มีการตั้งข้อสังเกตหลังบริษัท ราชบุรี เอทานอลฯ ทำหนังสือชี้แจงน้ำกากส่าสุดท้ายไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลอง ก่อนที่ในอีก 2 วันถัดมา จะเกิดปลากระเบนตายหมู่ไม่ทราบสาเหตุ ชี้ หากทางราชการรู้ข่าวยังพอหาทางป้องกันได้ แต่กลับประเมินต่ำเหมือนปกป้องโรงงาน อีกด้านหนึ่ง พบผู้บริหารโรงงานไปสัมภาษณ์ทีวี อ้างว่าน้ำที่ปล่อยออกมา ไม่ใช่น้ำเสีย แต่เป็นธาตุอาหาร น้ำสีดำ เพราะสาหร่าย
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยหนังสือของ นายภราดร จินดาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราชบุรี เอทานอล จำกัด เลขที่ 9 หมู่ 6 ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถึงประธานกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง (ผ่านสำนักงานเลขานุการ) ลงวันที่ 4 ต.ค. ชี้แจงกรณีน้ำกากส่าสุดท้ายที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงงานราชบุรีเอทานอลรั่วไหลลงลำน้ำ ระบุว่า เนื่องจากในวันที่ 30 กันยายน 2559 เวลา 8.50 น. ได้มีน้ำกากส่าสุดท้ายที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงงานราชบุรีเอทานอล รั่วผ่านทางรางระบายน้ำฝนลงแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งทางโรงงานได้ดำเนินการแก้ไขเร่งด่วนด้วยการใช้ดินบดอัดอุดการรั่วซึมของบ่อกักเก็บ และใช้กระสอบทรายปิดกั้นท่อระบายน้ำฝน พร้อมทั้งเร่งสูบน้ำที่ค้างท่อใส่รถกลับไปที่บ่อกักเก็บ
สำหรับมาตรการในเชิงป้องกันเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ ทางโรงงานฯได้เร่งดำเนินการให้มีการปรับปรุงประตูระบายน้ำเปิด-ปิด ได้แบบถาวร ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ตุลาคม 2559 โดยระหว่างการปรับปรุงก่อสร้างได้จัดเจ้าหน้าที่คอยระวังป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำไหลออกนอกพื้นที่
ทางโรงงานฯ ขอเรียนชี้แจงว่า มิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และมีความสำนึกรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งต้องขออภัยทางชุมชนในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะดำเนินการแก้ไขต่าง ๆ จะทำอย่างเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง และจะเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบประจำวันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกต่อไป
ด้านเฟซบุ๊ก “คนอนุรักษ์” โพสต์ข้อความลำดับเหตุการณ์ ปลากระเบนราหูตายเป็นจำนวนมาก แม่น้ำแม่กลอง ระบุว่า 30 ก.ย. เหตุเกิดที่โรงงานราชบุรี เอทานอล จำกัด น้ำเสียรั่วลงแม่น้ำแม่กลอง สอดคล้องกับที่ปรากฏเป็นคลิปน้ำเสียจำนวนมากไหลลงแม่กลอง, 4 ต.ค. โรงงานทำหนังสือถึงหน่วยราชการ, 5 ต.ค. เริ่มมีการพบปลากระเบนราหูตายเป็นจำนวนมากกว่า 25 ตัว มีทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือปลากระเบนร่วมกับเครือข่ายชาวบ้านลุ่มน้ำแม่กลอง, 7 ต.ค. สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ได้รับหนังสือจากโรงงาน / พบปลากระเบนตายเพิ่มขึ้นเป็น 30 กว่าตัว / กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบน้ำ 3 จุด ไม่พบสิ่งผิดปกติ
8 ต.ค. นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปสอบถามข้อเท็จจริง จากบริษัท ราชบุรี เอทานอล จำกัด ได้รับคำชี้แจงว่า น้ำที่ไหลลงแม่น้ำแม่กลอง เกิดจากบ่อกักเก็บน้ำของโรงงานรั่วซึม แต่เร่งซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพปกติแล้ว ยืนยัน น้ำที่รั่วไหลไป มีการบำบัด ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม / นายสวง สุดประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ตรวจสอบกรณีน้ำในบ่อกักเก็บของโรงงานดังกล่าว ล้นไหลออกนอกบ่อ ซึ่งโรงงานแก้ไขแล้ว และปริมาณน้ำที่ออกมา ก็ไม่ทำให้แม่น้ำแม่กลองเน่าเสียได้ทั้งสาย
