MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง www.manager.co.th และเฟซบุ๊ก MGROnline Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7 หรือ http://bit.ly/mgrtop7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 10 - 16 มิ.ย. 2560)
อันดับ 1 : จับเป็น! “วัฒนา” มือบึ้ม รพ.พระมงกุฎ สารภาพแค้นทหารแทนเสื้อแดง
ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ฉลองครบรอบ 3 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ในที่สุดเมื่อเช้าวันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจและทหารไปค้นบ้านหลังหนึ่งในซอยรามอินทรา 3 เขตบางเขน กทม. พบว่าบุคคลในบ้านมีส่วนเกี่ยวข้อง และพบสิ่งที่นำไปประกอบเป็นวัตถุระเบิด โดยควบคุมตัวชายวัย 62 ปีไปที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยที่ผู้สื่อข่าวไม่ทราบเรื่อง กระทั่งต่อมาทราบชื่อคือนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบไปป์บอมบ์ 4 ลูก และยังพบหลักฐานเป็นนาฬิกาที่ระลึกนายทักษิณ สีแดงอีกด้วย
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทหาร นายวัฒนา รับสารภาพแล้วว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าจริงเพียงคนเดียวไม่มีผู้เกี่ยวข้อง โดยมีการเตรียมการไปดูสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะต้องการให้ทหารเจ็บปวดเหมือนที่ทหารเคยสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง และยังก่อเหตุวางระเบิดที่บริเวณโรงละครแห่งชาติ หน้ากองสลาก ถนนราชดำเนิน รวมถึงการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2550 ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ซอยราชวิถี 24 และหน้ากองบัญชาการกองทัพบกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขอความกรุณาอย่าเชื่อมโยงกับพี่ชาย และพรรคเพื่อไทยได้ประณามไปแล้ว
อันดับ 2 : ใจยักษ์! แม้แท้ๆ ตี “น้องรุ้ง” จนตาย ก่อนเอาศพถ่วงน้ำ อ้างลูกดื้อ
เหตุสลดใจจากน้ำมือของแม่บังเกิดเกล้าแท้ๆ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พบศพด็กถูกฆ่าถ่วงน้ำบริเวณสามแยกของคลองสำโรงแยกเข้าคลองจรเข้ใหญ่ ซอยทรัพย์แดง ถนนเทพารักษ์ ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ผ่านไป 2 วันจึงพบเบาะแสว่า ที่บ้านเช่าละแวกที่เกิดเหตุพบเด็กหญิงคนหนึ่ง มาอาศัยกับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงได้ 2 เดือน มักจะเห็นรอยเขียวช้ำตามร่างกายเวลามาซื้อของ และขังเด็กไว้ในบ้านเวลาแม่กับพ่อเลี้ยงไปทำงาน ทราบชื่อคือ ด.ญ.พรทิพย์ กุลนานันท์ หรือ รุ้ง อายุ 10 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมาอาศัยอยู่ภายในบ้านเช่ากับกับ น.ส.สุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี พนักงานโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเวลโก จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งตำรวจประสานจับกุม น.ส.สุภาพร พร้อมด้วย นายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 35 ปี พ่อเลี้ยงได้ที่บ้านญาติฝ่ายชายใน ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
