ปริมาณน้ำในถ้ำลด ห้องโถงทั้ง 3 ห้อง เกือบจะเดินได้แล้ว มีการสแตนด์บายชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำของเด็ก รอน้ำบางจุดลดอีกหน่อย เพื่อให้เด็กโผล่หัวขึ้นมาหายใจได้ จะได้ไม่ต้องดำน้ำยาวตลอดถ้ำ โดยวันนี้จะนำเครื่องจับแรงสะเทือนมาใช้หาโพรงลงไปช่วยเด็กอีกทาง
วันที่ 5 ก.ค. เวลา 23:20 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย แถลงถึงความคืบหน้าเด็กทั้ง 13 คนที่ติดภายในถ้ำหลวง ว่า ตอนนี้ปริมาณน้ำในถ้ำลดเป็นที่น่าพอใจ รอแค่ว่าปริมาณน้ำในบางจุดจะลดและสามารถโผล่หัวขึ้นมาได้เพื่อหายใจ ไม่ต้องดำน้ำยาวตลอดถ้ำ ซึ่งทางเราก็พยายามหาวิธีที่จะนำเด็กออกมาและเป็นไปได้มากที่สุด
รวมถึงได้สั่งอุปกรณ์เข้ามาบางชุดแล้ว อย่างชุดว่ายน้ำของเด็กและอุปกรณ์ดำน้ำของเด็กก็ได้ส่งเข้ามาแล้วเพื่อสแตนด์บายไว้ แต่วันนี้ก็ถือว่าโชคดีที่ฝนไม่ตกลงมา ทำให้น้ำลดลงพอสมควรเหมือนเป็นนัยสำคัญ เพราะน้ำที่เติมเข้ามา 2 สาย ก็ปิดไปหมดแล้ว แต่บางจุดก็มีน้ำเติมเข้ามาเช่นกัน เนื่องจากเป็นเขาหินปูน ทำให้น้ำภายนอกไหลลงตรงไหนก็เข้ามาในถ้ำ แต่ทางเราเองก็ยังมีการระบายน้ำได้ดี ทำให้ห้องโถงทั้ง 3 ห้อง เกือบจะเดินได้แล้ว แต่ยังมีจุดวิกฤต คือ ช่วงที่คล้ายกับท่อชักโครก หรือ ช่วงคอห่าน คือ ตรงทาง 3 แยกในถ้ำ ที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำน้ำขนอุปกรณ์เข้าไป แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา น้ำตรงจุดนี้ทางเราก็ได้ดูดน้ำออกไปแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถขนอุปกรณ์เดินและคลานเข้าไปได้โดยไม่ต้องดำน้ำอีก
ส่วนแผนจะนำเด็กออกมาด้วยการว่ายน้ำ หรือดำน้ำออกมานั้น ตอนนี้ยังมีจุดวิกฤอยู่จุดเดียวที่มีความเสี่ยง คือ เด็กต้องดำน้ำคนเดียว ซึ่งเป็นจุดที่แคบและน้ำก็ลึกมาก และเป็นทางยาวพอสมควร โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ประกบ ซึ่งทางเราก็พยายามหารือกันอยู่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไร ณ ขณะนี้ และการนำเด็กออกมาในช่วงเวลาไหนนั้น ตามทฤษฎีแล้วช่วงเวลากลางคืนน่าจะเหมาะสมที่สุด โดยที่ไม่โดนแสงแดด เนื่องจากเด็กๆ อยู่ในที่มืดมานาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับความเสี่ยงเราต้องทำให้เป็นแค่ศูนย์เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สภาพร่างกายเด็กตอนนี้ ส่วนใหญ่ยังดีอยู่ แต่ก็มีอยู่ 3 คน ที่มีอาการอ่อนแอ และการที่จะนำเด็กออกมาได้นั้น ทางเราต้องประเมินให้แน่ชัดก่อนว่าจะทำด้วยวิธีไหน และไม่ขึ้นอยู่เสมอไปว่าจะนำเด็กที่แข็งแรงออกมาก่อน หรือนำเด็กที่อ่อนแอออกมาก่อน มันขึ้นอยู่กับว่าเด็กคนไหนมีความพร้อมมากกว่ากัน และไม่จำเป็นด้วยว่าจะต้องนำเด็กออกมาพร้อมกันทั้ง 13 คน เพราะอาจจะเสี่ยงได้ ทั้งนี้ ต้องรอดูสถานการณ์ของปริมาณน้ำภายในถ้ำด้วยว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกหรือไม แต่วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การนำเด็กเดินออกมาจากถ้ำ แต่ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้
ส่วนการลากสายอากาศออกซิเจนนั้น ทางเราเตรียมไว้ประมาณ 5 กิโลเมตร เข้าไปในถ้ำ พร้อมกับเติมออกซิเจนเข้าไปด้วย เพราะมีคนเข้าไปทำงานภายในถ้ำจำนวนมากขึ้น โดยมีวิธีทั้ง 2 แบบ คือ ใช้ถังให้แต่ละคนได้ใช้อากาศ และอีกแบบคือเติมทั้งระบบด้วยการอัดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ขณะที่การต่อสายโทรศัพท์ตอนนี้ยังเท่าเดิมอยู่ แต่เมื่อเราเดินสายท่อหรือสายไฟเข้าไปเราก็จะนำไปพร้อมกันด้วย
ขณะที่การหาโพรงลงไปช่วยเด็กๆ ออกมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็เดินหากันอยู่หลายจุด แต่ในวันพรุ่งนี้ทางเราจะมีอุปกรณ์มาอีก 1 ชิ้น คือ เป็นเครื่องการจับแรงสะเทือน ซึ่งถ้าได้อุปกรณ์ชิ้นนี้มาใช้ ก็จะให้คนไปเคาะภายในถ้ำเพื่อเช็กการสั้นสะเทือนว่าอยู่ตรงจุดไหน ซึ่งเราก็พยายามทำทุกวิถีทาง แต่มันจะดีหรือไม่ดีนั้นก็ต้องลองทำดู เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็สั่งตรงมาจากต่างประเทศเพื่อเข้ามาใช้งานนี้โดยเฉพาะ