xs
xsm
sm
md
lg

เป็นตาฮักอีหลี "แพรวมณี อินศรีเชียงใหม่" นักร้องสาวสู้ชีวิตจาก สปป.ลาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เพราะความคิดที่ไม่อยากขอเงินพ่อใช้ ทำให้สาวลาวนั่งเรือข้ามฝั่งเข้ามาในไทย ตั้งแต่อายุ 15 ปี เพื่อที่จะมาทำงานหาเงิน ทำตามความฝัน และการตัดสินใจในวันนั้นทำให้เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้เป็นทั้งนักร้องและพิธีกรในวันนี้ แพรวมณี อินศรีเชียงใหม่ สาวสวยมากความสามารถจาก สปป.ลาว

  • ถามถึงวันที่ตัดสินใจเข้ามาในประเทศไทยหน่อยค่ะ ตอนนั้นเข้ามาทำงานอะไรคะ

ตอนนั้นเราหนีออกจากบ้าน จำได้ว่าน่าจะอายุประมาณ 15 ปี มีความคิดว่าจะมากรุงเทพฯ เพราะไม่อยากขอเงินคุณพ่อ อยากเป็นคนที่หาเงินเอง เพราะเราไม่อยากเอาเงินของคุณพ่อมาซื้อของจิปาถะ อย่างเรื่องการแต่งตัว ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของซื้ออะไรก็แล้วแต่เราเลยมีความรู้สึกว่าเราหาเงินซื้อเองดีกว่า แล้วเราก็เป็นคนให้พ่อดีกว่าไหม อยากเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้ยื่นมือขอ

ตอนหนีพ่อมาตอนแรกคือเราก็ไปทำงานในไร่ปลูกสับปะรดอยู่ที่จังหวัดระยอง ทำอยู่ประมาณเดือนหรือสองเดือน เรายังเล็กไม่ได้โตแบบนี้ก็เป็นไข้แต่ก็ต้องสู้ หยุดไปอาทิตย์นึงแล้วก็มาทำใหม่ ก็เลยตัดสินใจว่าเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ดีกว่า

เข้ามากรุงเทพฯ มาทำงานก่อสร้าง ทำได้ประมาณเดือนนึงมันหนักก็เลยออก เลยไปทำงานโรงงานตอนนั้นขยับตำแหน่งจากประกอบไม้แล้วเห็นแท่นกลึงมันใหญ่ก็เลยอยากเป็นช่างกลึง หัวหน้าไม่อยู่ก็เลยแอบไปให้พี่ที่ทําอยู่สอนจนหัวหน้าก็เห็นว่าเราตั้งใจ
พอดีคนที่กลึงเขาก็ออก เราก็เลยได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นช่างกลึง ซึ่งความคิดของเราคิดว่าคนเราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นได้เรื่อยๆ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นค่ะ


  • แล้วจับพลัดจับผลูมาเป็นนักร้องได้ยังไง

นักร้องเป็นสิ่งที่เรารักในสายเลือด เราเป็นคนรักในการร้องเพลงเราก็เลยเริ่มเข้ามาในการเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วก็มีโอกาสร้องเพลงให้ลูกค้าฟัง เป็นเพลงลูกทุ่ง ตอนนั้นก็ได้ทิปครั้งละ 20 บาท ครั้งละ 50 บาท ครั้งละ 100 บาทบ้าง

จากเด็กเสิร์ฟก็กลายเป็นว่าเอาจริงเอาจัง โดยที่เราเริ่มเข้ามาในวงการเป็นเด็กเสิร์ฟก่อนแล้วก็มาร้องเพลงในสวนอาหารแล้วก็มารู้จักกับคุณนิตยา สารคาม แล้วก็เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงทุกวันนี้ค่ะ

  • แล้วตอนนั้นที่เป็นนักร้องในร้านอาหาร เอาเพลงอะไรมาร้องบ้างคะ

เป็นเพลงลูกทุ่งของไทยส่วนมากค่ะ ศิลปินลูกทุ่งไทยที่เราชอบมีเยอะนะคะ แต่เราจะชอบต่าย อรทัยเป็นพิเศษ ชอบเขาเพราะว่าเป็นสไตล์เขา เป็นสไตล์ที่เขาเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นเป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องแต่งตัวอะไรมาก และต่าย อรทัยเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนที่ไม่มีขึ้นไม่มีลง เขาจะเป็นคนที่แบบว่าเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นก็เลยชอบ ถือเป็นไอดอลของเราเลยก็ว่าได้อยากเป็นแบบนั้น