ทั้งคู่รับสารภาพว่า ที่ลงฆ่าน้องรุ้งเพราะอ้างว่าลูกดื้อ ชอบโกหก กระทั่งวันที่ 7 มิ.ย. น.ส.สุภาพรใช้ไม้ตีน้องรุ้งที่ศีรษะและลำตัวจนเกิดรอยเขียวช้ำ มีไข้ ตัวร้อน หน้าบวม และปากบวม และกักขังไม่ให้ออกไปไหน กระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. กลับจากที่ทำงานพบว่าน้องรุ้งเสียชีวิต จึงร่วมกับนายวจะรันนำผ้านวมและผ้าห่มห่อศพ ก่อนซ้อนมอเตอร์ไซค์อุ้มศพไปที่ศาลาร้างริมคลองสำโรง แล้วนำศพถ่วงก้อนหินโยนทิ้งลงไป จากนั้นเก็บข้าวของย้ายหนี นำลูกสาวที่เกิดจากพ่อเลี้ยงไปฝากให้ญาติ จนตำรวจจับกุม เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้นปิดบังสาเหตุการตาย สำหรับน้องรุ้งเป็นลูกที่เกิดกับนายไพโรจน์ กุลลานันท์ ที่เลิกรากันไป ก่อนที่นายไพโรจน์จะเสียชีวิต กระทั่งตากับยายของน้องรุ้งมาขอหลานไปเลี้ยงที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วแม่มารับให้ไปเลี้ยงลูกสาววัย 3 ขวบที่เกิดจากพ่อเลี้ยง กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว
อันดับ 3 : เข็มทิศชีวิตพัง! ดาราแห่เท “ครูอ้อย” เจ้าตัวดรามาอ้างถูกขู่เรียกค่าไถ่
จากผู้เขียนหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" อันโด่งดัง สู่การเป็นครูสอนด้านจิตใต้สำนึก สำหรับ ฐิตินาถ ณ พัทลุง แต่เมื่อคราวที่เข็มทิศผุพัง เรื่องดราม่าจึงบังเกิด เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน ดาราสาวออกมาโวย หลังพบคลิปเจ้าตัวเข้าอบรมในหลักสูตรของ ครูอ้อย ทั้งที่ไม่เข้ารับการอบรมในคอร์สใดๆ นานเกือบ 3 ปีแล้ว เพราะมีแนวทางไม่ตรงกัน แม้เจรจาทางทีมงาน ให้ตัดตนเองออกจากคลิป และสื่ออื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ กระทั่งคณะผู้จัดทำบทเรียนฟรีทางไกล เข็มทิศชีวิต ชี้แจงว่า ได้เซ็นยินยอมให้ทางบริษัทฯ ใช้ภาพเป็นลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ทราบว่าที่เซ็นเอกสารเพื่อใช้ในการโปรโมต นอกจากนี้ยังพบว่า อุ๋ย บุดดาเบลส, ครูเงาะ รสสุคนธ์ และ ปอย-ตรีชฎา ได้ออกมาประกาศว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับครูอ้อยอีกด้วย แม้จะมีดาราหนุนอย่าง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ และ ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ
อีกด้านหนึ่ง เพจ “เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง” พบภาพการเรียนการสอนในเชิงดรามามากมาย อีกทั้งคอร์สที่ให้ผู้เข้าอบรมปฏิบัติธรรมนั้น ดูแล้วไม่สอดคล้องกับหลักคำสอนของพุทธศาสนามากนัก ไม่นับรวมคอร์สค่าเรียนของ ครูอ้อย ราคาเริ่มต้นที่ 25,000-45,000 บาท รับเฉพาะ 100 คน มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทต่อครั้ง และ 90 ล้านบาทต่อปี ไม่นับรวมมีบ้านสุดหรู ใช้เป็นที่ภาวนา จึงกลายเป็นที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างหนัก กระทั่งเจ้าตัวแถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับข้อความจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งข่มขู่เรียกค่าไถ่จำนวน 11 ล้านบาท หากไม่ปฏิบัติตามจะแพร่ข่าวให้เกิดความเสียหาย จึงได้ร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่วนประเด็นหลักสูตรที่มีราคาสูงนั้น อ้างว่ามีหลักสูตรเรียนฟรี แต่ได้เปิดโอกาสให้คนที่อยากเรียนเป็นกลุ่มได้เข้ามา โดยคิดชั่วโมงละ 1,500 บาท 16 ชั่วโมง และยืนยันว่าหลักสตูตรของตนไม่ได้คล้ายวัดพระธรรมกาย เพราะไม่ได้เป็นพระ แต่มาแก้ความทุกข์ให้คน
อันดับ 4 : คุณลำไย! “ประยุทธ์” ด่า “ลำไย ไหทองคำ” เต้นไม่เหมาะสม-ตำรวจคุมถึงเวที
