ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาคดี “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” ฆ่าหั่นศพ คุกตลอดชีวิต ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 34 ปี 6 เดือน พร้อมร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัว “น้องแอ๋ม”
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งเบิกตัวผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คดีหมายเลขดำที่ 1957/60 โดยรถควบคุมตัวของทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ได้นำตัวนายวศิน นามพรม เดินทางมาเป็นคนแรก จากนั้นประมาณ 20 นาที รถควบคุมตัวผู้ต้องหาของเรือนจำกลางขอนแก่น ควบคุมตัว น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย, น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา และ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนั้นอยู่ในชุดผู้ต้องหาสีน้ำตาล นั่งปะปนมากับผู้ต้องหารายอื่น เพื่อมารายงานตัวต่อศาล และเดินตรงไปยังจุดควบคุมตัวผู้ต้องหาระหว่างรอการพิจารณาคดีทันที โดยมี น.ส.สาคร ภาษี มารดาของ น.ส.ปรียานุช มารอพบกับลูกสาวตั้งแต่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ และตามมาจนถึงศาล ได้ขอเข้าเยี่ยมลูกสาวเพื่อให้กำลังใจ โดยบอกสั้นๆ ว่าให้เปรี้ยวขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ทุกอย่างนั้นผ่านไปได้ด้วยดี โดยในช่วงของการพูดคุยนั้นทุกคนมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับคดีความดังกล่าว ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ประทับรับฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ตามที่พนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น เสนอประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต ผู้ต้องหาที่ 3, น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ ผู้ต้องหาที่ 4 และนายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาที่ 5
ศาลจังหวัดขอนแก่นเริ่มอ่านคำพิพากษาในเวลา 13.30 น. ก่อนศาลพิพากษายกฟ้องในมาตรา 289 ตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรอง จึงไม่ต้องโทษประหารชีวิต และพิจารณาตามมาตรา 288 ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา โดยตัดสินจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย จำเลยที่ 1, น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา จำเลยที่ 2 แต่จำเลยทั้งสองให้การเป็นประโยชน์จึงพิจารณาลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้จำคุกรวม 34 ปี 6 เดือน
ส่วน น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต ผู้ต้องหาที่ 3 จำคุก 33 ปี 9 เดือน, นายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาที่ 5 จำคุก 23 ปี 4 เดือน 22 วัน และ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ ผู้ต้องหาที่ 4 ผิดข้อหารับของโจร ถูกจำคุก 2 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,070,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ แก่ครอบครัวผู้ตาย