เอเอฟพี - นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ในวันพุธ(20มิ.ย.) กล่าวหาบรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนขัดขวางความพยายามเปลี่ยนแปลงคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและมีส่วนทำให้วอชิงตันถอนตัวจากองค์กรแห่งนี้
ในจดหมายที่ส่งถึงเหล่าองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั้งหลาย เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวหาว่าพวกเขาเล่นบทบาทไม่สร้างสรรค์ ด้วยการปฏิเสธสนับสนุนความพยายามของอเมริกาในการถอดประเด็นอิสราเอลออกจากวาระของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
เมื่อวันอังคาร (19 มิ.ย.) เฮลีย์ แถลงว่าสหรัฐฯกำลังถอนตัวจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยประณามชาติสมาชิกว่า “พวกตีสองหน้า” และกล่าวหาว่ามีอคติอย่างไม่หยุดหย่อนกับอิสราเอล
“พวกคุณรู้ไว้ว่าความพยายามสกัดการเจรจาและขัดขวางการปฏิรูปคือปัจจัยที่สนับสนุนการตัดสินใจถอนตัวจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติของสหรัฐฯ” เฮลีย์กล่าวในจดหมาย “คุณเลือกข้างรัสเซียและจีน และอยู่ฝ่ายตรงข้ามสหรัฐฯ ในประเด็นสิทธิมนุษยชนสำคัญ”
องค์กรสิทธิมนุษยชน 18 กลุ่มในนั้นรวมถึงฮิวแมนไรท์วอตช์และองค์การนิรโทษกรรม เขียนจดหมายถึงรัฐสมาชิกของยูเอ็นเมื่อเดือนพฤษภาคม แสดงความกังวลต่อมติที่ร่างโดยสหรัฐฯ ณ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าอาจทำให้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอ่อนแอลง
“ด้วยการโจมตีและกล่าวโทษเอ็นจีโอสำหรับความล้มเหลวของตนเอง รัฐบาลทรัมป์กำลังทำตามรัฐบาลแย่ๆ บางรัฐบาลในโลกใบนี้” หลุยส์ ชาบอนโน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ของยูเอ็นกล่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเตือนว่าข้อเสนอเปลี่ยนแปลงคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อาจกระตุ้นให้มีการปรับแก้ในทางที่เป็นปรปักษ์จากจีนและรัสเซีย เพื่อบ่อนทำลายการทำงานของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีหน้าที่สังเกตการณ์วิกฤตสิทธิมนุษยชนทั่วโลก