ก่อนถึงบทสรุป คดีดัง “เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ”

แต่จากการสืบสวนพบว่า เวลาประมาณตีสี่เศษๆ ของคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ได้มีรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี ขับมารับน้องแอ๋ม หน้าหอพัก ก่อนจะหายตัวไป แล้วพบกลายเป็นศพ จึงทำการสืบสวนจนพบว่าใครบ้างที่อยู่ภายในรถ

ต่อมาวันที่ 29 พฤษภาคม ศาลจังหวัดขอนแก่นได้อนุมัติออกหมายจับ ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนวังชัย หรือ เปรี้ยว น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ และนายวศิน นามพรหม

หลังออกหมายจับพบว่า เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” หนีไปยังประเทศเมียนมา ขณะที่นายวศิน หลบไปอยู่ เวียงจันทน์ ประเทศลาว หลังจากประสานทางการลาวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมนายวศินได้ โดยได้วศินยอมรับว่าอยู่ร่วมในเหตุการณ์ฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋มจริง พร้อมซัดทอดว่า น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว เป็นผู้ลงมือฆ่า เพราะโกรธที่น้องแอ๋มเป็นสายให้ตำรวจจับเปรี้ยวค้ายาเสพติด โดยมีเอิร์น และแจ้ ร่วมในเหตุการณ์ด้วย จากนั้นจึงนำศพไปหั่นที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนนำไปฝัง

พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผู้กำกับการ สภ.เขาสวนกว้าง พื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ น้องแอ๋ม กลับมาทำงานที่ขอนแก่น หลังกลับไปอยู่บ้าน จากการถูกจับคดียาเสพติดเมื่อปีก่อน ขณะที่ เปรี้ยวและเอิร์น ซึ่งถูกจับคดียาเสพติดเช่นกัน หลังคดีเสร็จ ได้หลบไปทำงานอยู่ไทเป แต่พอรู้ข่าวว่า น้องแอ๋มกลับมาขอนแก่น จึงเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม คาดว่าจะกลับมาสั่งสอน

ต่อมา เวลา 04.00 น.เศษ ในวันที่ 23 พฤษภาคม นายวศิน พร้อมด้วย เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ได้มารับ น้องแอ๋ม จากหอพักโดยให้เอิร์นที่ใกล้ชิดกับน้องแอ๋ม เป็นนกต่อ ขณะที่เปรี้ยวซึ่งมีปัญหากันหลบอยู่หลังรถ เมื่อน้องแอ๋มขึ้นมาบนรถจึงถูกเปรี้ยวทำร้าย และบีบคอจนสลบ หลังจากนั้นจึงไปซื้อถุงดำมาคุมหัวน้องแอ๋มจนเสียชีวิต ก่อนจะไปเช่ารีสอร์ตแห่งหนึ่งชำแหละศพ แล้วนำไปฝังอำพรางคดี

สำหรับการติดตามตัว เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ที่หลบหนีไปเมียนมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาจนสามารถจับกุมตัวบุคคลทั้ง 3 ได้ และส่งตัวมาให้เจ้าหน้าที่ไทยในวันที่ 2 มิถุนายน ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้นำทรัพย์สินของน้องแอ๋ม ที่เปรี้ยวและพวกขโมยไปขาย

มาวันนี้ ศาลจังหวัดได้ตัดสินแล้ว โดยพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว และ น.ส.กวิตา หรือเอิร์น แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้จำคุกรวม 34 ปี 6 เดือน ส่วนนายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 22 วัน ขณะที่ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน และ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ จำคุก 2 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา

ทั้งนี้ ศาลพิพากษาว่าผู้ต้องหาทุกคนยังไม่เข้าข่ายผิดตามมาตรา 289 ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จึงไม่ต้องโทษประหารชีวิต