สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมทีมแพทย์ที่ผ่าชันสูตร ระบุว่า การนำอวัยวะทั้งชิ้นไปตรวจเกิดขึ้นได้ในทางเทคนิค เแต่ในหลักการต้องแจ้งญาติทราบนอกเสียจากว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคดีความในกรณีที่เป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ เพื่อให้ได้คำตอบทางคดี
วันนี้ (22 พ.ย.) นายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวปม นรต.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารอวัยวะหาย หลังเสียชีวิต เผย พนักงานสอบสวนส่งเรื่องมาผ่าพิสูจน์รอบ 2 วันที่ 25 ต.ค. เริ่มผ่าพิสูจน์ 1 พ.ย. พบในร่างไม่มีสมอง หัวใจ กระเพาะอาหาร จึงแจ้งพนักงานสอบสวนให้นำอวัยวะมาส่งเพิ่ม แพทย์ระบุตามขั้นตอนปกติ หากเสียชีวิตตามธรรมชาติ เช่น ป่วย ต้องขออนุญาตจากญาติ หากแพทย์สงสัยว่าอวัยวะใดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจะขออนุญาตนำอวัยวะนั้นๆ ไปตรวจเพิ่ม ส่วนการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ส่งมาผ่าพิสูจน์ แพทย์จะมีการเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจ กรณีเก็บอวัยวะจะต้องขออนุญาตก่อนเพื่อนำไปประกอบการใช้การเรียนการสอนในอนาคต
แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยธ. ระบุว่า การผ่าครั้งแรกเป็นไปได้ในการเก็บอวัยวะขึ้น ขณะที่การผ่ารอบ 2 ยังรออวัยวะ มีการประสานงานกับทีมแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ผ่าพิสูจน์รอบแรกเรื่องอวัยวะหายแล้ว ขณะนี้ยังรออวัยวะจากพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตรวจสอบได้หรือไม่ ว่า เป็นอวัยวะของผู้เสียชีวิตจริง ตอบตามขั้นตอน พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดูแลของกลาง หากสงสัยแพทย์สามารถตรวจดีเอ็นเอ (DNA)
แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยธ. แจงขั้นตอนของกฎหมายเรื่องการนำอวัยวะออกจากร่างผู้เสียชีวิต ระบุ ปัจจุบันไม่มีแนวทางที่กำหนดชัดเจน เรื่องการแจ้งข้อมูลกับญาติกรณีนำอวัยวะออก เหตุเป้าหมายการผ่าพิสูจน์การตายแบบผิดธรรมชาติ คือ การหาร่องรอยทางคดีเป็นเป้าหมายสูงสุด ที่ผ่านมา อาจเคยเกิดกรณีแบบนี้
ด้าน นายสมณ์ พรหมรส ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยธ. เผยการผ่าพิสูจน์ครั้งแรก คาดแพทย์มีเจตนาดีในการหาร่องรอยทางคดี แต่ขาดการสื่อสารกับญาติ เรื่องการนำอวัยวะออกจากร่าง ทีมแพทย์ที่ร่วมแถลง ตอบคำถามผิดจรรยาบรรณแพทย์หรือไม่ กรณีไม่แจ้งญาตินำอวัยวะออก ระบุสภาวิชาชีพฯจะเป็นผู้ชี้ขาด
“พรุ่งนี้ (23 พ.ย.) พนักงานสอบสวนจะส่งอวัยวะนักเรียนเตรียมทหารมาให้ตรวจพิสูจน์ คาด วันที่ 30 พ.ย. นี้ จะสามารถสรุปผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ขณะนี้เหลือเพียงการตรวจสมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร ส่วนการผ่าพิสูจน์ร่างส่วนอื่นๆ ดำเนินการไปแล้ว” ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผย