xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรชาวไทย-นิสิตจุฬาลงกรณ์ ร่วมแสดงความอาลัยแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชาชนจากทั่วสารทิศ คณาจารย์พร้อมด้วยนิสิตและบุคลากร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลั่งไหลเดินทางมาลงนามแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ช่วงวันหยุดยาวกันอย่างเนืองแน่น

วันนี้ (23 ต.ค.) ที่ศาลาสหทัยสมาคม สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามในสมุดหลวง เพื่อลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่เวลา 08.04 น. มีประชาชนมาเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าวันนี้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่พสกนิกรไทยมีต่อในหลวง รัชกาลที่ ๙

นางยุพิน บุญบวร วัย 59 ปี ประชาชนคนแรกที่เข้ามาลงนามแสดงความอาลัยวันนี้ กล่าวว่า เดินทางมาจากบ้านย่านบางปู จ.สมุทรปราการ มาร่วมจุดเทียนพร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตั้งแต่เมื่อคืนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม หลังจากนั้น ก็มารอต่อแถวเข้าลงนามแสดงความอาลัย เช้านี้เลยได้เข้ามาเป็นคนแรก

“พระองค์ยังอยู่ในใจเราเสมอ พระองค์ท่านทรงมองมาที่ประชาชนของพระองค์ท่าน ทรงดูแลให้ทุกคนอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข และสามัคคีกัน โดยส่วนตัวป้ายังได้น้อมนำสิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาปฎิบัติในชีวิตประจำวันเสมอ โดยเฉพาะเรื่องความประหยัด ด้วยการปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง มีทั้งผักบุ้ง ตะไคร้ ข่า กะเพรา ฯลฯ อีกทั้งยังสอนลูก ๆ ให้รู้จักการใช้เงินอย่างประหยัด ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นด้วย” นางยุพิน กล่าว

ด้าน คุณลุงจำนงค์ พุทธโส วัย 73 ปี ที่นั่งรถเข็นเข้ามาเป็นคันแรก โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยอำนวยความสะดวก เผยว่า เดินทางมาจากบ้านย่านลาดพร้าว มาร่วมจุดเทียนและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วรอจนเช้าเพื่อเข้ามาลงนามแสดงความอาลัย

“ตอนขึ้นไปกราบพระองค์ท่านด้านบนศาลาสหทัยสมาคม ตอนนั้นปลาบปลื้มใจมากจนไม่ทันได้อธิษฐานอะไรถึงพระองค์ท่าน แต่ที่ผ่านมา ลุงได้นำคำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิตหลายข้อ ที่เห็นชัดก็คือ ความขยันหมั่นเพียร มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้แต่พอดี” คุณลุงจำนงค์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ต่อมาเมื่อเวลา 11.05 น. คณาจารย์ พร้อมด้วยนิสิต และบุคลากร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมาณ 3,000 คน นำโดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ รองอธิการบดีด้านการพัฒนานิสิตและนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันกล่าวบทอาเศียรวาทน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และกราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณสนามหญ้าหน้าด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม หลังจากมีการรวมตัวกันที่จุฬาฯ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. กระทั่งเวลา 8.30 น. ได้ร่วมกันกล่าวอาเศียรวาท และสักการะพระบรมรูป 2 รัชกาล แล้วจึงเดินทางมาถวายบังคม พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึงเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบกันมาทุกปี

รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ทางจุฬาฯ จึงได้มีการนัดแนะผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อมาสักการะพระบรมศพ ปรากฏว่า มีนักศึกษาพร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 3,000 คน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นองค์พระบรมราชูปถัมภกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้ามาทางประตูสวัสดิโสภา ผ่านประตูมณีนพรัตน์ มายังสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยฯ

หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม กิตติวัช พรมใจ อายุ 19 ปี นิสิตจากคณะรัฐศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนคนไทย พร้อมตั้งจิตอธิษฐานบอกพระองค์ ว่า จะตั้งใจเรียนและจะเป็นคนดีของสังคม ทั้งยังจะน้อมนำคำสั่งสอนของพระองค์ท่านมาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากตัวเองเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ได้รับทุนจากโครงการจุฬาฯ - ชนบท จึงพยามยามใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่รบกวนเงินพ่อแม่ทางบ้าน

ด้าน น.ส.ชุติกาญจน์ เอกวิสิฐ อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตั้งแต่ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สวรรคตก็รู้สึกเสียใจมาก แต่ยังไม่มีโอกาสเดินทางมาสักการะพระบรมศพและแสดงความอาลัยถวายพระองค์ท่าน จึงอยากมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันเป็นสถานศึกษาที่ในหลวงทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภก นอกจากนี้ ยังประทับใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมากที่ท่านทรงงานอย่างหนักเพื่อคนไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ ทำให้เด็กรุ่นใหม่อย่างตัวเองศึกษาองค์ความรู้จากพระองค์ได้ไม่ยาก เพราะไม่ว่าไปที่ไหนก็ตามจะมีเรื่องราวและพระราชกรณียกิจของพ่อหลวงให้เห็น หลังจากนี้ จะพยานามดำรงตนเป็นคนดีและทำตามคำสอนต่าง ๆ ที่ทรงสอนไว้


























กำลังโหลดความคิดเห็น