กระแส “แอร์กราบ” มนุษย์ป้าบังคับลูกเรือกราบเท้า ไม่มีคำตอบจากซีอีโอแอร์เอเชีย ระบุแค่ว่า “ลูกเรือไม่ได้ผิด” พร้อมให้ความช่วยเหลือ ไม่มีท่าทีต่อมนุษย์ป้า และทีมงานอีก 3 คน ที่สั่งให้กราบ ด้านสังคมแคลงใจ จบแล้วเหรอ พร้อมเรียกร้องความยุติธรรม บางส่วนบอยคอตเลิกบิน
จากกรณีที่ นางจำปูน (ขอสงวนนามสกุล) ผู้โดยสารสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3006 เส้นทางภูเก็ต - ดอนเมือง ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับบุตรสาว ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ (ออทิสติก) แสดงความไม่พอใจ น.ส.อวัสรา (ขอสงวนนามสกุล) หัวหน้าพนักงานต้อนรับ (แอร์โฮสเตส) เพียงเพราะสอบถามผู้โดยสารที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ กระทั่งได้เข้าไปร้องเรียนถึงสำนักงาน ก่อนที่บุคคลในตำแหน่ง Station Head, Manager Crew และ Manager Ground จะบังคับให้หัวหน้าพนักงานต้อนรับกราบเท้าเด็กพิเศษ 3 ครั้ง แล้วถ่ายรูปลงโซเชียล ส่งผลสะเทือนถึงจิตใจจนต้องลางาน 1 เดือน เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยในโลกโซเชียล ทำให้ต่างประณามถึงการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้บริหารแสดงความรับผิดชอบ
ล่าสุด นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @tonyfernandes ระบุว่า “Thai staff all had good intentions.Our crew did nothing wrong and we stand by her and she gets my full support. We need to improve and learn” (ทีมงานชาวไทยทุกคนมีความตั้งใจดี ลูกเรือของเราไม่ได้ทำอะไรผิด และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือลูกเรือเต็มที่ เราต้องการที่จะปรับปรุงและเรียนรู้)
Thai staff all had good intentions.Our crew did nothing wrong and we stand by her and she gets my full support. We need to improve and learn
— Tony Fernandes (@tonyfernandes) September 8, 2016
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นสังคมยังคลางแคลงใจ เนื่องจากไม่มีการระบุถึงบทลงโทษทั้งต่อผู้โดยสาร และต่อเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่สั่งให้หัวหน้าพนักงานต้อนรับกราบ ทำให้ในโลกโซเชียลต่างเรียกร้องให้ผู้บริหารแสดงความชัดเจน และเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์ให้กับแอร์โฮสเตส บางส่วนเริ่มบอยคอตทางสายการบินด้วยการประกาศว่า จะไม่อุดหนุนอีกต่อไปแล้ว
ด้านแฟนเพจวิจารณ์หนัง “อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก” ได้โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ขอเป็น 1 เสียงเรียกร้องสิทธิของความเป็นมนุษย์ให้กับแอร์โฮสเตส” ระบุว่า “มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรี มนุษย์ทุกคนมีพ่อมีแม่ พ่อแม่ทุกคนก็มีลูก พนักงานบริษัทก็มีเจ้านาย ลูกเรือไทยแอร์เอเชียเองก็ควรจะมีต้นสังกัดที่เป็นที่พึ่งพิงกับเค้าได้ ในกรณีที่แอร์สายการบินนี้ปฏิบัติตามหน้าที่ แต่โดนผู้โดยสารพยายามจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดด้วยการก้มลงกราบ สิ่งที่ผมได้เห็นในข่าว คือ ผู้บริหารเลือกที่จะบังคับให้แอร์ก้มลงกราบผู้โดยสาร โดยแลกกับการไม่ถูกไล่ออก ผมเองก็ไม่ทราบว่า เหตุใดผู้บริหารถึงไม่มองว่าลูกเรือก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีแล้ว และการบังคับให้ก้มลงกราบนอกจากมันจะไม่ได้ช่วยให้เรื่องที่เกิดมันดีขึ้นแล้ว เรายังได้เห็นถึงวุฒิภาวะของผู้บริหารด้วยว่า พวกท่านเลือกที่จะตัดปัญหาด้วยการทำอะไรส่ง ๆ สักแค่ให้ผู้โดยสารพอใจ โดยไม่ได้มาจากความจริงใจ และในเวลาเดียวกัน ในแง่ของความเป็นหัวหน้าคน คุณไม่สามารถปกป้องลูกน้องหรือพนักงานได้เลย วุฒิภาวะ วิจารณญาณแบบนี้ อย่าว่าแต่จะมาเป็นผู้บริหารสายการบินใหญ่ ๆ เลย ผมว่าคุณยังเป็นพ่อคนแม่คนไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร
.
ผู้โดยสารคือผู้มารับบริการ แต่ไม่ใช่เจ้าชีวิตเหนือหัวใคร ไม่ใช่จะจิกหัวใคร ทำอะไรก็ได้ สิ่งที่สายการบินควรจะทำ ก็คือ ควรจะส่งรายชื่อผู้โดยสารแม่ลูกไปให้สายการบินอื่น ๆ ทั่วโลก แจ้งว่า เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมอันตราย ก่อนขึ้นบินควรได้รับเอกสารรับรองจากแพทย์ก่อนว่าเป็นผู้มีสภาพจิตปกติ ถึงจะให้ขึ้นโดยสารได้ หรือไม่อย่างนั้น หากใครทราบหน่วยงานต้นสังกัดผู้โดยสารคนนี้ก็ควรจะส่งหนังสือรายงานพฤติกรรมบนเครื่องบิน และพฤติกรรมในการใช้โซเชียล ที่ดูหมิ่นลูกเรือ ดูหมื่นการศึกษา และถิ่นกำเนิดของลูกเรือของคุณ
.
ผู้บริหารเองไม่ใช่สักแต่จะต้องเอาอกเอาใจเลียแข้งเลียขาลูกค้า แต่ในอีกฝั่งหนึ่งคือลูกเรือ คือ คนที่เค้าร่วมทุกข์ร่วมสุข ปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง เพื่อบริการที่ดี เพื่อให้พวกผู้บริหารห่วย ๆ มันชูคอลอยหน้าลอยตารับเงินเดือนสูง ๆ แล้วมาบังคับขืนใจให้กราบผู้โดยสารโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แบบนี้มันไม่ควรจะเป็นผู้บริหารต่อไป ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือต้นสังกัดเองก็ควรมีมารตรการจัดการผู้บริหารคนนี้ด้วยครับ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ในเว็บไซต์พันทิป ได้มีการตั้งกระทู้ในหัวข้อ “เรื่องแอร์กราบ ไม่กระจ่าง!!! และสังคมไม่จบด้วยนะครับ สื่อได้ผลประโยชน์ไปเท่าไรหรอ ถึงพาดหัวชี้นำสังคมว่า จบแล้ว” ระบุว่า “จากถ้อยแถลงของผู้นำองค์กร ที่บอกว่า เป็นการขออภัยตามปกติ ไม่ทราบว่าการกราบคือวัฒนธรรมทาสที่ใช้เป็นปกติในองค์กรหางแดงหรอครับ คุณไม่ทราบหรอครับ ว่าประเทศไทยเลิกทาสแล้ว
แล้วอีกอย่างสิ่งที่ผู้จัดการคนนั้นทำ เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาเลยนะครับ มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(ในส่วนนี้อยากให้ผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายออกมาให้ความเห็นเพื่อเป็นแนวทางให้สังคมด้วยครับ)
ตั้งแต่วันที่ระดับ CEO ทราบเรื่องจนมาถึงวันนี้ กินเวลาแล้วมากกว่า 24 ชม. แต่ถ้อยแถลงของคุณกลับไม่มีความชัดเจนซักอย่างเดียว สรุปแล้ว บทลงโทษของผู้จัดการคนนั้นคืออะไร แล้วพนักงานแอร์ที่ได้รับความเสียหายนั้นได้รับการเยี่ยวยาจิตใจอย่างไร องค์กรคุณไม่มี policy ไว้รองรับเรื่องแบบนี้เลยหรอครับ
ที่จริงถ้าป้าคนนั้นไม่ออกมาโพสต์ถึงเรื่องการให้กราบด้วยตัวเอง ผมว่าถ้อยแถลงวันนี้คงกลับคำว่าไม่มีการกราบเกิดขึ้นด้วยแน่ ๆ แต่นี้หลักฐานมันออกมาจากทางป้าคนนั้นชัดเจนว่ามีการกราบเกิดขึ้น เลยพยายามแถไปว่าไม่ได้กราบ 3 ครั้ง เป็นแค่การกราบเพื่อขออภัยตามปกติ ??? โดยส่วนตัวไม่คิดว่าท่าทีขององค์กรจะออกมาในลักษณะที่ทุเรศแบบนี้ องค์กรคุณในสายตาผมตอนนี้ คือ องค์กรที่ไม่มีมาตรฐาน และวิสัยทัศน์ต่ำ น่ารังเกียจ
ตอนนี้ผมว่าหลายคนในสังคมน่าจะมีคำตอบให้กับตัวเองแล้วว่าองค์กรนี้น่าเชื่อถือระดับไหน และควรไว้ใจใช้บริการหรือไม่
ส่วนป้าคนนั้น ผมบอกเลยว่าคุณไม่ได้สูงส่งอะไร การกระทำของคุณเหมือนพวกคางคกขึ้นวอมากกว่า คุณคิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกัน ในประเทศนี้นอกจากสถาบันทั้ง 3 ที่คนส่วนใหญ่ในชาติยกย่องว่าเป็นสิ่งควรกราบและเคารพ สิ่งอื่นหรือคนอื่นนอกเหนือจากนั้น ไม่มีสิทธิครับ ต่อให้เป็นคนใหญ่โตระดับนายกก็ไม่มีสิทธิ ดังนั้น ในส่วนนี้ ผมมองว่าคุณเป็นพวกไม่เจียมตัว และมีภาวะจิตที่บกพร่อง ไม่ควรใช้บริการสาธารณะร่วมกับคนปกติในสังคม”