"รสนา" เสนอแก้ PM 2.5 ใน กทม. ช่วงระยะสั้นลดค่าโดยสารสาธารณะครึ่งราคา เพื่อลดการใช้รถส่วนตัว พร้อมกับกำหนดระยะเวลาชัดเจนเปลี่ยนรถเมล์เป็นไฟฟ้าทั้งหมด เผยแนวคิดให้ประชาชนที่มีที่ดินเยอะใช้ทำเป็นพื้นที่สีเขียวแล้วนำไปลดภาษีได้
วันที่ 5 ก.พ.63 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "จาก PM2.5 ถึงโคโรนาไวรัส ข้อเสนอต่อรัฐบาล"
โดย น.ส.รสนา กล่าวถึงปัญหา PM 2.5 ใน กทม.ว่า การที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งหยุดการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 วัน ก็สามารถแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง แต่ฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างเป็น PM10 แล้วกรุงเทพฯมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ PM 10 มันเลยคลุมเหมือนฝาชี พอการก่อสร้างมากก็คลุมมากขึ้น พอลมสงัด ไม่มีฝน ฝุ่นก็ยิ่งคลุมเมือง รถติดก็ปล่อย PM 2.5 แล้วก็ไม่สามารถไปไหน อยู่ภายใต้ PM 10
ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว PM 2.5 ในกรุงเทพฯ มาจากรถยนต์ 26 เปอร์เซ็นต์ เผาในที่โล่งราว 20 เปอร์เซ็นต์ การเผานี่ต้องเข้มงวดจริง ๆ ไม่ใช่แค่ต่างจังหวัด แต่ชานเมือง กทม.นี่แอบเผาประจำ ให้ไปดูบ้าง
น.ส.รสนา กล่าวอีกว่า การเสนอให้ลดการเอารถส่วนตัวมาใช้ ในช่วงสั้น ๆ ถ้าไม่สามารถให้ฟรีค่าโดยสารรถสาธารณะก็ลดครึ่งราคา
นอกจากนี้รถประจำทางบางคันปล่อยควันดำเสียเอง รัฐบาลควรกำหนดเลย เช่นรถเมล์เก่าที่ถึงอายุต้องเปลี่ยนใหม่ ควรให้เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด แล้วต้องตั้งเป้าหมายว่าภายในปีไหนเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด อย่างน้อยสนับสนุนให้มีรถไฟฟ้าเข้ามาใช้ สร้างแรงจูงใจ เช่นลดภาษีนำเข้า ส่วนรถเมล์ระหว่างที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าได้ ตอนนี้ก็ส่งเสริม B20 แต่มันมีงานวิจัยพบว่าต้องใช้น้ำมันที่ผสมไบโอดีเซล 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถึงจะมีผลอย่างมีนัยสำคัญในการลด PM 2.5
น.ส.รสนา กล่าวต่อด้วยว่า พื้นที่สีเขียวก็ควรเพิ่ม มีชาวบ้านเสนอว่าเอาพื้นที่ตัวเองสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวแล้วเอาไปลดภาษีได้ไหม อันนี้น่าศึกษาว่า กทม.มีอำนาจตรงนี้ไหม
