เดลิเมล์ - สื่อต่างประเทศรายงานกองทัพเรือไทยจัดพิธีรับศพ จ่าเอก สมาน กุนัน อย่างสมเกียรติ หลังอดีตนาวีซีลของไทยรายนี้ เสียชีวิตในปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ด้าน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แพร่ถ้อยแถลงแสดงความเสียใจกับครอบครัว พร้อมยกย่องในความกล้าหาญและความเสียสละ
เดลิเมล์ รายงานว่า จ่าเอก สมาน กุนัน วัย 38 ปี เสียชีวิตหลังจากขาดอากาศหายใจและหมดสติภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ระหว่างปฏิบัติการดำน้ำเพื่อวางถังอากาศ ในภารกิจช่วยเหลือนักเตะเยาวชน 12 คน และโค้ชทีมหมูป่าที่ติดอยู่ภายในออกมา โดย จ่าเอก สมาน ขาดอากาศตอนประมาณ 08.00 น. และคู่บัดดี้ไม่สามารถกู้ชีพเขาได้ทัน
สื่อแห่งนี้รายงานว่า ศพของเขาถูกลำเลียงทางอากาศกลับไปยังบ้านเกิดในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับศพจ่าสมานไว้ในพระราชานุเคราะห์ และรับสั่งให้จัดงานอย่างสมเกียรติ ในขณะที่ภาพถ่ายเป็นภาพที่นายทหารกำลังลำเลียงโลงศพของเขาที่ประดับด้วยธงชาติ
ในขณะเดียวกันนั้น ได้ปรากฏคลิปวิดีโอหนึ่งเป็นภาพของ จ่าเอก สมาน อยู่ที่สนามบินแห่งหนึ่ง โดยกำลังเตรียมตัวบินไปร่วมภารกิจกู้ภัยและแสดงความหวังว่าจะพาตัวเด็กๆ กลับบ้าน เดลิเมล์รายงาน
เดลิเมล์ ระบุว่า ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่เตือนว่าโอกาสที่จะช่วยเด็กๆ ให้ได้รับอิสรภาพ ตอนนี้ค่อนข้างจำกัดท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีฝนตกหนัก
เว็บไซต์ข่าวแห่งนี้อ้างคำแถลงของ พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ระบุว่า “ตอนแรก เราคิดว่าเด็กๆ อาจต้องอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปแล้ว เวลาเรามีจำกัด”
ด้าน พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนที่สุดขณะนี้ คือ การนำท่ออากาศเข้าไปภายในถ้ำหลวงให้ถึงพวกเด็กๆ เร็วที่สุด
พล.ร.ต.อาภากร บอกว่า จ่าเอก สมาน ซึ่งปัจจุปันเป็นเจ้าหน้าที่ระงับเหตุ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สมัครใจมาช่วยปฏิบัติการค้นหาเด็กๆ ทีมหมูป่า โดยเดลิเมล์รายงานว่า ข้อความสุดท้ายที่ จ่าเอก สมาน โพสต์บนเฟซบุ๊ก คือ ภาพที่เขาโพสท่าด้วยความภาคภูมิใจกับเพื่อนๆ บริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวง
รายงานของเดลิเมล์ ระบุว่า ปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ ยังคงเดินหน้าที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้วยสมาชิกนาวีซีลของไทยและพวกผู้เชี่ยวชาญนานาชาติกำลังพยายามหาทางช่วยเด็กๆ ออกมา
เวลานี้ทีมกู้ภัยกำลังตรวจสอบแนวทางต่างๆ ในการช่วยเหลือเด็กๆ ในนั้น รวมถึงให้พวกเขาสวมหน้ากากออกซิเจนแบบเต็มหน้าและดำน้ำ พร้อมกับพวกเขาผ่านเส้นทางถ้ำที่ยาวและแสนอันตราย อย่างไรก็ตาม เดลิเมล์ ระบุว่า เหตุเสียชีวิตของนักประดาน้ำที่มีประสบการณ์อย่าง จ่าเอก สมาน ตอกย้ำถึงความเสี่ยงในความพยายามพาเด็กออกมา ในขณะที่น้องๆ มีร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวัน
อีกด้านหนึ่ง กลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คำแถลงแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ จ่าเอก สมาน “ในนามของประชาชนชาวอเมริกา ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเขา และขอยกย่องความกล้าหาญและความเสียสละในการรับใช้ประเทศชาติของเขา”