xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” ถามหาเพื่อนรัก “สรยุทธ” ระบุอยากเป็นพิธีกร ลั่นกระชากเรตติ้งได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชูวิทย์ - สรยุทธ
ผู้ต้องขังในคดีรื้อบาร์เบียร์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ระบุ อยากจะไปออกข่าวคุยกับสรยุทธ แต่ไม่อยู่ พร้อมเปิดเผย อยากหางานสุจริตทำ เป็นพิธีกร หรือผู้ประกาศข่าว ลั่น กระชากเรตติ้งได้ เผยช่วยงานกรมราชทัณฑ์ เป็นเจ้าหน้าที่เก็บศพ ผ่านมาแล้ว 80 ศพ ไม่เว้นวันที่ได้รับการปล่อยตัว

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษ ผู้ต้องขังในคดีรื้อบาร์เบียร์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ได้กล่าวถึงคำถามที่ว่า หลังจากนี้จะกลับไปเล่นการเมืองอีกหรือไม่ โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า “นี่แหละครับ ประโยคที่ผมคิดไว้แล้ว สาธุนะฮะ ผมไม่อยากกลับไปติดคุกอีก วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่ผมคันปาก อยากจะไปออกข่าวคุยกับสรยุทธ (สุทัศนะจินดา) ซะหน่อย ... ยังอยู่หรือเปล่าเนี่ย" เมื่อนักข่าวกล่าวว่าไม่อยู่ จึงกล่าวว่า "ไม่อยู่แล้ว เอาคนอื่นก็ได้”

นายชูวิทย์ ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามว่า จะมีการวางแผนชีวิตอย่างไรว่า “พรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา จะไปงานรับปริญญาของลูกสาวพอดี แล้วก็อีก 5 วันผมจะกลับมา ผมไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว ก็จะหาอาชีพที่สุจริตทำ ก็จะไปสมัครงาน มีช่องไหนเขารับผม เอ้า ผมกระชากเรตติ้งได้นะ เผื่อไม่มีใคร ผมก็อยากจะไปเป็นพิธีกรจริงๆ เป็นผู้ประกาศข่าว ไม่แน่นะ ชีวิตผมดำเนินมาทุกอย่าง ทั้งธุรกิจสีเทา ทั้งอยู่ในสภา ผมอาจจะเขียนหนังสือสักเล่ม เล่าประสบการณ์ของผม ชีวิตที่พลิดกผันของผม เล่าถึงการอยู่ การใช้ชีวิตในเรือนจำ การเก็บศพซึ่งทุรนทุราย ศพต่างๆ เหล่านั้นที่ตายอยู่ในโรงพยาบาลนี้ (ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์) ตายโดยที่ไร้ญาติขาดมิตร ไร้เสรีภาพ ไร้อิสรภาพ ทุกศพผมเก็บลงมา ผมก็ประสานกับปอเต็กตึ๊ง กับร่วมกตัญญู ผมอยากให้เห็นว่าเมื่อผมติดคุกแล้ว ผมทำเต็มที่ ผมยอมรับสภาพของผม วันนี้กระบวนการยุติธรรมตอบแทนผม ให้โอกาสผมได้ออกมาอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ผมรักประเทศนี้ นี่เป็นสิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคนว่า ความยุติธรรมมีจริง”

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมา ผมยอมรับผิดหมดทุกอย่าง ช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำได้ช่วยงานกรมราชทัณฑ์ด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่เก็บศพภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รวมแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนถึงวันนี้เก็บศพมาแล้ว 80 ศพ และวันนี้ยังเก็บศพหญิงสาวที่ต้องโทษเป็นคนสุดท้ายด้วย ผมอยู่กับศพ กับน้ำเหลือง ใครคิดว่าผมใช้ความเป็นบิ๊กเนมใช้ความสุขในเรือนจำไม่จริง และขอยืนยันว่าเป็นนักโทษเต็มตัว ไม่ได้อยู่สบาย หรือเป็นผู้ต้องขังบิ๊กเนมอย่างที่มีใครกล่าวถึง ที่สำคัญ ผมรับโทษจริง ไม่ได้อ้างว่า บวชอยู่ ป่วยอยู่หรือ หนีคดีอะไร ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม” นายชูวิทย์ กล่าว



สำหรับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง ก่อนหน้านี้เคยเชิญนายชูวิทย์ มาเป็นแขกรับเชิญในประเด็นคดีรื้อบาร์เบียร์ มาตั้งแต่สมัยที่นายสรยุทธจัดรายการถึงลูกถึงคน ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ในปี 2547 กระทั่งได้ย้ายมาจัดรายการเจาะข่าวเด่น ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ก็ได้เชิญนายชูวิทย์มาออกรายการเรื่อยมา อาทิ กรณีที่นายชูวิทย์ไปชกต่อย นายวิศาล ดิลกวนิช พิธีกรข่าวช่อง 3 เมื่อปี 2551 เพราะไม่พอใจในการตอบคำถาม รวมไปถึง กรณีที่นายชูวิทย์ออกมาแฉบ่อนพนันใหญ่กลางกรุงฯ ประเด็นฟิตเนสกาม รวมไปถึงประเด็นทางการเมือง อย่างเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก

แต่เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2559 คล้อยหลังที่นายชูวิทย์ ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาไปไม่นานนัก นายสรยุทธประกาศยุติการทำหน้าที่พิธีกร หลังถูกกระแสสังคมและผู้คนในแวดวงวิชาชีพสื่อกดดัน กรณีที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน คดีที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ยักยอกเงินโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด แต่ยังพบว่านายสรยุทธยังคงอยู่เบื้องหลังรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยมีการหาพิธีกรใหม่มาแทน ซึ่งได้แก่ นายพิภู พุ่มแก้ว อดีตผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวไทย อสมท

อ่านประกอบ : ชูวิทย์ เฮ ราชทัณฑ์ปล่อยตัว เข้าเกณฑ์อภัยโทษ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.10(มีคลิป)
กำลังโหลดความคิดเห็น