“เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา” แนวร่วมครูปรีชา ศึกชิงหวย 30 ล้าน โพสต์เฟซบุ๊กอ้างรัฐบาลใช้คดีหวย 30 ล้าน ดึงความสนใจประชาชน กลบกระแสขาลง อวดรู้ล่วงหน้า อัยการจะสั่งไม่ฟ้อง เพราะศาลแพ่งยังไม่ชี้ขาดสลากเป็นของใคร และข้อหาแจ้งความเท็จจะย้อนไปหาหมวดจรูญ
วันนี้ (3 มี.ค.) เฟซบุ๊ก “ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา” นักจัดรายการยูทูปการเมือง และเจ้าของเว็บไซต์วิหคนิวส์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน ต่อเนื่อง โดยระบุว่า ในคดีนี้ในระยะแรกคนไทยได้เห็นการเคลื่อนไหวของทนายความพาอดีตนายตำรวจยศร้อยโท และคุณนายเมียนายตำรวจกาญจนบุรี ที่บอกกับสื่อว่า ให้เรียกว่า ลุง ป้า ที่อ้างว่าถูก จนท.ตร.ชั้นผู้ใหญ่ กลั่นแกล้งให้รับโทษ เพื่อแย่งชิงหวย 30 ล้าน ที่ตนเองถูกรางวัล โดยมีการเดินสายออกสื่อมากกว่า 4 เดือน
จนมีการมาร้องเรียนยังกองปราบปราม กล่าวหาอีกฝ่ายว่าแจ้งความอันเป็นเท็จ และ จนท.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มุ่งเอาผิดผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี รองผู้กำกับ และร้อยเวร ครู จนได้รับความสนใจจากสื่อสารมวลชนอย่างกว้างขวาง
โดยสอบสวนกลาง และกองปราบ ได้นำโทรศัพท์ของครู มาถอดการสนทนา แต่อีกฝ่ายอ้างล้างเครื่องไปแล้ว จนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งย้ายคดี ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีการตั้งคณะสอบสวนกว่า 30 นาย ให้ดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และผลการชี้คดียังคงให้ดำเนินคดีกับ อดีตนายตำรวจ ผู้นำสลากไปขึ้นเงิน ในคดียักยอกทรัพย์ และรับของโจร มีพยานในคดีทั้ง 2 ฝ่ายรวม 42 ปาก
ทำให้อดีตนายตำรวจและทนายความไม่พอใจ เดินหน้าร้องเรียนสอบสวนกลาง ขอโอนคดีไปยังสอบสวนกลาง และเตรียมจะร้องนายกรัฐมนตรี อ้าง ตร.ท้องที่ กองบังคับการ กองบัญชาการภาค 7 กระทำการเป็นขบวนการ ใส่ร้ายให้ได้รับโทษทางอาญา จนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งย้ายคดีมาสอบสวนกลาง ให้กองปราบปราม รับผิดชอบคดี จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ต่อมาได้มีการเชิญผู้เสียหายในคดีออกสื่อต่างๆ ซึ่งสิ่งที่สังคมได้เห็นความจริงอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน คือ ลุง ที่ว่าถูกกลั่นแกล้ง เป็นอดีตนายตำรวจที่เชี่ยวชาญด้านการลงบันทึกประจำวัน เป็นนายตำรวจหัวหน้าสิบเวร ทำงานเป็น ตร.กว่า 20 ปี จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ
ที่สำคัญ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสลากซื้อมาจากแม่ค้าคนใด แต่กลับกันมีการซื้อ ขาย สลากเกิดขึ้นจริง โดยยืนยันจากแม่ค้าทุกปากว่า ครูเป็นเจ้าของสลาก มีต้นขั้วสลากพยานแวดล้อมชี้ชัด ที่มาตั้งแต่ต้นจากกองสลากชัดเจน โดยอดีตนายตำรวจ มีการกดดันพยาน แจ้งจับแม่ค้าที่ขายหวย ถึง 2 คดี ว่า ขายหวยให้นายตำรวจเกินราคา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นบอกว่าจำหน้าแม่ค้าไม่ได้ แต่แม่ค้ายืนยันว่าขายหวยเกินราคาจริง แต่ขายให้กับครู จึงถูกเปรียบปรับในคดีแรกคนละ 5,000 บาท ต่อมาทนายความอดีตนายตำรวจก็ไปแจ้งจับอีกในข้อหาเดียวกัน แม่ค้าก็ยืนยันว่าขายให้ครูมิได้ขายให้อดีตนายตำรวจ
สิ่งที่คนไทยที่คิดตามข่าวนี้อย่างใจจดใจจ่อ ลุ้นจนมีการตั้งโต๊ะพนันขับต่อ คือ เพิ่งมาทราบก็คือ ศาลแพ่งได้ออกคำสั่งไต่สวนฉุกเฉิน และสั่งอายัดเงินที่เหลือไว้ทั้งหมดเกือบ 24 ล้าน อดีตนายตำรวจเบิกไปแล้ว 5 ล้าน โดยอดีตนายตำรวจไม่สามารถที่จะเอาหลักฐานไปแสดงว่าซื้อสลากมาจากแม่ค้าคนใด
กองปราบสอบพยาน 3 ปากสำคัญไปเค้นสอบอย่างหนักถึง 18 ชม. บังคับให้รับสารภาพว่า มโนขึ้นมา ไม่ได้ถูกหวยจริง พยานทุกปากให้การเช่นเดิมว่าขายสลากให้ครู
จนมีการปล่อยคลิปเสียง บางช่วงบางตอนออกทางสื่อว่าไม่ได้มีการถูกหวยจริง และปล่อยเอกสารลับ อ้างคำสารภาพของ ตร. ที่ทำคดีให้กลมกลืน ต่อมาจึงย้าย ตร. ที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมดออกนอกพื้นที่
จากความสนใจของคนไทย ทำให้คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ กระแสมาในเชิงลบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจพาลไปยังรัฐบาลขาลงจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และนาฬิกาอันโด่งดัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงแถลงจบในคดีนี้ด้วยตนเอง โดยมีหลักสำคัญคือ “ใครถือสลากไว้ในมือยอมมีสิทธิเหนือกว่า” ส่วนใครเจ้าของสลากตัวจริงนั้นตอบไม่ได้ ต้องไปให้ศาลตัดสิน
แล้วขอศาลออกหมายจับผู้เสียหายในคดี ที่เคยได้รับรางวัลครูดีเด่นในหลายปีซ้อนในข้อหาแจ้งความเท็จ ก่อนหน้านี้การข่มขู่ออกหมายจับครูและแม่ค้ารายวัน ติดต่อกันนับเดือน
ทนายความและนายตำรวจเปิดแถลงตั้งโต๊ะแสดงความพอใจการทำงานของกองปราบปราม สอบสวนกลาง ขู่เดินหน้าเอาผิดสำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 และกองบังคับการ โรงพัก รวมทั้งครู ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขู่จะฟ้องพยานทุกคนในคดี เรียกร้องเงินนับล้านบาทต่อคน
ตลอด 2 วันในการควบคุมตัวในกองปราบ มีการเค้นบีบให้ยอมรับสารภาพ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีการเขียนคำให้การใหม่ และชี้ให้เซ็นสารภาพ แต่ครู และแม่ค้าที่ตกเป็นผู้ต้องหา ไม่ยอมเซ็นรับสารภาพ ในขณะที่พยานคนอื่นๆ ก็ยังให้การเช่นเดิม ว่า หวยเป็นของครู ขายให้ครูจริง แต่ก็มีการปล่อยข่าว ผ่านสื่อมวลชนว่ารับสารภาพและจะคัดค้านการประกันตัว ออกมาทางสื่อมวลชนหากไม่รับสารภาพ โดยขู่ว่าหากรับสารภาพ โทษจะเบาจะไม่กระทบต่อตำแหน่งข้าราชการ ระดับซี 8 อย่างมากแค่รอลงอาญา แต่ครู แม่ค้ายืนยันปฏิเสธ
