“กรมสุขภาพจิต” เตือนการกลั่นแกล้งในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น พร้อมแนะวิธีรับมือ

เพจ “กรมสุขภาพจิต” เผยภาพอินโฟกราฟิก เผยถึงความร้ายแรงของการกลั่นแกล้ง หรือบูลลี่ ในสถานศึกษา พร้อมแนะทางออกหากอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว

จากเหตุการณ์สุดสลดเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนดังย่านรัตนาธิเบศร์ สางแค้นเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลังถูกล้อเป็นตุ๊ด เกย์ ขโมยปืนของพ่อจ่อหัวเพื่อนยิงขณะก้มถอดรองเท้าก่อนพยายามหลบหนี แต่ไปไม่รอดถูกครูจับได้พร้อมของกลาง จนเหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนสอนสังคมได้อย่างมากมาย

ล่าสุด วันนี้ (19 ธ.ค.) เพจ “กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข” ได้ออกมาโพสต์รูปภาพและระบุข้อความว่า “การกลั่นแกล้ง/รังแก (Bullying) ในโรงเรียน จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป” โดยรูปภาพที่ได้เปิดเผยนั้น เป็นผลกระทบของการถูกกลั่นแกล้ง หรือที่เรียกว่าการบูลลี่ ถึงผลกระทบและความรู้สึกของผู้ที่ถูกบูลลี่ว่าจะมีความรู้สึกอย่างไร โดย “กรมสุขภาพจิต” ได้แบ่งประเภทของการกลั่นแกล้งไว้ 3 ทาง ทางที่ 1 ทางร่างกาย แบ่งออกเป็น การชกต่อย การผลัก การตบตี ทางที่ 2 ทางสังคมหรือด้านอารมณ์ แบ่งออกเป็น การกดดัน การยั่วยุ และการแบ่งแยก ทางที่ 3 ทางวาจา แบ่งออกเป็น การดูถูก การนินทา การเยาะเย้น การเสียดสี การโกหกบิดเบือน สำหรับ CYBERBULLYING แบ่งออกเป็น การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ การหลอกลวง การคุกคามทางเพศ และโพสต์ข้อความโจมตี

สำหรับผลกระทบของผู้ที่กลั่นแกล้งผู้อื่น อาจจะส่งผลให้อาจจะเติมโตเป็นผู้ใหญ่ที่เสพติดแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดอื่นๆ มีพฤติกรรมลักขโมยและเรียนไม่จบ มีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันควร ร้ายแรงก้อาจจะถึงขั้นเป็นอาชญากรในอนาคต และมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับคู่สมรสหรือลูกและคนใกล้ตัว

สำหรับผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งจะมีภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล และจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น ด้านการนอนหลับ การรับประทานอาหาร ภาวะซึมเศร้าอาจส่งผลไปถึงวัยผู้ใหญ่ได้ ประสิทธิภาพทางการเรียนลดลง ส่งผลต่อความรู้สึกโดดเดี่ยว สูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่พวกเขาเคยสนุก มีแนวโน้มที่จะออกจากโรงเรียนกลางคันมากขึ้น

สุดท้าย วิธีรับมือเมื่อบุตรหลานถูกกลั่นแกล้ง ต้องตั้งสติให้รู้ตัวว่ากำลังเจอกับการรังแก อย่าให้ผู้กลั่นแกล้งรู้สึกสนุกจากการตอบสนองของเรา อยู่ในที่ปลอดภัยมีเพื่อนที่เข้าใจอยู่เคียงข้าง หากการกลั่นแกล้งยังรุนแรงให้พูดคุยกับผู้ใหญ่ที่เข้าใจและรู่วิธีจัดการ ไม่เลือกใช้กำลัง เพราะนั้นอาจเป็นสิ่งที่ผู้กลั่นแกล้งต้องการ มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและคุณค่าของเรา หรือวิธีสุดท้าย เดินจากไปอย่างสงบไม่ใส่ใจ