คนอื่นๆ ก็ชอบนะคะมีตั๊กแตน ชลดา จินตหรา พูนลาภ ศิริพร อำไพพงษ์ ของเอ็ม พัชราก็จะเอาเพลงเขามาร้องบ่อยๆ แต่เป็นคนร้องเพลงสตริงไม่เป็นสำเนียงไม่ให้ทำเพลงของเขาเสีย เวลาเราร้องเพลงสตริงแล้วมันออกสำเนียงลาว จะร้องเพลงลูกทุ่งมากกว่า

  • พอมาร้องเพลงในไทย มันแตกต่างจากประเทศลาวไหมคะ

เราจะไม่ได้ร้องเพลงลาวเลย ส่วนมากชีวิตจะอยู่ในเมืองไทยมากกว่า ตั้งแต่อายุ 14-15 ปี จนตอนนี้ครึ่งของชีวิตแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าทุกวันนี้มาเป็นพิธีกรของอีสานทีวีก็ต้องนำศิลปินลาวมาเปิดก็ต้องไปศึกษาเพลงลาว

ส่วนเรื่องของเพลง เราว่ามันไม่แตกต่างกันนะ มันจะต่างกันแค่สำเนียงนิดหน่อยอย่างเช่นเพลงสตริง ถ้าไม่ฟังดีๆ ก็จะไม่รู้ว่าของลาว ก็จะคิดว่าเป็นเพลงไทย มันมีความเหมือนกัน สำเนียงเหมือนกัน ส่วนวงการเพลงต่างกันไหมถ้าเห็นภาพเป็นพื้นบ้านก็จะเหมือนกัน มีสตริง มีลำเพลิน ลำเดิน ลำขอนแก่น ลำหวายมีเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกับไทยก็ตรงที่จะไม่โป๊จะเห็นหลายคอนเสิร์ตที่สามารถเข้าไปดูได้ใน YouTube ส่วนมากจะแต่งตัวไม่โป๊เพราะว่าวัฒนธรรมเข้มงวดมากในเรื่องการแต่งตัว

  • เข้ามาเป็นศิลปินในประเทศไทย มีใครสอนร้องเพลงบ้างไหมหรือไปเรียนที่ไหนอย่างไร มันง่ายไหมคะกว่าจะเดินทางมาประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้

อุปสรรคของการร้องเพลงจะอยู่ตรงที่เราไม่ได้เรียนมาในสายนี้ค่ะ มันก็จะยากกว่าคนอื่นด้วยความที่เราเป็นคนลาว อย่างการเข้ามาตรงนี้มันก็ยากหน่อยเพราะเราต้องมีใบอนุญาตเข้ามาในไทย ก็เหมือนคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศก็จะเป็นเหมือนกัน

แต่ก่อนที่ร้องเพลงใหม่ๆ มันจะยากในเรื่องความจำเรายิ่งเป็นคนความจำสั้น เราร้องเพลงไม่เพราะเหมือนคนอื่นก็ต้องฝึกหนักกว่าคนอื่นหลายเท่า เวลาเราเข้าห้องน้ำแล้วก็นั่งยืนร้องเพลงในห้องน้ำ คิดเพลงมาได้หรือรอให้เขาจัดรายการก็จะนั่งหลับตาร้องเพลงเล่นเรื่อยๆ ร้องเพราะเวลาขึ้นคอนเสิร์ตเราไม่ได้จำแค่เพลง 2 เพลง แต่เราต้องเตรียมตัวไว้เป็น 10 เพลง 20 เพลง ในการขึ้นคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง

ก็มีคนสอนภาษาไทยนะคะ เนื่องจากเพลงส่วนมากจะเป็นการศึกษาเอาจะพยายามศึกษาจากรุ่นพี่ บางทีก็ไปดูรุ่นพี่ร้อง หรือเวลาเราจะร้องเพลงช้าหรือเขา Cover มาให้เพื่อจะพยายามในสิ่งที่เขาเป็นแต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปทำเหมือนเขาหมด เราต้องเป็นตัวของตัวเอง บางครั้งเขาอาจจะทำลูกเอื้อนมา 5 ของเราอาจทำได้ 2-3 ลูกเอื้อน