แม้เพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ของนักร้องหมอลำ “ลำไย ไหทองคำ” หรือ น.ส.สุพรรณษา เวชกามา เปิดตัวเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2559 โดยมีผู้ฟังมากกว่า 247 ล้านครั้ง และได้รับความนิยมในช่วงสงกรานต์ทางภาคอีสาน แต่กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตำหนิระหว่างการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า คลิปของลำไย เต้นเกือบจะโชว์ของสงวน อยากให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา กระทั่งวันที่ 12 มิ.ย. หลังประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้สื่อไปช่วยตักเตือน ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นนิสัยคนดูก็ชอบดู กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การออกมาเปิดประเด็นตำหนินักร้องสาวของนายกฯ อาจเป็นการกลบเกลื่อนประเด็นบางอย่าง
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. กำลังตำรวจจาก สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ต้องไปขอความร่วมมือทีมงานให้ช่วยดูแลเรื่องการแสดง ระหว่างจัดคอนเสิร์ตที่ตลาดนัดจ่าหมาย จนเจ้าตัวต้องใส่เสื้อเชิ้ตคุม และต้องลดความร้อนแรงของท่าเต้นลง แต่ในส่วนของ น.ส.สุพรรณษา เปิดเผยว่า กำลังปรับปรุงท่าเต้นและการแต่งกายอยู่ ไม่ได้ไม่พอใจหรือโกรธเคือง เข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ รู้สึกว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนตลก ไม่ได้คิดอะไรมาก และก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อผลงานเพลง ส่วนเรื่องค่าตัวจะลดลงหรือไม่ ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของผู้จัดการส่วนตัว พร้อมฝากถึงบรรดาแฟนเพลงว่า ขอให้เลือกเสพสื่อย่างมีสติ ย้ำว่าบนเวทีคือการแสดง อาจจะไม่เข้าใจกันบ้าง แต่เชื่อว่าเหรียญมีสองด้าน ทุกคนสามารถเลือกทำตามที่ตัวเองชอบได้ แต่ขอให้แยกแยะให้ออกว่าเรื่องใดดี เรื่องใดไม่ดี
อันดับ 5 : ไหม้ระฟ้า! อพาร์ทเมนต์ 24 ชั้นกลางกรุงลอนดอน ย่างสดดับ 74 ศพ
เพลิงไหม้สะเทือนขวัญครั้งหนึ่งในอังกฤษเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ความสูง 24 ชั้น ตั้งอยู่ในเขตนอร์ทเคนซิงตัน ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยจำนวน 120 ห้อง ประมาณ 600 คน โดยต้นเพลิงเกิดจากชั้น 2 ก่อนลุกลามขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน บาดเจ็บ 24 คน หนึ่งในนั้นสาหัส 12 คน และยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญหาย โดยบรรดาญาติและผู้รอดชีวิตต่างนำแผ่นป้ายประกาศที่มีรูปของผู้สูญหายมาติดโดยรอบ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ สำหรับอาคารดังกล่าว มีอายุการใช้งาน 31 ปี ก่อนหน้านี้เพิ่งมีการปรับปรุงอาคาร ใช้งบประมาณ 8.7 ล้านปอนด์ โดยใช้แผ่นอลูมิเนียม แคลดดิ้ง (Aluminium Cladding) ที่มีไส้กลางเป็นพลาสติกแบบโพลียูรีเทน (Polyurethane) ติดผนังด้านนอก มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา ราคาถูก นิยมใช้ตกแต่งอาคาร แต่ไม่มีคุณสมบัติกันไฟ จึงเป็นสาเหตุให้เพลิงไหม้ลุกลามมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
อันดับ 6 : รับจ้างกดไลก์! ชาวจีนทำเป็นขบวนการ “คลิกฟาร์ม” ชายแดนไทย-กัมพูชา
กลายเป็นเรื่องฮือฮาสะเทือนอุตสาหกรรมออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านโก้เก๋ ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบชายชาวจีน 3 คน โดยมี น.ส.ตรีนุช จันทร์เจริญ ภรรยาคนไทย ชาว จ.ยโสธร เป็นเจ้าของบ้าน พร้อมของกลาง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือไอโฟน รวม 474 เครื่อง และซิมการ์ดเครือข่ายเอไอเอส ดีแทค และทรู รวม 347,200 ชิ้น ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. ขยายผลตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 72 ถนนรัชตวิถี เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และซิมการ์ดในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ รวม 60,600 ชิ้น โดยชายชาวจีน 2 คนหลบหนีออกจากอาคารตั้งแต่ช่วงค่ำวันก่อน เบื้องต้น แจ้งข้อหาชาวจีนทั้ง 3 คนว่า ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าหนีภาษี หรืออินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย เนื่องจากผิด พ.ร.บ. ศุลกากร
