คดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ กับกรณีการฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” สาวคาราโอเกะ โดยฝีมือของ “แก๊งเปรี้ยว” ย้อนรอยเรื่องราวก่อนจะถึงช่วงพิพากษาคดี
25 พฤษภาคม 2560 - พบศพหญิงสาวถูกฆ่าหั่นศพ แยกออกเป็น 2 ท่อน ยัดใส่ถังน้ำสีดำ 2 ใบ แล้วนำไปฝังดิน ที่บ้านโนนสง่า หมู่ 9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสาวทำงานกลางคืน
ต่อมาช่วงค่ำ นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย อายุ 42 ปี ชาว จ.ชัยนาท และ น.ส.องุ่น เพียแก่น อายุ 36 ปี น้องสาว เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เนื่องจากลูกสาวหายตัวไปเมื่อ 24 พฤษภาคม 2560
กระทั่งเมื่อดูศพจึงพบว่าเป็นลูกสาว คือ “น้องแอ๋ม” น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี ทำงานในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เนื่องจากจำรอยสักที่หน้าอกซ้ายคำว่า Poppy ได้
29 พฤษภาคม 2560 - หลังตำรวจสืบสวนจึงทราบผู้ก่อเหตุแล้ว ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ ประกอบด้วย 1. นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี 2. น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี 3. น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี 4. น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา อายุ 22 ปี
30 พฤษภาคม 2560 - ทางการ สปป.ลาว จับกุม นายวศิน นามพรหม ได้เป็นคนแรก ที่ลาวัลย์เกสต์เฮาส์ ใกล้มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว นครหลวงเวียงจันทน์ ก่อนส่งกลับไทยที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย โดยนายวศินสารภาพว่าอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ลงมือฆ่า คนที่ลงมือฆ่าตัวจริง คือ “เปรี้ยว” น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย สาเหตุเกิดจากความแค้น อ้างว่า “น้องแอ๋ม” เป็นสายชี้เป้าให้ตำรวจจับกุมแฟนเปรี้ยว ในคดียาเสพติด
วิธีการคือ ไปเช่ารถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี ให้นายวศินขับ จากนั้นลวงน้องแอ๋มขึ้นรถ ก่อนที่เปรี้ยวใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวน้องแอ๋มแล้วซ้อมจนตาย จากนั้นไปซื้ออุปกรณ์หั่นศพที่ร้านวัสดุก่อสร้าง แล้วเช่าห้องที่รีสอร์ตบ้านหัวถนน ต.พระลับ อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น โดยเปรี้ยวลงมือหั่นศพเพียงคนเดียว ก่อนช่วยกันนำศพใส่ถังไปฝังที่ อ.เขาสวนกวาง ก่อนแยกย้ายหลบหนี
ด้านชุดสืบสวนรวบตัว น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ ได้เป็นคนที่ 2 ที่ จ.อุบลราชธานี อ้างว่าไม่ได้ลงมือทำร้ายหรือหั่นศพ แต่นำสิ่งของมีค่าของน้องแอ๋ม เช่น โทรศัพท์มือถือ ทองรูปพรรณ ไปขายที่กรุงเทพฯ
ขณะที่พนักงานสอบสวน ขออนุมัติศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับ น.ส.แจ้ ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ (ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี)
31 พฤษภาคม 2560 - พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.เชียงราย ตรวจสอบพบว่า “เปรี้ยว” น.ส.ปรียานุช พร้อมด้วย น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันท์ ขอทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว 7 วัน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 โดยทั้งสามคนข้ามฝั่งจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) และพบว่าสิ้นสุดใบอนุญาตผ่านแดน
1 มิถุนายน 2560 - ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสานข้อมูลทางการพม่า พบว่า 24 พฤษภาคม 2560 น.ส.จิดารัตน์ โทร.ไปหานายเก๋ เจ้าของร้านโอโซนคาราโอเกะ เมืองท่าขี้เหล็กซึ่งเป็นคนไทยขอกลับมาทำงาน
จากนั้น 25 พฤษภาคม 2560 น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันท์ นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ก่อนนั่งรถแท็กซี่ไปชายแดน อ.แม่สาย นายเก๋สั่งลูกน้องนำรถไปรับเข้าทำงาน
ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม 2560 ทั้งสามออกไปกับแขกกลุ่มว้าที่มาเที่ยวบริการแล้วหายตัวไป ซึ่งทางการพม่าบุกค้นแหล่งซ่อนตัวแต่ไม่พบ ซึ่งนายเก๋ให้การปฏิเสธไม่รู้เห็นคดีฆ่าหั่นศพ
3 มิถุนายน 2560 - ตำรวจพบนายธวัชชัย หรือเก้า อ้อมชมพู ผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพติด 1 ในชาย 3 คน ที่ซื้อตัว 3 ผู้ต้องหาออกไปจากร้านคาราโอเกะ ไปอยู่กับพื้นที่อิทธิพลของพันโทยี่เช
