ประชาชนใช้โอกาสในวันหยุดยาวเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง เสริมความเป็นสิริมงคลรับวันปีใหม่
วันนี้ (2 ม.ค.) บรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นั้น เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ในเวลา 04.50 น. ก่อนเปลี่ยนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน เวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี
วันนี้ถึงแม้จะเป็นวันที่ 82 ของการเสด็จสวรรคตของในหลวง รัชกาลที่ ๙ หากแต่ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนทั้งจากต่างจังหวัด และ กรุงเทพฯ ที่ใช้โอกาสวันหยุดยาวในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ พากันสวมใส่ชุดสีดำมากันเป็นหมู่คณะ และครอบครัว เพื่อมาสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นางวิไล ชินหทัยวัฒน์ เดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์ โดยนัดแนะกับเพื่อนที่พักใน กทม. มาร่วมสักการะพระบรมศพในวันแรกของปีที่ทางสำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ เผยว่า มีธุรกิจของตัวเองอยู่ที่เพชรบูรณ์ ช่วงปีใหม่เลยถือโอกาสเข้ามา กทม. เพราะคิดว่าสวนกับคน กทม. ที่เดินทางออกไปเที่ยวต่างจังหวัด
“วันนี้นัดแนะกับเพื่อนรวม 5 คน มากราบสักการะพระบรมศพตั้งแต่ตี 4 รู้สึกตื้นตันใจมาก ยิ่งเห็นมวลชนที่มาต่อแถวมากมายแล้วยิ่งรู้ชัดว่าคนไทยรักพระองค์ท่านมากขนาดไหน มาครั้งนี้รู้สึกดีใจมากจริงๆ แต่คิดว่าจะมาเพียงครั้งเดียว เพราะอยากเปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่เคยมาได้มีโอกาสดีๆ อย่างนี้บ้าง เพราะการตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่านไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางมากราบเท่านั้น หากแต่เป็นการนำคำสอนของพระองค์ท่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่า โดยส่วนตัวก็ได้นำความประหยัดและความพอเพียงมาใช้เช่นกันพร้อมทั้งถ่ายทอดให้คนรอบข้างด้วย” นางวิไล เผยด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
ด้าน นางปรียา ชงัดเวช วัย 64 ปี พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวรวม 6 คน กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นวันหยุดพิเศษที่ทุกคนในบ้านสามารถหยุดพร้อมกันได้ จึงตั้งใจชวนกันมากราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ เพื่อเป็นสิริมงคลรับวันปีใหม่ โดยเดินทางมาจากบ้านพักย่าน จ.ปทุมธานี ตั้งแต่ตี 4 ได้เข้ากราบสักการะตอน 9 โมงเช้า ซึ่งถือว่ารอไม่นานเลยเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
“มาในช่วงปีใหม่ถือว่าเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัวมาก ตอนขึ้นไปกราบพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศรู้สึกดีมากพร้อมอธิษฐานขอให้พระบารมีของพระองค์ท่านปกปักรักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ทั้งยังขอพรให้ตัวเองและครอบครัวขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ทั้งนี้ ตัวเองยังได้นำคำสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ด้วย เนื่องจากครอบครัวของเราเป็นครอบครัวใหญ่ จึงปลูกผักสวนครัวไว้กินเองในบริเวณบ้าน อาทิ พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด ฯลฯ ช่วยให้ประหยัดไปได้มาก ทั้งยังสอนลูกหลานในเรื่องการใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด สอนให้เป็นคนดีไม่เอาเปรียบใคร และต้องมีน้ำใจกับคนที่ด้อยโอกาสกว่าเราด้วย” หัวหน้าครอบครัวชงัดเวช เผย