... รายงาน ...
ในที่สุด องค์การขนส่งมวลชนมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ลงนามสัญญาซื้อขายรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) กับ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ประกอบด้วย บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน)
โดยสัญญาดังกล่าว ประกอบด้วย การจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ 489 คัน พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร ระยะเวลา 10 ปี มูลค่าโครงการประมาณ 4,261 ล้านบาท ถือเป็นลอตแรก จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ ขสมก. จัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวีจำนวน 3,183 คัน
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ จะพบว่า ขสมก. ประสบปัญหารถเมล์ที่มีสภาพเก่า ชำรุด ทรุดโทรม และจอดเสียเป็นจำนวนมาก เพราะซ่อมไม่ไหวมานานแล้ว
ในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา ขสมก. ได้จัดการประมูลมาแล้ว 7 ครั้ง ราคากลาง 4,020 ล้านบาท ครั้งล่าสุด บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ชนะการประมูล ถึงขั้นเซ็นสัญญา นำรถเมล์มาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว
แต่กรมศุลกากรพบว่า มีการสำแดงภาษีอันเป็นเท็จ โดยพบพิรุธการนำเข้าจากจีนและแวะพักมาเลเซีย ไม่ได้ประกอบในโรงงานมาเลเซีย แม้ เบสท์ริน กรุ๊ป จะเอาเอกสารมายืนยันก็ไม่เชื่อ
สุดท้าย ขสมก. เลยยกเลิกสัญญา รถเมล์เอ็นจีวี 83 คัน พบว่า จอดอยู่ในพื้นที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยไม่มีทีท่าว่าจะย้ายออกไป ทำให้ รฟม. เตรียมยื่นฟ้องแพ่งเพื่อเอารถเมล์ออกไป
การประมูลรอบใหม่ครั้งนี้ พบว่า มีกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เพียงหนึ่งเดียวที่เข้ามา แล้วชนะการประมูล สูงกว่าราคากลาง 241 ล้านบาท
แต่ตามเงื่อนไขของการจัดซื้อจัดจ้าง หากมีผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว และไม่เกินราคากลาง 10% ผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานตัดสินใจรับเงื่อนไขได้เลย จึงได้เซ็นสัญญาซื้อขายไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ช ทวี กล่าวว่า รถโดยสารปรับอากาศดังกล่าว จะใช้เทคโนโลยีจากจีนที่เป็นคู่ค้ากับทางบริษัทมากกว่า 15 ปี
จากนี้จะส่งมอบรถโดยสารลอตแรก 100 คัน ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 61 ส่วนที่เหลือจะต้องส่งมอบให้ครบ 489 คัน ภายในช่วงเดือน มิ.ย. 61
นอกจากนี้ ได้หารือกับทาง ขสมก. จัดทำแอปพลิเคชัน ให้ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบจุดขอรถเมล์เพื่อให้ไม่เสียเวลาในการรอรถเมล์ เนื่องจากปัจจุบันได้มีการติดตั้งระบบจีพีเอสบนรถเมล์ ขสมก. หมดแล้ว
ปีที่แล้วคนกรุงเทพฯ ได้แต่รอเก้อเพราะผู้ชนะรอบที่แล้วเจอเรื่องสำแดงภาษีเท็จ ปีใหม่นี้คงต้องรอดูว่า คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้รถเมล์เอ็นจีวีใหม่เอี่ยม แทนรถเก่าที่ใช้งานมานานนับสิบปีหรือไม่