ต่อมา 21.45 น. ได้รับแจ้งจากทางการพม่าว่าได้จับกุม 3 ผู้ต้องหาได้แล้วที่เมืองท่าขี้เหล็ก ก่อนผลักดันกลับมาฝั่งไทยที่สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมี ตม.เชียงรายมารับตัวดำเนินคดี
4 มิถุนายน 2560 - พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวจับกุม ระบุสาเหตุที่ลงมือฆ่าน้องแอ๋มมี 2 ประเด็น คือ เรื่องหนี้สิน 3-4 หมื่นบาท ที่น้องแอ๋มยืมจากเปรี้ยว
อีกเรื่องหนึ่ง คือ น้องแอ๋มถูกตำรวจจับคดียาเสพติดเมื่อปลายปี 2559 แล้วขยายผลไปถึงตัวเปรี้ยว เลยเกิดความแค้น ยืนยันว่าไม่ใช่ขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ
ทั้งนี้ เปรี้ยวตั้งใจจะซ้อมน้องแอ๋มเพื่อสั่งสอน แต่ลงมือหนักไป อีกทั้งเสพยาไอซ์และยาเครวมกัน และต่อมาได้ตระเวนพักตามอาคารร้างก่อนมอบตัว เพราะไม่ต้องการให้คนที่ไปขอพักอยู่ด้วยเดือดร้อน
5 มิถุนายน 2560 - ตำรวจนำตัว “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 7 จุด จากนั้นได้ขอขมานางสำราญ เพลียแก่น ยายน้องแอ๋ม และ น.ส.สกุณตรา เพลียแก่น น้าสาวของน้องแอ๋ม
เปรี้ยวกล่าวว่า “หนูไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษครอบครัว ที่มามอบตัวเพราะไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหนูตั้งใจทำคงหนีไปแล้ว” ขณะที่ยายกล่าวว่า “หลังจากนี้อย่าไปทำกับคนอื่นนะ ขอให้น้องแอ๋มเป็นรายสุดท้าย”
4 สิงหาคม 2560 - พนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ส่งสำนวนคดี จำนวน 706 หน้ากระดาษ ให้อัยการจังหวัดขอนแก่น ก่อนตั้งองค์คณะอัยการ 3 คนตรวจสอบสำนวน
22 สิงหาคม 2560 - อัยการจังหวัดขอนแก่น มีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา, น.ส.อภิวันท์ และนายวศิน 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยว และ ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะ
ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ สั่งฟ้องข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เพียงข้อหาเดียว ส่วน น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ ถูกตั้งข้อหาเสพสารเสพติด เมทแอมเฟตามีน เพิ่มอีก 1 ข้อหา ก่อนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น
23 สิงหาคม 2560 - ศาลจังหวัดขอนแก่นเบิกตัว 5 ผู้ต้องหา มารับทราบข้อกล่าวหาและสอบคำให้การ ทั้งหมดปฏิเสธข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ยอมรับเพียงข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ขณะที่ เบนซ์ ปฏิเสธข้อหาลักทรัพย์ และเตรียมขอประกันตัว
28 สิงหาคม 2560 - ศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ ในระหว่างพิจารณาคดี ด้วยวงเงินประกัน 9 หมื่นบาท หลังครอบครัวขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ผ่านสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น
16 มีนาคม 2561 - ศาลจังหวัดขอนแก่น แถลงปิดการเบิกความของคู่ความทั้งสองฝ่าย หลังนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ 6 นัด และพยานฝ่ายจำเลย และนัดฟังคำตัดสินในวันที่ 29 มิถุนายน 2561
28 มีนาคม 2561 - ศาลจังหวัดขอนแก่นสั่งปรับ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา และ น.ส.จิดารัตน์ คนละ 500 บาท พร้อมจำคุกเวลา 2 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี เนื่องจากละเมิดอำนาจศาล หลังเปรี้ยวใช้มือถือของเบนซ์เข้าสู่ระบบเฟซบุ๊ก และถ่ายเซลฟีตัวเองในห้องพิจารณาคดี เมื่อ 13 มีนาคม 2561
9 พฤษภาคม 2561 - ศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำสั่งแจ้งถึงพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น และนายนพดล สีดาทัน ทนายโจทก์ร่วม เลื่อนการอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพเร็วขึ้น เป็นวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.30 น.
10 พฤษภาคม 2561 - ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาในชั้นต้น น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว และ น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น จำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน
ส่วน น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน นายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 22 วัน และ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ จำคุก 2 ปีในข้อหารับของโจร แต่ลดโทษเหลือ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา