น่าน - อุทาหรณ์สลด ชาวทุ่งหัวช้าง เมืองน่าน จับคางคกไข่ตัวเขื่องชำแหละถลกหนังปิ้งแกล้มเหล้า ไม่ถึงชั่วโมงแน่นท้อง อาเจียน หายใจลำบาก และหมดสติ ดับ 2 ต้องหามส่ง รพ.อีก 3 ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย แค่กินไก่ที่นำมาปิ้งบนตะแกรงเดียวกันเท่านั้น
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสลดขึ้นหลังชาวบ้านในตำบลและ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน จับคางคกถลกหนังปิ้งเปิบร่วมกับเหล้า ไม่ถึงชั่วโมงเกิดอาการแน่นท้อง อาเจียน หายใจลำบาก และหมดสติถึง 5 ราย เป็นผู้สูงอายุชายอายุ 70 ปี 2 ราย, อายุ 45 ปี 1 ราย และเด็กอายุ 4-5 ขวบ 2 ราย โดยผู้สูงอายุที่ร่วมวง 2 รายได้เสียชีวิตทั้งคู่
ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน ได้เร่งเข้าเก็บตัวอย่างคางคกปิ้งที่บ้านของมือชำแหละคางคก ผู้สูงอายุวัย 70 ปี ที่หมู่บ้านประดู่ ต.และ อ.ทุ่งช้าง ที่กินเนื้อคางคกและไข่คางคกปิ้งแล้วเกิดอาการมึนศีรษะ จุกแน่นท้อง อาเจียน ถ่ายเหลว หายใจลำบาก หมดสติและเสียชีวิตทันที เพื่อนำไปตรวจสอบพิษต่อไป
นางยอด เสียงกอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประดู่ ต.และ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เล่าว่า ระหว่างที่มีฝนตกอยู่นั้น ผู้สูงอายุคนดังกล่าวได้จับคางคกตัวใหญ่ที่มีไข่มาได้ 1 ตัว และมาลองทำเมนูคางคกปิ้งเป็นกับแกล้มรับประทานร่วมกับสุรา โดยชักชวนเพื่อนบ้านวัยเดียวกันและเพื่อนบ้านเป็นชายอายุ 45 ปี มาร่วมวงรับประทานเมนูพิสดารด้วยอีกราย แต่หลังจากร่วมวงเปิบกันไม่ถึงชั่วโมง ผู้สูงอายุมือชำแหละคางคกก็มีอาการแน่นท้อง อาเจียน หายใจลำบาก หมดสติและเสียชีวิตทันทีที่บ้านพัก ขณะที่ผู้สูงอายุอีกรายมีอาการรุนแรงเช่นเดียวกัน ญาติเร่งนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนชายวัย 45 ปีอีกราย ญาติรีบให้พบแพทย์หลังทราบว่าได้ร่วมวงรับประทานเมนูคางคกด้วย และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องตลอดทั้งคืน แพทย์สอบสวนทราบว่าได้กินเนื้อคางคกปิ้งที่เหลืออยู่ในจานครึ่งตัว และมีไข่คางคกอยู่ในท้อง ซึ่งได้ดึงเนื้อส่วนข้างตัวคางคกไปชิม และไข่คางค อีกเพียงปลายนิ้วก้อย ดื่มสุรา 1 แก้วเท่านั้น
ขณะที่หลานชาย-หญิงของผู้สูงอายุมือชำแหละคางคก วัย 6-7 ขวบ ที่นำเนื้อไก่ไปปิ้งบนตะแกรงที่ใช้ปิ้งคางคกมารับประทานกับข้าวเหนียวก็เกิดมีอาการในลักษณะเดียวกัน ญาติได้ช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลทุ่งช้าง
นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า สารพิษที่พบในคางคก คือ บูฟากิน บูโฟท็อกซิน และบูโฟเทนนิน สามารถพบในผิวหนัง เลือด เครื่องใน และไข่ มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลต่อระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ทันที ซึ่งความร้อนไม่สามารถทำลายพิษได้
“ขอเตือนประชาชนและผู้ชื่นชอบรับประทานอาหารเมนูแปลก ห้ามนำคางคก หรือไข่คางคกมาบริโภคเด็ดขาด แต่หากประชาชนเกิดพิษจากการกินคางคก หรือไข่คางคก ควรรีบทำให้อาเจียนโดยเร็วที่สุด และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที”