"ท่าอากาศยานไทย" เผย ตั้งมาตรการเข้มงวดเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยได้มีการตรวจสอบสาเหตุ และติดตามสถานการณ์อย่างใก้ชิดทั้ง 6 ท่าอากาศยานหลักในประเทศไทย
วันนี้ (5 ม.ค.) ท่าอากาศยานไทย ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "AOT Official" เผยแพร่การเฝ้าระวังสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ณ เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจหาสาเหตุโดยระบุข้อความว่า
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตามที่มีการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ณ เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งว่าทางการจีนได้ดำเนินการสอบสวนโรคและอยู่ระหว่างการตรวจหาสาเหตุโดยขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุก่อโรค แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่ใช่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก อะดิโนไวรัส หรือโรคทางเดินหายใจที่พบได้ทั่วไปนั้น ในส่วนของ ทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ขอแจ้งให้ทราบว่า ปัจจุบันมีเที่ยวบินที่ทำการบินจากเมืองอู่ฮั่นมายังท่าอากาศยานของ ทอท.เพียง 4 แห่ง ได้แก่
1. ทสภ.มีสายการบิน China Southern Airlines ทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อวัน
2. ทดม. มีสายการบิน Thai Air Asia ทำการบิน 2 เที่ยวบินต่อวัน
3. ทภก. มีสายการบิน Thai Air Asia ทำการบิน 2 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบิน China Southern Airlines ทำการบินเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน (10 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2563)
4. ทชม. มีสายการบิน Air China ทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์)
ด้านการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบโรคดังกล่าว ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.มีการประสาน และติดตามสถานการณ์ โดยได้ประชุมร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และในเบื้องต้นได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง โดยขอความร่วมมือให้เที่ยวบินลงจอดตามจุดที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ ซึ่งด่านควบคุมโรคฯ ได้ตั้งเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อคัดกรองตามขั้นตอนสาธารณสุข ก่อนผู้โดยสารจะแสดงตนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองต่อไปกรณีพบผู้ต้องสงสัยป่วยบนเครื่อง สายการบินจะสรุปเหตุการณ์และส่งให้ฝ่ายการแพทย์ของท่าอากาศยานตรวจสอบ ยืนยันทางข้อมูลก่อนที่เครื่องบินจะลงจอด โดยจะขอให้จำกัดบริเวณผู้โดยสารเที่ยวบินนั้นไว้ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายการแพทย์และด่านควบคุมโรคฯ ทั้งนี้ หากมีการยืนยันการพบผู้ป่วยจากโรคดังกล่าว ทอท. ด่านควบคุมโรคฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามแผนฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เรื่องโรคติดต่ออันตรายต่อไป นอกจากนี้เพื่อสุขภาพอนามัยของผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน ทอท.ได้เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของ ทหญ.และ ทชร.ซึ่งไม่มีเที่ยวบินที่ทำการบินจากเมืองอู่ฮั่น ก็ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานด่านควบคุมโรคฯ รวมทั้งได้กำหนดมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทอท.ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะที่เป็นพิษ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว รวมถึงการรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
นอกจากนี้ สำหรับคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ หากเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ขอให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 และผู้โดยสารสามารถสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและการให้บริการของ ทอท.ได้ที่ AOT Call Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ฉบับที่ 1/2563 วันที่ 5 มกราคม 2563
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0 2535 5245 โทรสาร 0 2535 5216
อีเมล aot_media@airportthai.co.th