xs
xsm
sm
md
lg

กรมวิชาการเกษตรจัดใหญ่ “เปิดบ้านงานวิจัย” ปี 2561 สนองนโยบายรัฐ “ตลาดนำ วิชาการเกษตรทำได้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมวิชาการเกษตรเตรียมจัดใหญ่ “เปิดบ้านงานวิจัย” ประจำปี 2561 ภายใต้ธีม “ตลาดนำ วิชาการเกษตรทำได้” หวังยกระดับภาคเกษตรกรไทยสู่มาตรฐานสากล มุ่งความสำเร็จจากผลงานวิจัยนวัตกรรม เทคโนโลยีเกษตรกรอัจฉริยะสู่เกษตรกรตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล

นายอุทัย นพคุณวงศ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน “เปิดบ้านงานวิจัยประจำปี 2561” เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 25-28 พฤษภาคม 2561 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้กำหนดจัดงาน “เปิดบ้านงานวิจัย” ประจำปี 2561 ภายใต้สโลแกน “ตลาดนำ วิชากการเกษตรทำได้” ณ บริเวณกรมวิชาการเกษตรและสวนเฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรที่สำเร็จแล้วสู่สายตาประชาชนมีทั้งผลงานวิจัยและพัฒนาด้านพืช เครื่องจักรกลการเกษตร เทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้

รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเผยต่อว่า กรมวิชาการเกษตรมีภารกิจหลักเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาพืช เครื่งอจักกลการเกษตรและปัจจัยการผลิตเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ เอกชนและเกษตรกร ให้บริการวิเคราะห์ ทดสอบ ตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าพืช รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับดิน น้ำ ปุ๋ย พืช วัสดุการเกษตร ผลผลิตและผลิภัณฑ์พืชเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตพืชให้มีคุณภาพและความปลอดภัยสู่ผู้บริโภคตามมาตรฐานสากลและเพื่อให้บริการการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรมีผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง นำไปต่อยอดเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งงานบริการที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบและได้มีการเผยแพร่เพื่อสร้างการรับรู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง กรมวิชาการเกษตร จึงได้กำหนดจัดงานเปิดบ้านงานวิจัยกรมวิชาการเกษตรอีกครั้ง หลังหยุดจัดไป 2 ปีคือปี 2559และ2560 เนื่องจากเป็นช่วงงานพระราชพิธีพระบรมศพในหลวง ร.๙ ปีนี้เราจัดภายใต้ธีม“ตลาดนำ วิชการเกษตรทำได้” เพื่อสนองนโยบายไทยแลนด์4.0 ของรัฐบาล และที่สำคัญเป็นการนำผลงานวิจัย นวัตกรรม เทคโนโลยีการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำจากศูนย์วิจัยในสังกัดกรมวิชการฯทั่วประเทศ มาจัดแสดงให้แก่ผู้สนใจได้ชมกัน”

นายอุทัยกล่าวอีกว่า สำหรับพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิดหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลังและยางพาราแล้วยังมีผลไม้ยอดฮิตอย่างทุเรียน ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคโดยเฉพาะชาวจีน โดยมีอาลีบาบาเข้ามาส่งเสริมการตลาดนั้น ก็จะมีการจัดแสดงกระบวนการผลิตทุเรียนคุณภาพตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์ การดูแลรักษา วิธีการป้องกันโรคและแมลง การบรรจุรับรองทุเรียนอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดด้วย

“เราจะนำพืชที่ต้องการต้องการมาจัดแสดงโชว์ในกระบวนการผลิตอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน อย่างเช่นข้าวไทยที่มีสิ่งปลอมปนเราก็มีนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาตรวจหาสิ่งเหล่านี้ หรือทุเรียนปลูกอย่างไรให้ผลผลิตมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด เราก็จะเริ่มกันตัง้แต่การปรับปรุงพันธุ์ การดูแลรักษาต้นทุเรียน วิธีการป้องกันโรคและแมลง เทคนิคการดูทุเรียนอ่อน แก่ รวมถึงวิธีการบรรจุหีบห่อเพื่อส่งออก เรานำมาจัดแสดงโชว์ให้ดูทั้งหมด หรือการปลูกพืชตระกูลถั่วหลังนาเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร เราก็มีนักวิชาการคอยแนะนำอย่างละเอียดถึงขั้นตอนต่างๆ”

รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรย้ำด้วยว่า สำหรับงานเปิดบ้านงานวิจัยครั้งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายที่ประชาชนสามารถเรียนรู้และนำไปต่อยอดปรับใช้ได้ ตลอดจนผู้ประกอบการภาคเอกชนที่สนใจ เช่น การจัดแสดงผลงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ การคุ้มครองพันธุ์พืช เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตผลเกษตร ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลอดภัย กระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชสวนและพืชไร่ การจัดแสดงเมล็ดพันธุ์พืชไร่ พืชสวน ท่อนพันธุ์ปลอดโรค การจัดแสดงพันธุ์ปาล์มน้ำมัน เทคโนโลยังการผลิตที่เหมาะสม โรคและแมลงและการป้องกันกำจัด การแปรรูปและการนำไปใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีโซนอารักพืชจัดแสดงการควบคุมแมลงศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสาน การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี การป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้เพื่อการส่งออก การจัดแสดงลักษณะอาการของโรคพืชในผักและผลไม้ พร้อมวิธีป้องกันกำจัด และพิพิธภัณฑ์แมลง ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กๆ ได้เข้ามาเรียนรู้

นอกจากนี้ยังมีการสาธิตกระบวนการการผลิตกาแฟ มะพร้าว และชาครบวงจร ตั้แต่การพัฒนาพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิต การเก็บเกี่ยวและการแปรรูป การผลิตไม้ผลนอกฤดู สมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม เป็นต้น ในส่วนของสวนเฉลิมพระเกียรติ ๕๕ พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งผู้เข้าชมจะได้สัมผัสบรรยากาศการทำเกษตรทฤษฎีใหม่และพรรณพืชหายาก ซึ่งรวบรวมไว้ในพื้นที่ 17 ไร่ และยังมีการแจกพันธุ์ไม้ผลพันธุ์ดี เช่น มะม่วง ส้มโอ ชมพู่ มะนาว ต้นกล้าพืชผัก ต้นกล้าไม้มงคล ให้ผู้ที่ต้องการนำไปปลูกด้วย

“ภายในงานยังมีกิจกรรมสันทนาการและการอบรมสาธิตเฝึกอาชีพระยะสั้น เช่น สาธิตการชงชา สาธิตการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น พล่าเต้าเขี้ยวทรงเครื่อง การปลูกไม้อวบน้ำด้วยวิธีต่อยอด การทำน้ำเต้าหู้จากถัวลิสง การคั่วกาแฟ การแปรรูปขมิ้นชัน และการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารอีกหลายชนิด ซึ่งอบรมให้ฟรี และยังมี จำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้าน และมีการออกร้านจำหน่ายพันธุ์พืชผักและผลไม้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมชมงานเปิดบ้านงานวิจัยในระหว่างวันที่ 25-28 พฤษภาคมนี้ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น” รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวเชิญชวน











กำลังโหลดความคิดเห็น