ทุกวันนี้เราคิดว่าการที่เป็นตัวเรามันจะทำให้ดีที่สุด มันเป็นอุปสรรคสำหรับเราไหมเวลาฝึกฝนร้องเพลงมันก็จะเป็นทางด้านภาษา ก็จะเป็นความจำที่หนักกว่าคนไทยหลายเท่า ด้วยความที่เราเปิดตัวศิลปินของประเทศลาว (ยิ้ม)

  • ถามเรื่องการใช้ชีวิตบ้างว่าการเข้ามาอยู่ในไทยมันยากไหมคะ

สำหรับเราคิดว่าเหมือนเราอยู่บ้าน ในการใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยเราใช้ชีวิตแบบปกติ แต่ก็ไม่ปกติตรงที่เราต้องไปรายงานตัวทุก 3 เดือนก็เหมือนต่างชาติทั่วไปก็คือมีใบอนุญาตการทำงานทั่วไป ทุกๆ 3 เดือนต้องรายงานตัวว่าเราทำงานอยู่ประเทศไทยนะไม่ได้หนีไปไหน

การตัดสินใจในครั้งนี้มันก็เป็นเส้นทางเลยที่เราว่าคนคนหนึ่งถ้ามีโอกาสที่ผู้ใหญ่ยื่นให้แล้วผู้ใหญ่ท่านนั้นไว้ใจที่จะให้เราลองมันเป็นหนึ่งในล้านที่มีผู้หญิงลาวตัวเล็กๆ เรียนจบแค่ชั้น ป.6 ความรู้ไม่ได้เยอะแต่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ส่วนตัวเรานั้นจะทำได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราต้องเป็นคนทำเองถ้าได้ก็ได้เป็น แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้เป็น คือเราไม่ได้มีเส้นมีสายอะไร เราเป็นคนคนเดียวที่เดินเข้ามาอยู่ในกลุ่มของคนไทยมันก็เป็นอะไรที่ท้าทายเหมือนกัน เหมือนกับว่าตัวเองจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราคิดว่าตอนนี้เราเดินได้แค่สองก้าวอยู่เลย แต่ยังมีหลายก้าวที่ต้องเดินต่อไป ยังมีเป้าหมายรออยู่ข้างหน้าที่จะต้องเดินขึ้นไปอีก

  • แล้วคิดว่าเราประสบความสำเร็จกับตรงนี้แล้วหรือยังคะ

ถ้าถามเด็กบ้านนอกตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่หนีพ่อข้ามคลองมา ก็คงตอบได้ว่ามันอยู่ในจังหวะหนึ่งที่คิดว่าเราหายจากการเป็นคนที่กินเงินเดือนแล้ว อย่างตัวเราคิดว่าเราไม่อยากเป็นลูกน้อง อยากเป็นนายตัวเอง สามารถตัดสินใจในการที่จะเลือกอะไรก็ได้ สามารถดูแลตัวเองได้โดยที่ไม่เอาเปรียบคนอื่นเกินไป ไม่ได้ไปว่าใครแต่ทำด้วยใจเราคิดว่าก็คงอยู่ในระดับ 50 เปอร์เซ็นต์

ส่วนเรื่องผลงานเพลงเราคงคิดว่ามันยังไม่ประสบความสำเร็จมากนะ แต่ว่าก็ดีใจไม่คิดว่าจะมีเพลงของเราไปอยู่ใน YouTube หรือทางรายการจะมีคนที่เข้าไปกดไลค์กดแชร์ให้เป็นพัน ต่อให้คนอื่นเขามียอดวิวที่เยอะกว่าแต่เราได้แค่พันมันก็เป็นอะไรที่ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งต่อไปมีผลงานใหม่ออกมาก็หวังว่าจะมียอดเพิ่มมากขึ้นเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ก็ต้องฝากหลายๆ คนช่วยกด Like เป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ

  • คาดหวังอะไรกับการเป็นศิลปินในประเทศไทยบ้าง อยากจะไปไกลแค่ไหน

ก็มีความหวังเล็กน้อยและอยากให้มองว่าเราก็เหมือนกับว่าเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาเผยแพร่วัฒนธรรม เพราะด้วยความที่เราไม่ได้เสียงดีอะไรมากมายคิดว่าคนคงให้โอกาสกับศิลปิน แต่มันก็จะแปลกตรงที่เราเป็นศิลปินจากลาวก็ได้การตอบรับจากพี่น้องชาวไทยหลายคนที่ได้พบเจอเรา บางคนก็จะทักทายโดยการบอกว่าสาวลาวก็อยากสนับสนุน

