคอื่นต้องโดนด้วย
วันที่ 6 ก.พ. 63 รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ผอ.ศูนย์วิจัยการเมือง และการพัฒนา ม.รังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในประเด็น “7 ก.พ./21ก.พ. 2 คดีใหญ่ จะออกหน้าไหน”
รศ.สมชัยกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติกรณีเสียบบัตรแทนกันในวันที่ 7 ก.พ. ถ้าเป็นไปตามคำวินิจฉัยในอดีต พ.ร.บ.งบฯ 63 ก็จะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ไม่รู้ ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีมุมมองอื่นๆ แล้ววินิจฉัยว่าไม่ผิดก็ได้
มีคนตั้งข้อสังเกตว่าศาลนัดไต่สวนเร็วกว่าที่คาด โดยไม่ไต่สวน เรื่องงบฯ ต้องเร็วอยู่แล้ว เพราะประเทศเดือดร้อน ฉะนั้นวินิจฉัยยิ่งเร็วยิ่งดี ส่วนที่ไม่มีการไต่สวน เพราะคงมองจากสิ่งที่ปรากฏก็น่าจะเพียงพอในการวินิจฉัยได้
รศ.สมชัยกล่าวอีกว่า ถ้า พ.ร.บ.งบฯ เสียไป ก็ต้องเริ่มขั้นตอนใหม่ให้ทันก่อนปิดประชุมสภาฯ 29 ก.พ. ต้องขอร้อง ส.ส.ให้ช่วยผลักดันพิจารณาอย่างรวดเร็ว ส่วนการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เสี่ยงที่จะถูกทางสภาถามกลับว่าจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร ซึ่งไม่น่าเป็นทางออกที่ใช้ได้ หรือที่บอกว่าศาลอาจให้โมฆะบางมาตรา เฉพาะมาตราที่เสียบบัตรแทนกัน ก็แปลกๆ อยู่ ในเมื่อกระบวนการมันเสียก็ต้องเสียทั้งหมด
หากเทียบกับกรณีเงินกู้ 2 ล้านล้าน ไม่ต่างกัน ในเรื่องกระบวนการที่เสียบบัตรแทนกัน ถ้าใช้บรรทัดฐานเดิม ผลต้องออกมาเหมือนเดิม
รศ.สมชัยกล่าวอีกว่า จากสถิติย้อนหลัง เวลานัดของศาลสามารถคาดเดาผลได้ คดีเสียบบัตรแทนกัน นัด 7 ก.พ. เวลาบ่ายครึ่ง มักจะเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย ส่วนคดียุบพรรคอนาคตนใหม่ปมเงินกู้ 191 ล้านบาท นัด 21 ก.พ. เวลาบ่ายสาม มักจะเป็นข่าวร้ายมากกว่า
รศ.สมชัยกล่าวต่อว่า การตัดสินยุบพรรคการเมืองเป็นการตัดสินประหารชีวิต รุนแรงสุดของพรรคการเมือง ฉะนั้นควรให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายแสดงข้อเท็จจริง การเปิดไต่สวนน่าจะเป็นภาพที่ดี แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น
การนัดฟังคำวินิจฉัย 3 วันก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีสิ่งที่ทำให้เป็นปัญหากับพรรคที่เกี่ยวข้องโดยตรง วันนี้อนาคตใหม่สติสตังไม่มีแล้วในการหาข้อมูลอภิปราย เพราะต้องถูกแบ่งไปชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ ถูกมัดมือมัดเท้าไป สมมติถูกยุบ ส.ส.ทั่วไปย้ายพรรคได้ใน 60 วัน เกิดการแตกสานซ่านเซ็น ส่วนกรรมการบริหารพรรค 10 คน ถูกวางไว้เป็นตัวอภิปรายสำคัญเกินครึ่ง วันอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะไม่มีสิทธิแล้ว อนาคตใหม่อาจต้องเตรียมทีมอภิปรายฯไว้ 2 ทีม
แต่ตนยังยืนยันมาตลอด อนาคตใหม่กู้เงินไม่ผิด ไปดูงบการเมืองพรรคต่างๆ ปีไหนๆ ทั้งหมดในรายการหมวดหนี้สิน ปรากฏเงินยืม เงินกู้ มีทั้งกู้หัวหน้าพรรคก็มี กู้กรรมการบริหารพรรคก็มี รายงานต่างๆ เหล่านี้ เฉพาะปี 61 มีพรรคกู้เงินทั้งหมด 18 พรรค ยืมเงิน 16 พรรค รวมเป็น 34 พรรค ยุบไปแล้ว 1 พรรค คือ ไทยรักษาชาติ และระหว่างรอดำเนินคดีอีก 1 คือ อนาคตใหม่ การกู้ยืมเงินเกิดมาตลอด ง่ายๆ ตั้งแต่รัฐประหารปี 57 เป็นต้นมา พรรคการเมืองถูกห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แล้วเงินจะมาจากไหน ไม่มีก็ต้องยืมเงินชาวบ้านมา ดังนั้นตามหลักตนเชื่อว่าไม่ผิด หากผิดพรรคการเมืองอื่นก็ผิดด้วย