xs
xsm
sm
md
lg

“ลีน่า จัง” เตือนคนพ่นสีรูปเสือดำ ระวัง “อิตาเลียนไทย” ฟ้องหมิ่นฯ ฉะ “ศิลปิน-ดารา” เกาะกระแส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ฉะกลุ่มกราฟฟิตี้พ่นสีตามกำแพงรณรงค์เอาผิด “เปรมชัย” ล่าเสือดำ ชี้ทำตัวตามอารมณ์ ผิดกฎหมาย เตือนระวังถูกฟ้องหมิ่นประมาท ส่วนศิลปิน ดารา แค่เกาะกระแสแล้วโกยเงินเข้ากระเป๋า เหน็บนางงามบางคนรณรงค์ “ข่มขืนเท่ากับประหาร” ทั้งที่มีกฎหมายอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นางลีนา จังจรรจา อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับรายการทุบโต๊ะข่าว สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ถึงกรณีที่มีผลงานกราฟฟิตี้เสือดำ ประท้วงกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ว่า ตอนนี้สังคมปลุกระดมทางความคิด แต่นายเปรมชัย ก็มอบตัวแล้ว ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสินก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ส่วนกระแสสังคมออกมาต่อต้านไม่เห็นด้วย และเมื่อเปรียบเทียบข้อหาทารุณกรรมสัตว์นั้น พบว่า บทลงโทษนิดเดียว อยากให้มองไปที่ข้อหาใหญ่ คือ บุกรุกป่า และนำอาวุธปืนเข้าไปในป่า โทษร้ายแรงกว่าทารุณกรรมสัตว์อยู่แล้ว

ส่วนการพ่นสีตามกำแพงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น เห็นว่า ไม่เหมาะสม เพราะหากจะต้องรณรงค์ควรจะทำเฉพาะในกลุ่มของตนเอง ยิ่งพวกศิลปินซึ่งมีความรู้ความสามารถ ต้องมีวุฒิภาวะมากกว่าคนทั่วไป ตอนนี้เหมือนทำตัวตามอารมณ์ ตามความรู้สึก การกระทำแบบนี้ผิดกฎหมาย ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการเลียนแบบ นำไปสู่การเขียนข้อความหมิ่นประมาทผู้ต้องหาก็ได้

เสือดำไม่ได้มีแค่ตัวเดียว มันมีเป็นร้อยตัว ผู้ต้องหาเขามีความเชื่อจากจีนว่ากินหางเสือดำแล้วจะเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ จึงเข้าป่าไปล่าเสือดำ เสือดำตัวที่ถูกล่าเพียงแค่ตัวเดียว สังคมจะออกมารณรงค์อะไรกันมากมาย ถ้าอยากทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ ไปช่วยทำอย่างอื่น ไปช่วยพัฒนาประเทศได้มากกว่า เพราะเหตุการณ์นี้ผ่านมาตั้งนานแล้ว ผู้ต้องหาก็มอบตัวแล้ว ตอนนี้ควรเป็นหน้าที่ของศาลส่วนบรรดาดาราทั้งหลายที่อยากจะให้วาดรูปเสือดำบนกำแพง ขอให้เลิก เพราะประชาชนมองเป็นไอดอล ควรระมัดระวังตัว ไม่ใช่มาระรานคนอื่น แม้จะรักสัตว์แต่ไม่ควรจะรณรงค์ให้ผู้อื่นไประรานโจมตีคนอื่น คดีแบบนี้ควรรอกระบวนการยุติธรรม สู้กัน 3 ศาล สู้กันอีก 10 ปี คนที่อ้างว่าตัวเองรักเสือดำเพียงเพื่อจะเกาะกระแส เหมือนนางงามคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องข่มขืนเท่ากับประหาร ทั้งที่กฎหมายมีอยู่แล้ว

ศิลปิน ดาราที่ออกมาก็เพื่อเกาะกระแสเรื่องนี้ แล้วโกยเงินเข้ากระเป๋าเท่านั้น เชื่อว่า กระแสคงอยู่อีกไม่นาน บางรายที่มาด้วยใจก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งพ่นสีบนกำแพงในที่สาธารณะ มันเลอะเปรอะเปื้อน ทำลายทรัพย์สินทางราชการ ควรขออนุญาตชุมนุมให้ถูกต้อง ไปจัดการประชุม ไม่ใช่มาวาดมาพ่นที่ในที่เอกชน ระวังจะถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ส่วนสถานที่พ่นสีบนกำแพงอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานบริษัท
อิตาเลียนไทยฯ ถ้ารู้ว่าใครพ่น เจตนาโจมตีบริษัท คนพ่นเป็นคนหมื่นประมาท ถ้าแจ้งความจะซวยภายหลัง




กำลังโหลดความคิดเห็น