วันนี้ (30 พ.ย.) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน นายชาญวิทย์ กันยา ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายไมตรี แสงอริยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 (ตรัง) นำทีมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งชุดปฎิบัติการฉลามขาว , ชุดปฏิบัติการกรมป่าไม้ , กรมอุทยานฯ กอ.รมน.ตรัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กว่า 80 นาย โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ร่วมตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนภายใต้แผน” ปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” รวม 2 แปลง เนื้อที่กว่า 240 ไร่
หลังลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีนายทุนเข้าบุกรุกครอบครอง โดยแปลงแรกบุกรุกทำนากุ้ง อยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี และในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนคลองหวายตน ป่าชายเลนคลองสุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เนื้อที่ 81 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด และแปลงที่ 2 บุกรุกปลูกสวนปาล์มน้ำมันอยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีและเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย หมู่ที่ 3 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เนื้อที่ 159 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา มีการปลูกปาล์มเต็มพื้นที่อายุกว่า 10 ปี ไม่พบตัวผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันบันทึกตรวจยึดและนำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีที่ สภ.ปะเหลียนและ สภ.สิเกา เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายโสภณ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลน จ.ตรัง ที่ถูกนายทุนบุกรุกในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามแผนการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นไปตามนโยบายสำคัญของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. ที่เน้นนโยบายไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าทั้งนายทุนรายใหญ่และรายใหม่ อย่างเด็ดขาดอีกต่อไป พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 24 จังหวัดชายฝั่งทะเลที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าชายเลนให้เฝ้าตรวจตราป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกใหม่และเร่งนำพื้นที่ที่ตรวจยึดที่ผ่านขั้นตอนตามกฎหมายแล้วมาปลูกฟื้นฟูเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้คืนสู่ความสมบูรณ์ต่อไป
"การบูรณาการกำลังพลจากหลายหน่วยงานในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันให้พี่น้องประชาชนเห็นได้อย่างเด่นชัดว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังอย่างยิ่งกับการดำเนินคดีกับนายทุนผู้บุกรุก เราจะไม่ยอมให้ใครมายึดถือเอาที่ดินสาธารณะที่เป็นสมบัติของชาติและของประชาชนทั้งประเทศ ไปเป็นสมบัติหาประโยชน์ทำธุรกิจส่วนตนอย่างเด็ดขาดตามนโยบายของรัฐมนตรี ทส." นายโสภณ กล่าว