จนกระทั่งครบกำหนดฝากขัง กองปราบส่งตัวไปฝากขังยังศาล ศาลให้ประกันคนละ 1 แสนบาท ทนายและอดีตนายตำรวจเดินสายออกสื่อประกาศชัยชนะ โดยขอให้ครูยอมรับสารภาพจะอโหสิกรรมให้ ประกาศจะนำหมายจับไปยื่นต่อศาลของเพิกถอนเงินมาใช้
คดีนี้ในระยะเวลา 4 เดือน คนไทยคงได้เห็นอะไรมากมายระหว่างความเชื่อกับความจริง ที่ความจริงจะค่อยๆ ปรากฏมาในภายหลัง ความเชื่อนั้นมาก่อนเสมอ
ความจริงที่สำคัญ คือ ตร. ต้องฟ้องในคดีนี้ในข้อหาแจ้งความเท็จก็เพราะ คดีแพ่งยังไม่สิ้นสุด ไม่สามารถที่จะชี้ได้ว่าใครคือเจ้าของหวย แต่เชื่อว่า “คนถือสลากมีสิทธิเหนือกว่า” แต่ก็โอกาสสูงที่พนักงานอัยการจะสั่งไม่ฟ้อง
เพราะคดีแพ่งยังไม่ได้ชี้ชัดว่าใครคือเจ้าของทรัพย์ตัวจริง ในชั้นศาลแพ่ง หากยกฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้อง คดีก็จะย้อนกลับไปที่อดีตนายตำรวจที่ไปกล่าวหาครูว่าแจ้งความเท็จ ฐานให้โทษผู้อื่นรับโทษในคดีอาญา
หากพิจารณาในคดีช๊อกโลกนี้อย่างมีสติ จะเห็นว่า ชุดความจริงมีสิ่งเดียว คือ “คนหนึ่งชี้ชัดว่าซื้อสลากมาจริง อีกคนหาคนขายสลากให้ไม่ได้” เมื่อคดีสิ้นสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงจำเป็นต้องย้าย ตร. กลับยังภูมิลำเนา ในตำแหน่งเดิมในทันที เพราะคดีโอนย้ายมาแล้ว ชี้คดีแล้ว ส่วนการจะตั้งกรรมการสอบสวนนั้น จำเป็นต้องรอคำตัดสินของศาลแพ่งก่อน ว่าใครเป็นเจ้าของสลากตัวจริง
แต่ความลึกซึ้งในคดีนี้คือเกมกลบข่าว อันเป็นพื้นฐานของยุทธศาสตร์การเมืองการปกครอง ที่รัฐบาลขาลงที่แทบหาทางออกไม่ได้ ทั้งนาฬิกา และแหวน รวมทั้งโครงการอื่นๆ อีกหลายโครงการ ได้อย่างแยบยล ที่ต้องลงมาเล่นเอง เพราะการจับอาบอบนวด ที่ยิ่งสาว ยิ่งกำลังพาลกลับไปหาเจ้าของนาฬิกา ไม่สามารถกระชากความสนใจได้ในระยะยาว เหมือนศึกชิงหวย 30 ล้าน
หลักสำคัญของชาติที่เกี่ยวพันในคดีนี้ คือ กลบข่าวการเมืองที่กำลังร้อนแรง มีการก่อวินาศกรรมในภาคใต้นับสิบจุด ม็อบพระ และความพยายามก่อเหตุเผาเมืองรอบที่ 2 ทั้งการเจรจาที่สิงคโปร์ก็ล้มเหลว เพราะเรียกร้องเงื่อนไขสูงเกินไป จนเป็นที่มาของการอายัดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี และจ่อเอาผิดสั่งฟ้องลูกโอ๊ค คดีทุจริตกรุงไทย
“คดีหวย 30 ล้านมหากาพย์ในภาคที่ 1 ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ต่อไปมหากาพย์ภาค 2 กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมีระบบ ที่จะพิสูจน์ความจริง หักล้างความเชื่อในที่สุด “เจอกันที่กาญจนบุรี” การทำข่าวสืบสวนสอบสวนในมิติใหม่ กำลังจะเริ่มขึ้น แล้วจะรู้ว่ามันเหมือนคดีครูจอมทรัพย์ อย่างกับแกะ อันจะลากเกมไปได้สักอีก 15 วัน ต่อลมหายใจเฮือกยาวๆ ให้รัฐบาลได้อีก 1 ยก กระมัง” ดร.เทอดศักดิ์ ระบุ