“ประยุทธ์” ขอประชาชนช่วยกันถวายพระพร “ในหลวง” ทรงแข็งแรง ลั่นไทยต้องอยู่กับสถาบันกษัตริย์ สั่งหาสาเหตุปลากระเบนแม่กลองตาย ย้ำต้องรักษาคุณภาพน้ำ เผย ครม.อนุมัติหลักการขึ้นเงินเดือนกำนัน-ผญบ. สั่งทบทวนให้มาตรฐานเดียวกับหน่วยงานอื่น พร้อมไฟเขียวเงินเยียวยาเกษตรในพื้นที่รับน้ำละ 3,000 บ.ต่อครัวเรือน เตรียมพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำ แจงต้องปลูกเป็นตอนๆ ลงมา
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 13.40 น. ที่ทำเนียบรับบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ว โดยวันนี้มีภาคประชาชนหลายคณะได้ร่วมกันสวดมนต์เพื่อให้พระองค์ทรงแข็งแรง อย่างไรประเทศไทยก็ต้องอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ได้นำคณะรัฐมนตรีเดินทางไปลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีปลากระเบนราหูในแม่น้ำแม่กลองทยอยตายเป็นจำนวนมาก ว่า ได้สั่งการให้มีการติดตามหาสาเหตุของการตายปลากระเบนแล้ว บางคนก็บอกว่าสาเหตุเกิดจากน้ำเน่าเสียจากโรงงาน จึงสั่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดตรวจสอบเนื่องจากปลากระเบนเป็นสัตว์ที่ควรจะสงวนไว้ และเป็นการแสดงถึงความสมบูรณ์ของท้องน้ำ ทั้งประมงน้ำเค็มและน้ำจืด วันนี้ได้ให้ไปดูหมด รวมทั้งที่มีการทำประมงในกระชังแล้วปลาลอยตายด้วยต้องไปดูแล นี่คือระบบที่มีปัญหาเรื่องมาตรฐาน การตรวจสอบ การรักษาคุณภาพที่มีมาตลอด เพราะทุกคนมุ่งหวังแต่เพียงว่าให้มีเงินให้มากที่สุด ถ้ารัฐบาลนี้ทำแบบนั้นก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่ผ่านมา แล้วมันจะเกิดอะไรที่ดีขึ้นกว่าอดีต
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการขึ้นเงินเดือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และให้กลับไปทบทวนอีกครั้ง เพราะต้องดูรายละเอียดต่างๆ ว่าจะขึ้นเป็นเงินเดือนหรือเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันกับส่วนงานอื่นๆ ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณี ครม.มีมติให้ชดเชยความเสียหายให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่น้ำท่วม 3,000 บาทต่อครัวเรือน ว่ามีการอนุมัติแล้ว 3,000 บาทต่อครัวเรือน ที่เดิมให้เพียงไร่ละ 1,000 บาท เมื่อถามย้ำว่าในกรณีพื้นที่ที่เสียสละเป็นพื้นที่น้ำท่วมจะมีการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ทุกอย่างทั้งเรื่องของการช่วยเหลือ ชดเชยเยียวยา ต้องขอร้องประชาชนให้เข้าใจ ถ้าวันนี้เราให้คนนี้ไม่ให้คนนั้นก็เป็นปัญหาแล้วเมื่อไหร่จะพอเพียงและชดเชยได้ทุกพื้นที่ วันนี้ตนเห็นใจเพราะในส่วนของไร่ก็มีอยู่แล้วคือไม่เกิน 15 ไร่
เมื่อถามว่าในระยะยาวเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำจะขอปรับปฏิทินการเพาะปลูกโดยเริ่มจากเดือนเมษายนรัฐบาลจะปรับให้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใครขอ รัฐบาลเป็นคนขอไม่ใช่เกษตรเป็นคนขอ รัฐบาลขอไปว่าจะปลูกเมื่อไหร่ อย่างไร ซึ่งจะต้องปลูกเป็นตอนๆ ลงมา น้ำไหลมาจากตรงไหน ไม่ใช่ทุกพื้นที่จะปลูกเวลาเดียวกัน แต่ต้องปลูกเป็นรอบไปและต้องใช้เครื่องจักรเครื่องมืออีก เราต้องไปดูตรงนั้น ที่เกษตรกรปลูกพร้อมกันเพราะน้ำมา ทุกคนก็อยากมีน้ำเยอะๆ ในพื้นที่ตัวเองก็เก็บกักน้ำเอาไว้ ที่เหลือก็ไม่เพียงพอ ถ้าปลูกพร้อมกันปัญหาคือต้องใช้เครื่องจักรเครื่องมือพร้อมกัน เนื่องจากต้องเก็บเกี่ยวพร้อมกัน อาจไม่เพียงพอ
“ผมบอกแล้วว่าอย่าคิดแคบๆ แค่ตรงน้ำท่วม ไปดูแผนผังที่เขาเอามาชี้แจง อยู่นอกพนังกั้นน้ำทั้งสิ้น พร้อมที่จะมีปัญหาเรื่องน้ำล้นทางฝั่งแม่น้ำทั้งสิ้น แต่ก่อนก็อยู่กับน้ำมาตลอด ฤดูไหนน้ำท่วมน้ำแล้งก็ปรับตัวได้ พอรัฐบาลเข้าไปดูแลก็ต้องดูแลด้วยเหตุผล ที่ลุ่มต่ำหรือนอกเขตพนังกั้นน้ำก็ต้องท่วม ถ้าเสียสละก็คือการเสียสละ ผมก็ขอขอบคุณและชมเชยในหลายพื้นที่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รัฐบาลก็หามาตรการช่วยเหลือกันไป แต่ถามว่าถ้าไม่ทำท่วมทั้งหมดจะทำอย่างไร ใครจะมาแก้ปัญหาให้ผม ในเมื่อน้ำลงมาจากข้างบน น้ำข้างๆ ก็เต็มไปหมด ถ้าไม่ลงทะเลจะให้น้ำไปลงที่ไหนเราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ ไม่อย่างนั้นจะมาหาว่ารัฐบาล แล้วมาเอาไร่ละ 10,000-20,000 บาท เราจะเอาเงินที่ไหนมาให้ เราต้องสอนให้คนเรียนรู้แบบนี้ว่าระบบน้ำ ระบบการเพาะปลูก เก็บเกี่ยวและเทคโนโลยี และตลาดข้าวเป็นอย่างไร” นายกฯ กล่าว