“ปราชญา” ผู้เชี่ยวชาญแพทย์แผนจีน ต้นตำรับการผลิตและปรุงยาล้ำค่ากว่า 70 ชนิด มากว่า 100 ปี เป็นผู้ นำเข้า-ส่งออกสมุนไพรอันดับหนึ่งของเมืองไทย ร่วมกับเซลล์ดีเอ็กซ์ และทีมนักวิจัยภาควิชาเภสัช วิทยาศิริราช สนับสนุนทุนโดย สกว. ร่วมสร้างนวัตกรรมใหม่วิจัยพัฒนาตำรับยาสมุนไพร โดยใช้เทคโน- โลยีโอมิกส์ เทคนิคใหม่ล่าสุดที่สามารถบอกสรรพคุณยาโดยมีหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ มุ่งหวังผู้บริโภค สามารถเลือกใช้สมุนไพรที่มีมาตรฐานรับรองได้อย่างมั่นใจ ล่าสุด ปฏิวัติรูปแบบการรับประทาน สมุนไพร โดยเตรียมอวดโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ เจลลี่สมุนไพร “ถั่งเช่าและบี-โกจิ” ขยายกลุ่มผู้บริโภค ตอกย้ำผู้นำตลาด ทุ่มงบ 200 กว่าล้าน สร้างศูนย์ดูแลสุขภาพแนวทางแพทย์แผนจีน หรือ Chinese Medical Hub
นายชุติพงศ์ กอร์ปอริยจิต ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท กุยลิ้มฮึ้ง-ปราชญา จำกัด ได้กล่าวถึงโครงการร่วมมือวิจัยพัฒนาสมุนไพร พร้อมจัดเวทีเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ “สมุนไพร Thailand 4.0 ยุคแห่งการก้าวกระโดด” ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่15 ที่ผ่านมา ณ บู้ธปราชญา อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า “ปราชญา” ได้เริ่มต้นจากตรวจรักษาด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน พัฒนาตำรับยาเพื่อ รักษาคนไทยมานานกว่า 100 ปี เป็นต้นตำรับในการผลิตและปรุงยามากถึง 70 ชนิด ตลอดจนขยายธุรกิจเพิ่ม มาสู่การเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกสมุนไพรอันดับ 1 ของเมืองไทย เนื่องด้วยมีตำรับยาอันทรงคุณค่าที่สามารถ รักษาได้ครอบคลุมทุกระบบของร่างกาย มีการต่อยอดหาวิธีสกัด กลั่นยาด้วยเครื่องมือทันสมัยในการพัฒนา รูปแบบยาโดยมีงานวิจัยรับรองจาก สวทช. ทั้งในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพในการดูแลรักษา
สำหรับ “ปราชญา” ถือเป็นบริษัทยาแผนโบราณที่อยู่ในแวดวงสมุนไพรมายาวนาน ประกอบกับมีบริการตรวจรักษาโดยแพทย์แผนจีน ที่เชี่ยวชาญรักษาด้วยสมุนไพรถึง 3 ช่วงอายุคน
“สิ่งที่เราทำในวันนี้เราอยากบอกให้ทุกคนได้รู้จักประโยชน์ของสมุนไพร ซึ่งสมุนไพรธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ที่เราจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืน การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จากความรู้จริง ล่าสุด “ปราชญา” ได้ร่วมลงนามกับบริษัท เซลล์ดีเอ็กซ์ จำกัด บริษัทที่ก่อตั้งมาเพื่อยกระดับการผลิตและพัฒนาสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สานต่อ “ปราชญา” เข้าร่วมในโครงการวิจัยร่วมมือวิจัยพัฒนาสมุนไพรร่วมกับองค์กรจากภาครัฐ SSIP ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทย์ ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภายใต้การสนับสนุนทุนการวิจัยจาก สกว. ซึ่งโครงการวิจัยฯ นี้ใช้เทคโนโลยีโอมิกส์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ สามารถตรวจสอบให้รู้ถึงสรรพคุณ ฤทธิ์ยา และประสิทธิภาพของยาสมุนไพรและตำรับยาจีนได้ละเอียดถึงโมเลกุล โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตำรับยาเดิม เน้นสร้าง