ขบวนการรับจ้างกดไลก์สินค้า ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว ถูกเรียกขานนามว่า “คลิกฟาร์ม” (Click Farm) ซึ่งเป็นพฤติกรรมสีเทาของธุรกิจอินเทอร์เน็ต นอกจากจะกดไลค์ให้กับแอปพลิเคชันวีแชตแล้ว ยังกดให้ดาวรีวิวแอปพลิเคชั่นบนแอปสโตร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. กสทช. พร้อมตัวแทนค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบซิมการ์ดของกลาง พบว่าเป็นซิมเติมเงิน เปิดใช้งานตามแนวชายแดน บางส่วนมีการลงทะเบียนถูกต้อง โดยใช้หนังสือเดินทางของชาวต่างประเทศ บางส่วนเป็นการลงทะเบียนโดยผู้ขาย บางซิมใช้ได้ บางซิมหมดอายุ ขณะที่ผู้ต้องหาให้การว่า เข้ามาทำธุรกิจรับจ้างกดไลก์ กดแชร์ในแอปพลิเคชันวีแชต เนื่องจากประเทศจีนไม่เล่นเฟซบุ๊ก และการซื้อซิมในจีนต้องแสดงบัตรประชาชน 1 คนสามารถซื้อได้เพียง 1 ซิมเท่านั้น จึงเลือกมาดำเนินการในไทย
อันดับ 7 : “โปรเม” ครั้งแรก คว้านักกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก
หลังจากก่อนหน้านี้เกิดความผิดพลาดคำนวณคะแนนของแอลพีจีเอ ทำให้ต้องพลาดหวังการขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก แต่ในที่สุดฝันที่เป็นจริงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล สาวไทยวัย 21 ปี คว้าแชมป์ “แมนูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” (Manulife LPGA Classic) ที่วิสเซิลแบร์กอล์ฟคลับ เมืองเคมบริดจ์ ในรัฐออนทาริโอ ประเทศแคนาดา ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 60 ล้านบาท กระทั่งผลการจัดอันดับ Women’s World Golf Rankings ประจำวันที่ 12 มิ.ย. พบว่า โปรเม มีคะแนนเฉลี่ย 8.78 คะแนน แซงหน้า ลิเดีย โค โปรสาวชาวนิวซีแลนด์ ที่มีคะแนนเฉลี่ย 8.34 คะแนน กลายเป็นว่าเจ้าตัวก้าวขึ้นสู่การเป็นมือ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดี ระบุว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องชนะ อยากให้ไปดูว่าเขาสร้างตัวเองได้อย่างไร
สำหรับโปรเม เกิดวันที่ 23 พ.ย. 2538 บุตรสาวของนายสมบูรณ์ และนางนฤมล จุฑานุกาล ส่วนพี่สาวชื่อ โมรียา จุฑานุกาล หรือโปรโม จุดเริ่มต้นเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ โดยบิดา เปิดร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ กลัวลูกสาวจะกวน เลยยื่นไม้กอล์ฟให้ทั้งคู่ไปเขี่ยลูกกอล์ฟเล่นที่สนาม แล้วมีโปรกอล์ฟที่เดินผ่านมาเห็น เกิดความเอ็นดูเลยช่วยสอน กระทั่งอายุ 9 ขวบ ได้รองชนะเลิศจูเนียร์เวิล์ด ที่สหรัฐฯ เมื่อบิดาต้องการเห็นลูกสาวทั้งคู่ขึ้นเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกหรืออย่างน้อยต้องติด 1 ใน 10 ครอบครัวต้องทุ่มเทเงิน ขายบ้าน ขายรถ รวมกว่า 20 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางไปสานฝันถึงต่างแดน กระทั่งเป็นนักกอล์ฟหญิงชาวไทยคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 3 รายการติดต่อกัน ในปี 2016 มาถึงปี 2017 ได้สร้างประวัติศาสตร์เบอร์ 1 ของโลก ให้คนไทยได้ชื่นชมในความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง