นายกฯ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และพระบรมวงศานุวงศ์ ขอพระบารมีปกเกล้าฯคุ้มครองเจ้าหน้าที่ให้ทำงานสำเร็จเรียบร้อย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และย้ำภารกิจนำ 13 ชีวิตออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย พร้อมดูแล ปชช.พื้นที่รับน้ำ ขณะเดียวกันให้เป็นบทเรียนสำหรับบรรเทาภัยพิบัติในอนาคต
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่านายกฯ ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ได้พระราชทานกำลังใจ และสิ่งของพระราชทาน ตลอดจนขอพระบารมีปกเกล้าฯ คุ้มครองเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้ประสบความสำเร็จในการทำงานด้วยความเรียบร้อย
พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวว่า จากนั้นนายกฯ กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ อาสาสมัคร เอกชน พี่น้องประชาชน ชาวต่างชาติ และหน่วยงานจากต่างประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ชมเชยการทำงานของทุกภาคส่วนว่าเป็นแบบอย่างการทำงานแบบบูรณาการ เป็นบทเรียนที่ต้องนำมาศึกษาในการปฏิบัติภารกิจในอนาคตต่อไป นอกจากนั้น ได้ฝากความห่วงใยขอให้นำทั้ง 13 คนออกมาด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย อีกทั้งให้พิจารณาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำ และปรับให้คืนสภาพเดิมโดยเร็ว
พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ด้านผู้ว่าฯ ได้รายงานสรุปสถานการณ์ที่สำคัญว่าหน่วยซีลได้เข้าไปในถ้ำตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 2 ก.ค. 61 เพื่อนำอาหาร น้ำ และยา เข้าไปดูแลผู้ประสบภัยซึ่งในขณะนี้ก็ยังคงอยู่กับเด็กๆ และโค้ชในถ้ำ สำหรับภารกิจต่างๆ ในวันนี้ยังคงดำเนินการต่อไป โดยจะมีการสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่อง ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างภายในถ้ำ และโทรศัพท์เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ ทั้งนี้ ก่อนจบการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมและให้กำลังใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และประชาชนทุกคน ขอให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเน้นย้ำขอให้การทำงานครั้งนี้เป็นบทเรียนในการบรรเทาภัยพิบัติในอนาคต