หลักฐานประจักษ์เชิงวิทยาศาสตร์ให้กับสมุนไพร ซึ่งแผนความร่วมมือในการวิจัยพัฒนาของปราชญาครั้งนี้ ตามนโยบาย Thailand 4.0 เป็นแนวคิดของบริษัทฯ ที่ตั้งใจพัฒนาสมุนไพรธรรมชาติ เข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมให้เกิดเป็นรูปธรรม เราหวังว่าโครงการวิจัยฯนี้ จะช่วยต่อยอดในเชิงพาณิชย์ เกิดประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม ทั้งยกระดับคุณภาพสมุนไพรไทยเพื่อให้ก้าวสู่ระดับสากลได้ด้วย การมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยอมรับอย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญต่อผู้บริโภคที่จะเลือกใช้สมุนไพรได้อย่าง มั่นใจในสรรพคุณและตัดสินใจบริโภคได้ง่ายขึ้น” นายชุติพงศ์ กล่าว
ทายาทรุ่น 3 ยังยอมรับว่า การแข่งขันตลาดสมุนไพรในปัจจุบันค่อนข้างสูงมาก แต่ในปีที่ผ่านมาปราชญาและบริษัทในเครือ ก็มีผลดำเนินการค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 600 กว่าล้านบาท และในปีนี้ 2561 เขาตั้งเป้าที่ประมาณ 1000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20% โดยคาดว่าจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจาก เจลลี่ สมุนไพร ถั่งเช่า และบี-โกจิ และสินค้าใหม่ๆ อีกหลายชนิด อาทิ สมุนไพรบรรจุขวดเป็นของทานเล่น ชาสมุนไพร แชมพู สบู่ ฯลฯ จะเป็นตัวเสริมให้ยอดขายเราทะลุเป้าหมายได้ นอกจากนี้ทาง ปราชญา เรามีแผนพัฒนาการเติบโตและรักษาภูมิปัญญาอันล้ำค่าทางด้านแพทย์แผนจีนและตำรับยาจีน ด้วยการเตรียมสร้างศูนย์ดูแลสุขภาพแนวทางแพทย์แผนจีน หรือ Chinese Medical hub บนพื้นที่ 20 ไร่ที่อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี พัฒนาเป็นศูนย์การแพทย์จีนใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพฟื้นฟูแบบครบวงจร มีพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้ อบรมแพทย์แผนจีนซึ่งเป็นศาสตร์ทางเลือก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาทซึ่งคาดว่าศูนย์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 นี้
ด้าน นางโสภิดา กอร์ปอริยจิต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท กุยลิ้มฮึ้ง- ปราชญา กล่าวถึงการดำเนินงานล่าสุด ว่า ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในรูปแบบ ของทานเล่น ตามแนวคิดหลักคือ Candy but healthy ด้วยการนำเสนอ 2 สูตรก่อนในเบื้องต้น นั่นคือ เจลลี่ สมุนไพร “สูตรถั่งเช่าและสูตรบี-โกจิ” ซึ่งถั่งเช่าช่วยบำรุงสุขภาพ และบี-โกจิ ช่วยในการบำรุงสุขภาพ สายตา ผิวพรรณ และเส้นผมที่จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงเรื่องสมุนไพรได้อย่างเด่นชัด และยังเป็นวิธีที่บำรุงสุขภาพได้อย่างง่ายและรวดเร็ว อนาคตนี้มีแผนจำหน่ายในตลาดร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในเร็วๆ นี้ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะถูกต่อยอดจากงานวิจัย ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่รัก และใส่ใจในการดูแลสุขภาพอย่างตรงจุด ขยายฐานกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของปราชญาที่มีจำหน่าย ที่เยาวราช ร้านขายยาทั่วไปและร้านขายยากรุงเทพฯ แต่เราต้องการให้คนไทยได้มีโอกาสทดลองผลิตภัณฑ์ ของเราอย่างแพร่หลาย”