กาญจนบุรี - ครูปรีชา คู่กรณีชิงหวย 30 ล้านอลเวง ยันพรุ่งนี้ไม่ส่งตัวแทนไปฟังแถลง ขอทำงานสอนหนังสือ เพื่อทบทวนเนื้อหาให้กับนักเรียนให้มีความรู้ให้มากที่สุด ส่วนเรื่องคดีความนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนหลักฐานคลิปเด็ดหมัดน็อกขออุบไว้ก่อน ทั้งยังมั่นใจ 100 % หวยเป็นของตนเอง
จากกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะแถลงข่าวสรุปสำนวนการฟ้องร้องแย่งชิงกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่ตามกำลังเป็นข่าวโด่งดังและสร้างความสับสนให้กับคนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยการแถลงข่าวดังกล่าวจัดขึ้นที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.)ซึ่งจะชี้ชัดให้ทราบว่าสำนวนการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ
ล่าสุด วันนี้ (27 ก.พ.) นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเดินทางออกจากโรงเรียนเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักเลขที่ 143/22 ทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการนัดหมายการสัมภาษณ์ที่ลานริมรั้ววัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) ที่อยู่ฝังตรงข้ามกับโรงเรียน แต่เนื่องจากเมื่อถึงเวลานัดหมายปรากฏว่า ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก จึงต้องเปลี่ยนไปใช้เต้นท์ที่อยู่ข้างโบสถ์แทน ซึ่งกว่าจะสัมภาษณ์ได้สื่อมวลชนต้องวิ่งฝ่าสายฝนเปียกไปตามๆกัน
โดยผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าครูจะถูกออกหมายจับมาตลอดทั้งวัน ครูรู้สึกกังวลใจหรือไม่ ครูปรีชาตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและมีท่าทางที่สบายใจว่า ไม่ได้กลัวอะไรและเชื่อมั่นในความจริงและเชื่อมั่นในความดี และทุกวันนี้รู้สึกนอนหลับฝันดี และยิ่งมีนักข่าวมาทุกวันยิ่งนอนหลับฝันดีมากขึ้น ซึ่งเมื่อคืนฝันว่าได้ตัดผมอาบน้ำ โดยตัดผมทรงที่ไม่มีผมข้างๆ แต่มีผมอยู่บนหัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครูกังวลหรือไม่ในขณะนี้เนื่องจากกระแสสังคมบอกว่า ครูปรีชาเป็นครูจอมทรัพย์สอง ครูปรีชาตอบว่า ก็ขอให้ดูกันต่อไปนะครับว่า ให้ดูวาทกรรมของครูจอมทรัพย์ เพราะครูจอมทรัพย์มีสิ่งที่มันเป็นเหมือนผมตรงไหน จึงอยากให้ทุกท่านได้กลับไปดูในเรื่องของวาทกรรมของครูจอมทรัพย์ แล้วท่านจะพบคำตอบว่าครูจอมทรัพย์เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้มีคนชื่อฟ้าออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่อนข้างเยอะ จึงอยากให้ครูปรีชายืนยันถึงความสัมพันธ์ของครูกับคนชื่อฟ้า ครูปรีชาตอบว่า คือคนชื่อฟ้าจริงๆแล้วเขาเป็นเพื่อนกับพี่สาวของครู เขาเคยมาที่บ้านบ่อยๆ โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์เขาก็จะมา มาก็พูดคุยกัน ซึ่งฟ้าเองมีบางครั้งที่ทางตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ ซึ่งฟ้าก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนบ้างเป็นบางเวลา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าข้อมูลต่างๆ ที่ออกมาจากคุณฟ้าเกี่ยวกับเรื่องหวย ตรงนี้สมารถเชื่อถือได้หรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า ก็เชื่อได้บางส่วน ถามต่อว่าเห็นว่าคนชื่อฟ้ามีหลักฐานเป็นคลิปและเสียงว่าหมวดจรูญยอมรับว่าเก็บลอตเตอรี่ได จริงเท็จแค่ไหน ครูปรีชาตอบว่า คือในเรื่องพยานหลักฐานครูได้นำเรียนไปแล้วว่า เราจะไม่ขอพูดเรื่องพยานหลักฐาน เพราะถ้าหากเอาพยานหลักฐานมาพูดตรงนี้มันจะไม่เหมาะ เพราะมันเป็นกระบวนการเรื่องของศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความรู้สึกส่วนตัวครูปรีชาคิดว่าหมายจับที่กำลังจะออกมานั้น จะเป็นหมายจับฝั่งของครู หรือว่าฝั่งของหมวดจรูญ ครูปรีชาตอบว่า คือเรื่องของหมายจับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงมาแล้วว่า การพิสูจน์ทรัพย์ว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ ซึ่งทางลุงจรูญเองยังไม่ทราบเลยว่าซื้อลอตเตอรี่มาจากไหน ซื้อมาจากใคร ซื้อเมื่อไหร่ แต่ในส่วนทางด้านของผมเราซื้อจริงและมีที่มาที่ไป และเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ และของเราเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรุ่งนี้มีหมายจับมา ครูปรีชาจะดำเนินการอย่างไรต่อ ตอบว่าก็ต้องปรึกษากับทางด้านทนายความ และคงต้องสู้กันต่อไป ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีคลิปเสียงที่เป็นหมัดเด็ดออกมาเป็นการเจรจากับเจ๊คนหนึ่ง คลิปตัวนี้ถือว่าเป็นหลักฐานเด็ดเลยหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า คือคลิปดังกล่าวก็เป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งในหลักฐานหลายๆชิ้น ดังนั้นก็ต้องปรึกษากับทางด้านทนายก่อน ว่าหลักฐานชิ้นไหนที่เหมาะที่จะนำไปต่อสู้ในชั้นศาล
ถามว่าจากร้อยเปอร์เซ็นต์ครูคิดว่าหมายจับจะไปออกฝั่งไหนมากกว่า ครูปรีชาตอบว่า เรื่องนี้ยังไม่อยากคาดเดา ขอรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิสูจน์หลักฐานให้เรียบร้อยก่อน ถามว่าในวันพรุ่งนี้จะรอลุ้นผลการแถลงของ ผบ.ตร.หรือไม่ ตอบว่าวันพรุ่งนี้ก็คงเดินทางมาโรงเรียนเพื่อสอนหนังสือตามปกติ เพราะว่าช่วงนี้เด็กๆใกล้จะสอบแล้ว ต้องเก็บคะแนนนักเรียน และต้องทบทวนเนื้อหาให้กับนักเรียนให้มีความรู้ให้มากที่สุด ส่วนเรื่องคดีความนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีพยานอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย ครูขอไม่พูดตรงนี้ แต่คิดว่าในเร็วๆนี้คงได้รับสิ่งดีๆ ที่จะมาปรากฏความจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นี่ครูพยายามจะบอกว่ามีพยานอยู่ที่อำเภอบ่อพลอยจริง ครูปรีชาตอบว่ามีมีแน่นอนแต่ว่าก็ต้องรอปรึกษากับทางด้านทนายก่อน ก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ ว่าของเราเป็นของจริงและของแท้ และหลักฐานต่างๆก็จะเข้าสู่กระบวนการศาลต่อไป
และจนถึงขณะนี้ครูยังไม่มีเวลาไหว้พระเลย แต่ว่าก่อนนอนก็จะไหว้พระขอพรทุกวัน ขอพรจากพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ในสิ่งที่ได้ทำความดีมาทั้งชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้น แค่การทำลอตเตอรี่หล่น ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมา ดังนั้นต้องขอขอบคุณสื่อทุกแขนง ตอนนี้มีสื่อเป็นเพื่อนแล้ว มีพี่ๆน้องๆมารุมเต็มกันหมดเลย ชีวิตเลยไม่ขาดความอบอุ่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรุ่งนี้ (28 ก.พ.)ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงข่าวสรุปผลสำนวนคดีส่งให้อัยการว่าใครผิดใครถูก ตรงนี้หลังจากผลออกมา ครูจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า ตรงนี้ยังไม่ได้มีการปรึกษากับทางด้านทนายความ แต่คาดว่าคงจะไม่มี เพราะว่าช่วงของการแถลงนั้นเป็นเรื่องของสิ่งที่เราจะต้องปรึกษากันกันอีกครั้งหนึ่ง
ถามว่าเวลางวดเข้ามาทุกทีเมื่อถึงวันพรุ่งนี้ครูจะรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า นี่เวลาล่วงเลยมาเกือบ 4 เดือนแล้ว มันเลยเวลาของการตื่นเต้นไปแล้ว แต่มันมีแต่ความจริง และในสิ่งที่ต้องเตรียมตัวเองก็คือพยานหลักฐานเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการศาล โดยหลังจากครูปรีชาตอบคำถามจบ ผู้สื่อข่าวสังเกตพบว่าดวงตาของครูปรีชามีน้ำตาคลอออกมา จึงถามขึ้นมาว่าเป็นอะไร ครูตอบว่าไม่ใช่น้ำตาแต่เป็นน้ำฝนหยดลงมาเข้าตา ไม่มีน้ำตาครับเพราะว่าอบอุ่นครับ
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า กรณีมีการข่มขู่พยานทางฝ่ายครูครูปรีชาจะดำเนินการอย่างไร ตอบว่า เรื่องการข่มขู่พยานและตัวครูมีออกมาเป็นระยะๆ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นบางครั้งก็ต้องทำใจ เพราะการข่มขู่เขาอาจจะประสงค์ดีก็ได้ และก็คงไม่มีอะไร ตอนนี้คนเป็นการติดต่อมากกว่า เป็นการติดต่อจากคนกลาง ซึ่งได้ติดต่อให้กับทั้งสองฝั่ง แต่เรื่องการข่มขู่นั้นมีจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหมายถึงพยานหรือว่าคนกลางเป็นคนข่มขู่ หรือว่าใครเป็นคนข่มขู่ ครูปรีชาตอบว่า มีคนกลางมาบอก และคนกลางตอนนี้ครูไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เพราะว่าท่านเองก็หวังดี อยากให้มีทีเรื่องมีความกันแค่นี้ และให้มีการปรึกษาหารือกัน เพราะทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ได้เจอกันเลย
ถามว่าพรุ่งนี้ (28 พ.ย.)ครูจะมีการส่งตัวแทนเข้าไปฟังคำแถลงของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ตอบว่าคงไม่ได้ไป เพราะว่าทุกคนก็ต้องทำงานตามหน้าที่ ผู้สื่อข่าวถามท้ายสุดว่า จากกรณีคุณฟ้าได้เอ่ยชื่อถึงเจ๊ดำ ถามว่าครูรู้จักกับเจ๊ดำหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า ไม่รู้จัก รู้จักเฉพาะเจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช และเจ๊เกียว ส่วนเจ๊บ้าบิ่น ครูไม่ได้เรียกเขาว่าเจ๊ดำ แต่ครูเรียกเขาว่าของดำ คือของดำ ให้ลาภ”
ถามว่าหากครูปรีชา เป็นฝ่ายชนะ จะมีการฉลองหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า คงไม่มีหรอกครับ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม กรรมของการกระทำ ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สำหรับเรื่องการสอน ก็สอนเรื่องของคนมีจริยธรรม เรื่องสิ่งที่ดีงาม เช่นการเก็บของตกได้ก็ต้องนำไปคืนเจ้าของ และสิ่งที่เป็นคุณธรรมที่ต้องนำไปสู่เยาวชน และคดีนี้ถือว่าเป็นคดีครั้งประวัติศาสตร์ เพราะว่าเป็นคดีที่คนไทย จะต้องจดจำกันไปอีกนาน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เชื่ออะไร และความจริงนั้นเป็นอย่างไร และมารอดูผลการตัดสินของศาลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร คงรออีกไม่นาน
ผู้สื่อถามต่อว่า อะไรที่ทำให้ครูมั่นใจว่ามีการก้มเก็บลอตเตอรี่มีหลักฐานเป็นคลิปหรือว่าหลักฐานอะไร ครูปรีชาตอบว่า สิ่งที่ครูมั่นใจมีอยู่หลายอย่าง สิ่งที่มั่นใจอันดับแรกคือเราทำลอตเตอรี่ตกจริงๆ เมื่อเราทำลอตเตอรี่ตกจริงๆ หายจริงๆ และเราไปเจอคนที่นำลอตเตอรี่ของเราไปขึ้นเงินรางวัล นั่นก็หมายความว่าเขาเก็บลอตเตอรี่ได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบว่าอาจารย์ประสานไปทางตำรวจว่าจะมอบหลักฐานเด็ดให้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ครูปรีชาตอบเช่นเดิมว่า เรื่องพยานหลักฐานขอไม่พูดที่ตรงนี้ แต่บอกได้อย่างเดียวว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดคือความจริง และเชื่อมั่นในความจริง ของจริงต้องไม่กลัวอะไร