xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงชง ชิติ” ป่วยท้าวแสนปม รอ 11 ชม.ตื้นตันใจได้สักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ลุงชง ชิติ” วัย 60 ปี ป่วยโรคท้าวแสนปมเดินทางจากจังหวัดยะลา รอเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ระบุยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำรงชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ

วันนี้ (26 พ.ย.) นายชิติ เจริญรัตนประภา หรือ ลุงชง ชายวัย 60 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ป่วยโรคท้าวแสนปม เดินทางมาจาก อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ เฉกเช่นประชาชนทั่วไป โดยได้เดินทางมาถึงสนามหลวงตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ และพักค้างคืนอยู่ที่เต็นท์ในสนามหลวงจนถึงเวลา 04.00 น. เช้าวันนี้ อันเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่ให้เริ่มตั้งแถวรอเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ เบื่องหน้าพระบรมโกศ

กระทั่งเวลา 15.30 น. นายชิติ ชายสูงวัยผู้ป่วยโรคเท้าแสนปม ที่ตั้งปณิธานไว้ตลอดชีวิตว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตขอให้ได้มีโอกาสได้กราบสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ก็เป็นจริงขึ้นมา เมื่อตัวเองได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดีเป็นครั้งสุดท้าย

นายชิติ กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ ว่า วินาทีที่เท้าเหยียบถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกตื้นตันใจ การที่ประชาชนธรรมดาคนหนึ่งมีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตได้ขึ้นไปถวายสักการะพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เดินทางมาเหนื่อยไหม นายชิติ กล่าวว่า “ไม่เหนื่อยเลย ออกเดินทางจากเบตงวันที่ 25 พ.ย. ออกเดินทางเวลา 06.00 น. มาถึงปะรำพิธีตอน 04.00 น. วินาทีที่ได้ไปกราบบนหน้าพระบรมโกศรู้สึกขนลุก เพราะเป็นสถานที่ที่แทบไม่มีโอกาสจะได้ขึ้นไป ตอนกราบขอพระบารมีของพระองค์อยากจะได้รับความเมตตารับผมเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ แต่ก่อนเคยทำอาชีพขายหนังสือแถวท้องสนามหลวง ทำให้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จฯ ที่ถนนราชดำเนินในบ่อยครั้ง เวลาประทับบนรถยนต์พระที่นั่งไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ซึ่งทุกครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โบกพระหัตถ์ให้ทุกครั้งเป็นการบอกว่าพระองค์ไม่ถือพระองค์

“พระบรมราโชวาทสิ่งหนึ่งที่ยึดถือ และนำไปปฏิบัติได้ คือ ความพอเพียง ใช้อย่างประหยัดมัธยัสถ์ ตอนนี้ไม่มีอาชีพตอนนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากหน่วยงานราชการให้ความเมตตา โดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้ย้ายชื่อตนไปในทะเบียนราษฎร ความรักที่ตนมีให้ในหลวง ไม่ว่าประเทศไหนไม่มีกษัตริย์เหมือนประเทศเรา ในหลวงทำเพื่อลูกๆ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นถิ่นทุรกันดารก็บุกถึงที่เพื่อจะดูว่าที่นั่นขาดเหลืออะไร แล้วก็พระราชทานโครงการต่างๆ แก่ลูกๆ ของท่านนั้น ก็คือ พสกนิกร หลังจากที่ถวายสักการะเรียบร้อยแล้ว มีแผนจะไปทัศนศึกษาและเรียนรู้โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี” นายชิติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากการน้อมนำแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินในชีวิตประจำวันแล้ว ยังได้ติดตามพระราชกรณียกิจใดๆ บ้าง นายชิติ เผยว่า ติดตามจากข่าวพระราชสำนัก ผมเคยอ่านหนังสือที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ประพันธ์ถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙ แล้วประทับใจข้อความที่ว่า “ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงชอบให้ลูกๆ (ประชาชน) เข้าเฝ้าฯ บอกเล่าถึงความทุกข์ยากต่างๆ พระองค์ท่านก็จะมีพระราชดำริในโครงการต่างๆ ให้ลูกๆ ของท่านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น