วานนี้ (8 ก.ค.) เวลา 13.00 น. ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ราษฎรบนพื้นที่สูงประจำปี พ.ศ.2561 จำนวน 284 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
“โครงการพระธรรมจาริก” เป็นโครงการที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินงานร่วมกับคณะพระธรรมจาริก และมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร สมเด็จพระศรีนครินทราบรมนาถชนนี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมา เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูง เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านจิตใจและการศึกษา ด้วยการสร้างจิตสำนึกความเป็นไทยและความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้แก่ราษฎรบนพื้นที่สูง ซึ่งตลอดระยะเวลา 53 ปีที่ผ่านมา โครงการพระธรรมจาริกได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการถวายปัจจัยเครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุนการพัฒนางานพระธรรมจาริกมาโดยตลอด
ปัจจุบันโครงการพระธรรมจาริก มีสำนักงาน 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) สำนักงานประธานคณะพระธรรมจาริก ตั้งอยู่ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และ 2) สำนักงานพระธรรมจาริกส่วนภูมิภาค วัดศรีโสดา พระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังมีอาศรมพระธรรมจาริกอีก 313 อาศรม แยกเป็นอาศรมหลัก 170 อาศรม และมีพระธรรมจาริกปฏิบัติงานในพื้นที่ 320 รูป ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 53 ปีแห่งการสถาปนาโครงการพระธรรมจาริกนั้น มีผู้ที่ผ่านการบรรพชาอุปสมบท จำนวนทั้งสิ้น 10,909 คน ผู้ที่ยังครองสมนะเพศเป็นพระธรรมจาริก จำนวน 546 รูป แบ่งเป็นพระภิกษุ 139 รูป และสามเณร 407 รูป
ทั้งนี้ ในปี 2561 มีผู้ขอบรรพชาอุปสมบทหมู่ทั้งสิ้น 284 รูป จาก 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน น่าน ราชบุรี ลำพูน เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พะเยา เพชรบูรณ์ เลย แพร่ ลำปาง อุทัยธานี สุพรรณบุรี กำแพงเพชร พิษณุโลก และสุโขทัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งผู้ที่ผ่านการบรรพชาอุปสมบทแล้วจะต้องปฏิบัติตน ดังนี้ 1) สามเณร ต้องศึกษาพระธรรมวินัย หลักสูตรสามัญทั่วไป หลักสูตรนักธรรม และหลักสูตรบาลี หลักการดำเนินงานของพระธรรมจาริก และ 2) พระภิกษุ ต้องศึกษาหลักการดำเนินงานของพระธรรมจาริกและออกไปประจำอาศรม เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ราษฎรบนพื้นที่สูง
กระทรวง พม.ขอเป็นสื่อกลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูงของคณะพระธรรมจาริก ถึงแม้ว่า ความห่างไกลของพื้นที่จะเป็นอุปสรรค แต่ศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมจาริก จะนำพาชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูงให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืนต่อไป