เราคิดว่าคนไทยก็สามารถไปร้องเพลงในประเทศลาวได้ ไปอยู่ในประเทศลาวได้ เพราะในเมื่อคนลาวมาอยู่ในไทยได้ คนไทยก็สามารถไปอยู่ในลาวได้เช่นกัน มันก็เป็นอะไรที่เราคิดว่ามันสามารถช่วยกันสนับสนุน เป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียง

ความคาดหวังตอนนี้ก็มีบ้างเล็กน้อยนะคะ ตอนนี้มีแฟนคลับเป็นของรายการด้วย มีแฟนเพลงด้วย ส่วนมากจะเป็นจากรายการมากกว่า ส่วนผลงานเพลงจะมาทีหลังแล้วค่อยมาลง youtube ทุกคนก็เริ่มติดตามแต่ตอนนี้ก็อยู่ในระดับหนึ่งที่พอไปได้ค่ะ ตอนนี้ก็มีผลงานเพลง 2 เพลง เพลง มนต์เพลงสองฝั่งโขง และกระถินคืนถิ่น อนาคตก็จะมีเพลงใหม่มาให้ฟังด้วยค่ะ

  • ในฐานะที่เป็นนักร้องลูกทุ่ง คิดว่าเยาวชนไทยทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับลูกทุ่งมากขึ้นหรือเปล่าคะ

ก็ให้ความสำคัญอยู่นะเพราะว่าดูจากการที่เราไปเป็นพิธีกรที่มหา'ลัยราชภัฏสวนสุนันทาที่มีคนเชิญไปกับพิธีกรอีกคนหนึ่ง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน นักศึกษาในมหาวิทยาลัยก็สนใจที่จะแลกเปลี่ยน ทุกวันนี้มันก็เป็นอาเซียนแล้ว นักศึกษาเขาก็สนใจในความเป็นลาว ความเป็นอีสานพื้นบ้านแล้วก็ภาษาที่มีความแตกต่างมากน้อย ทั้งๆ ที่น้องบางคนก็เป็นคนใต้ บางคนเป็นคนเหนือ ไม่ใช่คนอีสานเลยนะ แต่ทุกคนก็มานั่งฟังเพื่อจะมาเรียนรู้ร่วมกัน วันนั้นก็ได้แสดงด้วยกันแล้วก็ได้ทำกิจกรรมฟ้อนและรำด้วยกัน

ทุกวันนี้เราคิดว่าเยาวชนไทย เยาวชนต่างๆ ให้ความสนใจเพลงลูกทุ่งเหมือนกันเวลาไปออกงานคอนเสิร์ตก็จะมีวัยรุ่นเข้ามาดูเยอะมาก ล่าสุดไปแสดงที่วัดสิงห์อยู่แถวมหาชัยมีคนมาดูวันนั้นประมาณ 3,000 กว่าคน แต่วันนั้นมีศิลปินหลายคนที่มาร่วมแสดงคอนเสิร์ตด้วยส่วนมากก็จะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันอายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป เด็กน้อยที่รักในเสียงเพลงรักในจังหวะเพลงลูกทุ่งหมอลำก็จะมาอยู่หน้าเวที

เราก็อยากจะฝากให้เยาวชนรักษาวัฒนธรรมกันนะคะ อย่างเพลงลูกทุ่งมันก็คือศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาวหรือประเทศไทยมันก็คือชาวพุทธเหมือนกันมันก็จะคล้ายๆ กัน ให้รักษาเสียงพิณ เสียงแคน เสียงลำ มันเป็นอะไรที่ดีแล้ว

จะเห็นว่าเขามีรายการที่เกิดขึ้นมาหลายรายการไม่ว่าจะเป็นรายการไมค์ทองคำ ไมค์ปลดหนี้ ก็จะมีเด็กน้อย 4-5 ขวบหรือมีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป มาประกวดแต่ผู้ใหญ่หลายๆ คนให้โอกาสให้คนมาร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำล้วนๆ อย่างคนทางประเทศลาวที่เข้ามาในประเทศไทยมาประกวดร้องเพลงไมค์ทองคำในประเทศไทยก็เยอะเหมือนกัน




เรื่อง : จิราภรณ์ คงทรัพย์
ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์

กำลังโหลดความคิดเห็น