กาญจนบุรี - “ครูปรีชา” พร้อมเข้าพบหากกองปราบฯ เรียกตัว เผยเรื่องปล่อยเงินกู้เป็นเพียงกระแส ส่วนนายอัจฉริยะ ท้าหากลอตเตอรี่เป็นของครูจะยอมขอขมา พร้อมยุบชมรมนั้น รับไม่เคยดูข่าวอัจฉริยะ
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่หน้าบ้านเลขที่ 143/22 ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเดินทางไปสอนหนังสือที่โรงเรียน ซึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวไหมหากมีการออกหมายจับ ครูปรีชา ตอบว่า เราบอกเรายึดมั่นในความจริง เหตุเกิดจริง เพราะฉะนั้นในเรื่องจริงเราต้องไม่กลัว เรื่องจริงคือเราทำลอตเตอรี่หาย เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเราจะไม่กลัว
ถามว่าตื่นเต้นหรือไม่เพราะใกล้วันเข้ามาทุกขณะ ครูปรีชา ตอบว่า ตื่นเต้นที่มีนักข่าวมารุมล้อมเยอะแยะทุกวันเลย และไม่ได้ตื่นเต้นกับคดี เพราะเรื่องของคดีความ เมื่อเราเป็นเรื่องจริง ผมจึงเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นเรื่องจริง เราต้องไม่หวั่นไหว และไม่กลัวอะไรเลย และพร้อมจะเผชิญกับเรื่องจริง
ถามว่าถ้าวันนี้มีหมายจับมาถึง และมีการเชิญตัวคุณครูไปที่กองปราบฯ ครูจะทำอย่างไร ครูปรีชาตอบว่าก็ยินดีที่จะไป ไปรายงานตัวตามสิ่งที่มีมา แต่ว่าตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้แถลงเลย แต่หนังสือพิมพ์บางฉบับลงไปแล้วว่าจับ ครูปรีชา อย่างโน้นอย่างนี้ คือ ตำรวจเขายังไม่ได้แถลงแต่นักข่าวรู้หมดเลย หนังสือพิมพ์ลงทุกฉบับแล้ว ก็อย่างที่เคยบอกว่าหนังสือพิมพ์ก็จะไปโน้มน้าวประชาชน ขอให้รอการแถลงข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลไหมว่าถ้าหากวันนี้มีหมายจับมา ครูปรีชา ตอบก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะทุกอย่างนั้นเป็นไปตามขั้นตอนพิสูจน์พยาน และหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเราก็เข้าสู่กระบวนการของศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางบ้านได้มีการเตรียมตัวอะไรเอาไว้หรือไม่ถ้ามีการเชิญตัวครูไปที่กรุงเทพฯ ครูปรีชา ตอบว่า ทางบ้านไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เมื่อเชิญตัวเราไปผมก็ไป ไปกับทนายความ ถามต่อว่า ครูได้คุยกับเจ๊บ้าบิ่น หรือยัง เพราะจากการอ่านข่าวพบว่า เจ๊บ้าบิ่น โดนออกหมายจับด้วย ครูปรีชา ตอบว่า คือตอนนี้พวกเรายังไม่ได้เจอกัน และก็ยังยืนยันตามความเป็นจริง
ถามว่าที่ผ่านมา ครูได้ไปบนบานที่ไหนเอาไว้หรือไม่ ครูปรีชา ตอบว่า ของจริงไม่จำเป็นต้องไปบน ถามว่าเมื่อวานนี้ทราบว่าครูได้เข้าไปปรึกษากับทนายความจริงหรือไม่ ตอบว่าไม่จริง เพราะหลังจากแยกจากนักข่าวแล้วก็กลับบ้านเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการฟ้องคดีแพ่งเห็นว่าทางทนายบอกว่าครูยังไม่ส่งรายชื่อพยานให้ ครูตอบว่า ทนายของครูมี 2 ท่าน อีกหนึ่งคนเป็นทนายร่วม และจะได้ปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง ถามว่าครบทั้ง 15 ปากหรือไม่ ครูตอบว่าขอปิดเอาไว้ก่อน ถามว่ากังวลหรือไม่ถ้าหากมีหมายจับ และมันจะไปกระทบกับคดีอื่น ครูปรีชา ตอบว่า ที่จริงแล้วทั้งสองคดีนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน คือ ต้องสืบที่มาของทรัพย์ว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร ซึ่งทรัพย์ดังกล่าวนั้นก็คือ ลอตเตอรี่ โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องมาพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร ขั้นตอนก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ดังนั้น แต่ละฝ่ายก็ต้องมาพิสูจน์เพื่อให้ศาลได้มั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าหากทางตำรวจแถลงฟันธงออกมาว่า ลอตเตอรี่นั้นเป็นของฝ่ายหมวดจรูญ ครูจะยังคงมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่หรือไม่ ตอบว่าคือครูเคยยืนยันไปแล้วว่า ผมเชื่อมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคิดว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเป็นไปด้วยความยุติธรรม ให้ความโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย
ถามว่าในส่วนของ นายอัจฉริยะ ที่ออกมาให้ข่าวว่า หากลอตเตอรี่เป็นของครูจริงเขาจะยอมออกมาขอขมา และยอมปิดชมรม และภายหลังจากที่มีการตัดสินคดีแล้วเสร็จ ครูปรีชา จะมีการดำเนินคดีต่อ นายอัจฉริยะ หรือไม่อย่างไร ครูปรีชา ตอบว่า คือเรื่องของนายอัจฉริยะ เนี่ยครูเองไม่เคยไปดูข้อมูลอะไรของเขาเลย เพราะอย่างที่เคยบอกว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสเอาไว้ว่า คนเราให้มองตนเอง อย่าไปมองคนอื่น มองคนอื่นแล้วจะเกิดความทุกข์ ขอให้มองตัวเอง เมื่อเรามีเรื่องคดีความ ลอตเตอรี่หล่นหาย เราก็มองมาที่ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเรื่องของการเข้าสู่กระบวนการศาล เราต้องเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุพยานหลักฐานต้องเตรียมให้พร้อม และวัตถุพยานของผมไม่ต้องไปพิสูจน์เพราะเป็นเรื่องของศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางหมวดจรูญ จะมีการแถลงเปิดใจ หลังจากที่ ผบ.ตร.แถลง แล้วทางครูปรีชาจะมีการแถลงเปิดใจด้วยหรือไม่ ครูปรีชา ตอบว่า ตอนนี้ครูยังไม่ได้คุยกับทางทนายเลย เพราะว่าพวกเราก็จะมีการปรึกษากันบ้าง แต่ของเราคือเรื่องจริงของจริง ดังนั้น จึงพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ
ถามว่าถ้า ครูปรีชา ย้อนเวลากลับไปได้จะทำอย่างไร ครูปรีชา ตอบว่า ดีใจครับถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะดีใจ และภูมิใจมากๆ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล มีส่วนช่วยในการบำรุงประเทศ แล้วก็ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจนมีข่าวว่าครูชอบเล่นการพนัน อยากจะเรียนอย่างนี้ว่า การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการช่วยชาติแล้วก็การที่เราถูกรางวัล เงินที่ได้มาส่วนใหญ่ก็จะเอาไปให้คนไม่มีจะกิน นั่นก็คือคนยากคนจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสข่าวที่ว่า ครูปรีชา ได้มีการปล่อยเงินกู้ด้วย ข่าวนี้จริงเท็จแค่ไหน ครูตอบว่า คือจริงๆ แล้วข่าวเรื่องนี้มีการลือกันไปมา ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้ดูข่าวทีวีช่องหนึ่งว่า เจ๊เกียว ปล่อยเงินกู้ ครูปรีชา ก็ปล่อยเงินกู้ บอกตามตรง ครูไม่มีรายได้พอที่จะนำไปปล่อยเงินกู้ได้หรอก รายได้แต่ละเดือนมีพอใช้ภายในครอบครัวก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่ปล่อยข่าวก็เพื่อต้องการให้เป็นกระแสรายวันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากวันพรุ่งนี้ทางกองปราบแถลงชี้ว่าลอตเตอรีเป็นของหมวดจรูญ ตรงนี้ครูได้เตรียมอะไรไว้บ้างหรือไม่ ครูปรีชา ตอบว่า คือกองปราบท่านก็ได้ดูจากพยานและหลักฐาน โดยเฉพาะผมเนี่ยเป็นผู้เสียหาย กล่าวอ้างเมื่อเป็นผู้เสียหายก็ต้องมาพิสูจน์สิทธิว่าทรัพย์นั้นเป็นของเราจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นก็ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน และคาดว่าภายในพรุ่งนี้คงจะเรียบร้อย และในวันพรุ่งนี้ขอให้สื่อมวลชนไปพบกับครูที่หน้าโรงเรียน
เมื่อถามว่าถ้าครูโกหก ครูเตรียมตัวรับกระแสได้ไหม ครูปรีชา ตอบว่า การโกหกไม่ได้มาจากจุดเริ่มต้นตรงนี้ พยานทั้ง 2 คน ก็ไม่มีใครโกหกเช่นกัน ทุกคนพูดเรื่องจริงหมดนะครับ แต่ศาลจะพิสูจน์ได้ว่าใครโกหกกันแน่ ตนเองไม่ได้กังวลถึงคำสาบานที่มีความรุนแรงเลย ทุกคนก็มีสิทธิของตัวเอง แต่ล่ะคนก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว และไม่เคยไปกล่าวหาใครว่าเป็นกระบวนการเลย เป็นเพราะสื่อนะ ตนเองไม่เคยว่าใคร ไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยฝากคนที่สิบ ที่ร้อยไปทำร้ายใคร และสื่อจะมารู้ได้ไงว่าตนเองไม่ได้นำหลักฐานหมัดเด็ดไปยื่นให้แก่พนักงานสอบสวน มันเป็นความลับของระบบราชการ