ประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 31
วันนี้ (28 พ.ย.) เป็นวันที่ 31 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ โดยในเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมาอย่างเนืองแน่น ด้วยเพราะหัวใจทุกดวงต่างเต็มไปด้วยความภักดี และหัวใจแห่งความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มเปี่ยมสุดหัวใจ
นายนที สุขประเสริฐ วัย 45 ปี เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร พร้อมกับญาติพี่น้องรวม 9 คน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เผยว่า มาต่อแถวรอตั้งแต่ตี 3 กว่าจะได้เข้าก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงแต่ไม่มีใครบ่นเพราะทุกคนมาด้วยใจ ทั้งยังเตรียมพร้อมเรื่องเครื่องแต่งกายมาเต็มที่จะได้ไม่ต้องไปเข้าแถวยืมเสื้อผ้าให้เสียเวลาอีก
“วันนี้ตั้งใจพาครอบครัวมากราบพระองค์ท่านเพื่อความเป็นสิริมงคลของครอบครัว พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านไปสู่สรวงสวรรค์ ส่วนตัวเองและครอบครัวจะขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป และจะน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต และจะสั่งสอนลูกหลานให้น้อมนำพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง” นายนที กล่าวด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นางก่าย พรหมเกตุ อายุ 59 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.ร้อยเอ็ด เดินทางพร้อมกับลูกหลานรวม 9 คน โดย นางก่าย กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า เป็นบุญวาสนาและบารมีต่อตนเองและครอบครัวมากที่ได้มากราบสักการะในหลวง แม้ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาจะไม่เคยได้รับเสด็จฯพระองค์ท่าน ครอบครัวได้เดินออกจากบ้านมาตั้งแต่ตี 2 และได้สักการะประมาณ 8 โมงกว่าๆ แม้ว่าจะต้องมายืนเข้าแถวแต่เช้าก็ไม่รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด เพราะว่าพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยจากการทรงงานเพื่อประชาชนมาตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี รู้สึกประทับใจในทุกๆ อย่างที่พระองค์ท่านทำให้กับประชาชนคนไทย ทั้งนี้ วันนี้ได้พาหลานๆ มาพร้อมกันด้วย ซึ่งเมื่อบอกหลานว่ายายจะมาไหว้พ่อหลวง หลานๆ ก็อยากจะเดินทางมา เพราะที่ผ่านมาได้บอกเล่าพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ในหลวงทรงทำให้กับประชาชน และได้สอนให้หลานยึดปฏิบัติตนตามแนวทางตามรอยในหลวง ทั้งพอเพียง ประหยัด มีความกตัญญู และเป็นคนดี
“ช่วงพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) วันที่ 1 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ครอบครัวมีแผนจะเลี้ยงอาหารให้กับเด็กๆ ที่โรงเรียนหลวงพ่อทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่หลานๆ เรียนอยู่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระองค์ท่าน แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ แต่ก็ทำด้วยใจจริง” นางก่าย กล่าว
ด้านสำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 22.10 น. จากกำหนดเดิมที่ต้องปิดในเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนมาเข้าคิวรอเข้ากราบพระบรมศพ ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 48,384 คน รวม 31 วัน มี 1,043,546 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,872,098 บาท รวม 31 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 79,459,776.50 บาท
