MGR Online - ราชทัณฑ์ปล่อยตัว “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เผย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ยอมรับผิดทุกอย่าง หน้าที่ในเรือนจำเก็บศพกว่า 80 ราย ยันไม่ใช้อภิสิทธิ์พิเศษ เตือนผู้หลบหนีอย่าอ้าง บวช, ป่วย “หนีคดี คือ การไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม” สิ่งแรกอยากทำไปโรงแรม เดอะ เดวิส กรุงเทพ เพื่อว่ายน้ำก่อนไปอเมริการับปริญญาลูกสาว
วันนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ต้องขังคดีรื้อบาร์เบียร์ พร้อมผู้ต้องขังคนอื่นๆ รวม 45 ราย ได้รับการปล่อยตัวหลังเข้าเงื่อนไขได้รับพระราชทานอภัยโทษด้วยการปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2559 โดยมี นางสุรัชดา แววศรี ภรรยา น.ส.ดวงตระการ กมลวิศิษฎ์ ลูกสาวคนเล็ก วิ่งโผเข้ากอด นายชูวิทย์ ทันที หลังจากนั้น นายชูวิทย์ ได้เดินมากราบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร ที่อยู่บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนเดินมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวกว่า 10 ชั่วโมง
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องโทษทุกคนให้ได้กลับเนื้อกลับตัว จะพึงระลึกว่า อิสรภาพครั้งนี้เปรียบเสมือนชีวิตใหม่ และจะปฏิบัติตัวเป็นคนดี ขอให้สังคมได้ให้โอกาส
“ที่ผ่านมา ผมยอมรับผิดหมดทุกอย่าง ช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำได้ช่วยงานกรมราชทัณฑ์ด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่เก็บศพภายในทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ รวมแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงวันนี้เก็บศพมาแล้ว 80 ศพ และวันนี้ยังเก็บศพหญิงสาวที่ต้องโทษเป็นคนสุดท้ายด้วย ผมอยู่กับศพ กับน้ำเหลือง ใครคิดว่าผมใช้ความเป็นบิ๊กเนมใช้ความสุขในเรือนจำไม่จริง และขอยืนยันว่า เป็นนักโทษเต็มตัว ไม่ได้อยู่สบาย หรือเป็นผู้ต้องขังบิ๊กเนมอย่างที่มีใครกล่าวถึง ที่สำคัญ ผมรับโทษจริง ไม่ได้อ้างว่า บวชอยู่ ป่วยอยู่หรือ หนีคดีอะไร ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่จะทำหลังจากนี้ คือ จะเดินทางไปโรงแรม เดอะ เดวิส แบงค็อก ซอยสุขุมวิท 24 เพื่อว่ายน้ำเพราะเป็นกิจกรรมที่อยากจะทำมากที่สุดหลังออกจากเรือนจำ ส่วนจะกลับไปเล่นการเมืองหรือไม่นั้น คงไม่คิดจะกลับไปยุ่ง เพราะกลัวติดคุก แต่ที่อยากทำที่สุด คือ ไปเป็นพิธีกร หรือผู้ประกาศข่าว เพราะตนสามารถกระชากเรตติ้งได้ ส่วนพื้นที่บริเวณบาร์เบียร์นั้นยังไม่ขาย แต่ได้สิทธิกลับมาเป็นของตัวเอง ส่วนอนาคตยังไม่ทราบ
“อยากนั่งคุยกับ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา แต่ไม่รู้ว่าคุณสรยุทธยังอยู่ไหม อ้าวไม่อยู่แล้วเหรอ งั้นผู้ประกาศคนอื่นก็ได้ หรือไม่ก็ผมอาจจะเขียนชีวิตในเรือนจำสักเล่ม และหลังจากนี้ ตั้งใจว่า วันที่ 17 ธ.ค. นี้ จะบินไปสหรัฐอเมริกา ไปรับปริญญาลูกสาวคนโต และพักอยู่ที่นั่นประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้น จะกลับเมืองไทยและแถลงข่าวอยางเป็นทางการอีกครั้ง” นายชูวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จสิ้น นายชูวิทย์ ได้เดินทางไปโรงแรมเดอะ เดวิส กรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 24 เพื่อว่ายน้ำเพราะเป็นกิจกรรมที่อยากจะทำมากที่สุดหลังออกจากเรือนจำราย
งานข่าวแจ้งว่า นายชูวิทย์ พร้อมพวก ผู้ต้องหาคดีรื้อบาร์เบียร์ ย่านสุขุมวิท เมื่อปี 2546 ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา โดยส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 59 ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษด้วยการ “ลดโทษ” ตาม พ.ร.ฎ. พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2559 เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้รับการลดโทษ 1 ใน 4 ของโทษทั้งหมด เพราะเป็นนักโทษชั้นดี และล่าสุด เข้าเงื่อนไขได้รับการปล่อยตัวดังกล่าว