“ปฐม อินทโรดม” ชี้ปัจจุบันสินค้าจีนทะลักไทยอยู่แล้ว “อาลีบาบา” ตั้งศูนย์กระจายสินค้าในเขตฟรีโซน อี-คอมเมิร์ซ พื้นที่อีอีซี จึงไม่เพิ่มความเสียเปรียบไปจากเดิมมาก แนะผู้ประกอบการเลิกเป็นแค่คนกลางซื้อมาขายไป แต่ต้องรู้จักสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่าสินค้า คาดอีก 2 ปี ถ้าไม่ปรับตัวไปไม่รอดแน่
วันนี้ (5 พ.ย.) นายปฐม อินทโรดม กรรมการดิจิทัล อีโคโนมี & อี-คอมเมิร์ซ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ฟรีโซนอุ้มอาลีบาบา!! ทางรอดคนขายออนไลน์?”
จากกรณีที่อาลีบาบาจะมาตั้งศูนย์กระจายสินค้าในเขตฟรีโซน อี-คอมเมิร์ซ ในพื้นที่อีอีซี โดยกังวลกันว่าสินค้าจีนจะทะลัก ทำผู้ประกอบการไทยตายเรียบ
โดยนายปฐมกล่าวว่า ความกังวลเรื่องปลอดภาษีว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติ บางครั้งตกใจกลัว แต่ไม่มองข้อเท็จจริง ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าต่อให้ไม่มีอีอีซี ทุกวันนี้สินค้าจากจีนก็หลั่งไหลเข้ามาไทยมหาศาลอยู่แล้ว ผ่าน อี-มาร์เก็ตเพลส อย่างพวกพวกช้อปปี้ ลาซาด้า ฯลฯ ซึ่งช่องทางนี้ไม่ต้องเสียภาษีอากรขาเข้า เพราะถือเป็นรายย่อย ถ้ากลัวเรามากลัวปัจจุบันดีกว่า หากเรายังคงทำแค่ซื้อมาขายไปโดยไม่มีการสร้างแบรนด์ เพิ่มมูลค่าสินค้า แย่แน่ แล้วหากเขามาตั้งศูนย์กระจายสินค้า สามารถสต๊อกของได้ ก็จะส่งได้เร็วกว่าเดิม เราไม่ได้เสียเปรียบมากกว่าในอดีตเท่าไหร่ เพราะเราเสียเปรียบอยู่แล้ว
นายปฐมกล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่ได้จำกัดแค่จีน ไทยก็ไปตั้งที่อีอีซีได้ เราควรเรียนรู้การทำงาน เทคโนโลยีต่างๆ จากเขา เราต้องก้าวข้ามการเป็นคนกลาง
ปัจจุบัน อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ใช้วิธีซื้อของราคาถูกมาขายแพง เด็กพวกนี้เก่งรู้จักหาตลาดแล้วทำยอดขายได้ดีมาก แต่วันนึงเมื่อลูกค้าพบช่องทางซื้อขายได้โดยตรงเราลำบากแน่นอน เชื่อว่า 1-2 ปีนี้ยังขายได้ดี แต่เกิน 2 ปีไป น่าจะยากแล้ว
โครงสร้าง อี-คอมเมิร์ซไทย เรารู้สึกว่า อี-มาร์เก็ตเพลส น่าจะขายดี แต่จริงๆ แล้วมาร์เก็ตแชร์ของช่องทางนี้มีแค่ 27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 24 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของสินค้าขายเองผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง แล้วที่เหลือก้อนใหญ่ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ คือ โซเชียลคอมเมิร์ซ พวกไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สัดส่วนตรงนี้ใหญ่มาก แต่ใหญ่มากก็น่ากลัว เพราะถ้าจีนมาขายเองโดยตรงเราลำบากแน่
นายปฐมกล่าวต่ออีกว่า ต่อให้อาลีบาบาไม่มา เราก็เสียเปรียบอยู่แล้ว เราบุกกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เอาแค่ว่าทำตลาดอยู่ในประเทศเราเอง ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีทำ คนจะมุ่งไปที่สินค้าจีน เพื่อควบคุมต้นทุนได้ แต่มีคุณภาพตามที่ต้องการไหม บางทีโรงงานไทยมีรองรับเพียงพอแล้วไม่ต้องไปจีน เช่น เสื้อผ้า โรงงานของเราแข่งขันกับจีนไม่ได้เพราะการดีไซน์ หาตลาดไม่ได้ ฉะนั้นภาครัฐควรลงมาช่วยจับคู่โรงงานกับเอสเอ็มอี ซึ่งเก่งในเรื่องออกแบบ หาตลาด ต้องจับมือกันเองในประเทศ
ส่วนสิทธิพิเศษขยายเวลาเสียภาษีนำสินค้าออกนอกเขตเป็น 14 วัน จากเดิม 1 วัน นายปฐมกล่าวว่า เชื่อว่า ไม่มีรัฐบาลไหนเจรจาการค้าแล้วทำประเทศตัวเองเสียเปรียบ ถ้าอ่านเงื่อนไขจะเห็นว่ามันดีต่อเราแน่ๆ เขาไม่ได้ปิดกั้นเราเข้าไปมีส่วนในอีอีซีได้ และได้เรียนรู้การทำงานของชาวจีน