วันนี้ (9 พ.ย.) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ภายหลัง นายวราวุธ ศิลปอาชา เข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรีทส.คนใหม่ ขณะนี้ได้ดำรงตำแหน่งครบ 3 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาทำงานขับเคลื่อนงานสิ่งแวดล้อมในหลายเรื่อง โดยผลงานชิ้นโบว์แดง คือ การบรรลุข้อตกลงกับห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ ในเครือข่ายรวม 47 องค์กรภาคี เช่น ห้างเซ็นทรัลฯ ห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ เทสโก้ โลตัส ห้างแม็คโคร เซเว่นอีเลฟเว่น เดอะมอลล์ สยามพารากอน โฮมโปร ร้านค้าวัตสันส์ บูทส์ ฯลฯ ให้ร่วมกันยกเลิกแจกถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ได้สำเร็จ โดยทุกร้านค้าและทุกสาขา พร้อมใจกันหยุดให้บริการแจกถุงพลาสติกหูหิ้วแก่ลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เป็นต้นไป ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาขยะพลาสติก ส่งผลกระทบเชิงลบต่อระบบนิเวศน์เป็นอย่างมาก โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนขยะถุงพลาสติกหูหิ้วกว่าครึ่งหนึ่งทั่วประเทศ
นายโสภณ เผยอีกว่า รมว.ทส. ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนงานสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง โดยในช่วงการเริ่มต้นการทำงานช่วงไตรมาสที่ 2 ขอเปลี่ยนบทบาทรัฐมนตรีชั่วคราว ถอดหมวกข้าราชการฝ่ายบริหารมานั่งพบปะ พูดคุยกับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ในฐานะเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน ภายในกิจกรรมเสวนา “Talk To Top Vol.1 : Go Green Together กับ ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” ซึ่งจัดขึ้น ณ ร้านเดอะบิทเทอร์แมน ซอยศาลาแดง 1 ถนนสีลม กรุงเทพฯ รวมถึงไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Top Varawut ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาร่วมพูดคุยอย่างผ่อนคลาย พร้อมร่วมกันเปิดใจถึงปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนวคิด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้ตรงจุดใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ สถานการณ์ป่าไม้ไทยและแนวโน้มการจัดการภาวะโลกร้อน พื้นที่สีเขียวกับคุณภาพชีวิตคนเมือง และขยะพลาสติกในชีวิตประจำวัน
ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มรุ่นใหม่ กลับเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ความตั้งใจของกิจกรรมครั้งนี้ เพราะอยากเอาตัวเองออกมาจากระบบราชการ แล้วมานั่งฟังความในใจของประชาชนที่แท้จริง ทั้งนี้ เพื่อหาจุดลงตัวในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตนเชื่อว่า ไม่มีทางเราจะรอบรู้และเข้าใจได้ทุกอย่าง โดยไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนจากทุกฝ่าย วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ตนได้มารับฟัง และพูดคุยกับเพื่อนบ้านของตนว่าเค้าเห็นอะไร คิดอะไร และกำลังเจอกับปัญหาอะไรในทุกวัน เพื่อนำข้อเท็จจริงไปปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการทำงานใน ทส.ต่อไป และสิ่งสำคัญคือ เป็นโอกาสที่ให้เราทุกคนได้มาทำความรู้จัก พร้อมสร้างเครือข่ายของพลเมืองที่มีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสังคมที่ใส่ใจในปัญหาสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การต่อยอดในการทำงานร่วมกันต่อไป เพราะตนเชื่อว่าการจะบรรลุเป้าหมายโดยการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศสีเขียวได้นั้น จะต้องช่วยกันทั้งภาครัฐและภาคประชาชน เพราะตบมือข้างเดียวไม่มีวันดัง
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกและเลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองเริ่มต้น ถือเป็นกิจกรรมรูปแบบทดลองของตนในการพูดคุย จะมีการนำกระบวนการที่เรียกว่า Design Thinking เข้ามาเป็นกรอบในการพูดคุยเพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งภายหลังเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียน ร่วมกิจกรรมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Top Varawut ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา พบมีผู้สนใจร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมงานอย่างล้นหลามในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จนต้องปิดลงทะเบียนก่อนกำหนดเพื่อจะได้ร่วมรับฟังความเห็นจากผู้เข้าร่วมกันอย่างทั่วถึง ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
“หลังจากจบการสนทนา ผมจะนำปัญหาที่ได้รับฟังทั้งหมดไปทำ Solution Matching ต่อ วันนี้ผมให้อธิบดีจากกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาแฝงตัวนั่งฟังแบบเงียบๆ ด้วย แล้วเราจะได้ร่วมกันทำงานต่อได้อย่างตรงประเด็น เชื่อว่าต่อไปจะมีโอกาสได้จัดกิจกรรมในรูปแบบนี้อีกเรื่อยๆ เพราะผมเชื่อว่าประเด็นสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่คนไทยหลายๆคน กำลังตื่นตัวและให้ความสำคัญ และต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหามากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต” นายวราวุธ กล่าว