10 ต.ค. มีการประชุมหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มีการตรวจสอบคุณน้ำอีกครั้ง พบว่า มีค่าต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการตายของกระเบนราหู, 11 ต.ค. พบปลากระเบนตายเพิ่มขึ้นเป็น 45 ตัว แต่คาดว่าเป็นเพียง 1 ใน 3 ของกระเบนราหูที่ตาย ท่ามกลางความสงสัยอย่างมากว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และ 12 ต.ค. สื่อมวลชนเปิดเผยจดหมายฉบับนี้
“มีคำถามว่า หากโรงงานผู้ปล่อยน้ำเสียดำเนินการแจ้งเรื่องนี้อย่างรวดเร็วกว่านี้ ไม่ใช่ใช้เวลา 5 วันออกหนังสือ และอีก 2 วันจดหมายถึงเดินทางไปถึงหน่วนราชการ เราอาจบรรเทา หรือป้องกันความเสียหายได้หรือไม่ หากหน่วยราชการดำเนินการเมื่อรับทราบเหตุการณ์ อย่างจริงจังแทนที่จะประเมิน “ต่ำ” เหมือนปกป้องโรงงาน เราก็อาจช่วยเหลือกระเบนราหูได้ดีกว่านี้หรือไม่” เฟซบุ๊ก “คนอนุรักษ์” ระบุ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายภราดร ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ชี้แจงว่า น้ำที่เห็นในคลิปภาพ ไม่ใช่น้ำเสีย ไม่มีสารเคมีเป็นพิษ แต่เป็นน้ำที่ถูกเก็บในบ่อดิน ฝนตกหนักทำให้บ่อรั่วซึม น้ำไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ สีไม่ดำเหมือนในคลิปวีดีโอ เชื่อว่า เกิดจากเงาของสาหร่าย ทำให้เห็นเป็นสีดำ ส่วนการเชื่อมโยงการตายของปลากระเบนที่ จ.สมุทรสงครามนั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะระยะทางจากโรงงานไปถึงบริเวณที่จุดปลากระเบนตายประมาณ 40 กิโลเมตร
“เรารู้ว่า มีน้ำเราก็เช็กเลยว่าน้ำเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ซึ่งหลังจากเช็กก็คงเป็นธาตุอาหารเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ในกระบวนการผลิตก็ไม่ได้มีใส่สารเคมีที่เป็นพิษเข้าไปเลย มันก็เลยมีความปลอดภัย ในเชิงของว่า น้ำเป็นพิษก็จะไม่ใช่ แต่ว่าน้ำจะมีธาตุอาหาร อันนี้ถือว่าใช่ แต่ว่าถ้าไปอยู่ในพืชก็โอเค พอไปอยู่ในน้ำอาจจะทำให้เกิดประเด็นอื่นขึ้นมาได้” นายภราดร กล่าว
ด้านเฟซบุ๊ก “ศิษย์ มัฆวาน” ได้ตั้งข้อสังเกตในเฟซบุ๊กกลุ่ม “รักษ์บ้านโป่ง” ระบุว่า “อยากแฉ ... พฤติกรรมและความจริงใจโรงงานอยู่ตรงไหน?
1. วันศุกร์ที่ 30 ก.ย. 59 เวลาประมาณ 08.30 น. เกิดเหตุการณ์น้ำเสียปล่อยลงแม่น้ำแม่กลอง
2. วันอังคารที่ 4 ต.ค. 59 โรงงานออกหนังสือชี้แจงไปถึงประธานกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง ในวรรคท้ายระบุ "มีความสำนึกรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งต้องขออภัยทางชุมชนในเหตุการณ์ดังกล่าวฯ”
3. วันศุกร์ที่ 7 ต.ค. 59 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนช่องไทยพีบีเอส ในรายการ ที่นี่ไทยพีบีเอส กลับให้สัมภาษณ์มีประเด็นดังนี้
3.1 น้ำที่ไหลออกมามีสีดำ เกิดจากเงาสาหร่าย
3.2 น้ำที่ไหลออกมาพบว่า เป็นธาตุอาหารเสียเป็นส่วนใหญ่.................................. แต่ว่าน้ำจะมีธาตุอาหาร
4. หนังสือชี้แจงวรรคสองระบุว่าเป็นทางระบายน้ำฝนของโรงงาน แต่ในความเป็นจริงพื้นที่ที่น้ำเสียไหลออกมาก่อนที่จะลงแม่น้ำคือคลองสาธารณะ ชื่อว่า “คลองแฉลบ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมฯ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ส่งอาสาสมัครพิทักษ์ลุ่มน้ำแม่กลองตอนกลาง ออกสำรวจลำน้ำพบโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำแม่กลองแล้ว
อ่านประกอบ : แม่กลองร้องไห้! “สุสานปลากระเบน” โลกโซเชียลโยง “โรงงานราชบุรี” ต้นเหตุ