xs
xsm
sm
md
lg

นักโทษประหารเกิดลงแดงตายก่อน! กรมนครบาล “เถรตรง” ก็เอาศพไปเฆี่ยนแล้วตัดหัวตามคำพิพากษาจนได้!!

เผยแพร่:   โดย: โรม บุนนาค


ขึ้นชื่อว่า “คำพิพากษาของศาล” ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดจะบังอาจละเว้นการปฏิบัติตามมิได้ ด้วยเหตุนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ สมัยรัชกาลที่ ๕ จึงมีการลงโทษผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาลรายหนึ่งอย่างพิสดาร

เรื่องมีอยู่ว่า ชาวจีนคนหนึ่งชื่อ จีนฉัน อพยพเข้ามาอยู่เมืองสยาม มีอาชีพค้าขาย โดยนำสินค้าลงเรือไปขายตามหัวเมืองภาคใต้จนมีฐานะร่ำรวย และมีเมียเป็นคนไทยชื่อ อำแดงทองใส

วันหนึ่งจีนฉันมีกำหนดจะออกเรือบรรทุกสินค้าไปเมืองกาญจนดิษฐ์ แต่ก็ขนสินค้าลงเรือไม่ได้เพราะขาดลูกจ้าง จึงไปจ้างกุลีจีนคนหนึ่งชื่อ จีนเซี๊ยะ ให้มาช่วยขนและเป็นลูกเรือ จีนเซี๊ยะเกี่ยงขอให้จ้าง จีนก๋งหุน ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปช่วยอีกคน จีนฉันก็ยอม

เมื่อขนสินค้าลงเรือเรียบร้อยแล้วจีนฉันก็ออกเรือจากท่าหลังสวน แต่ก่อนจะออกทะเลได้แวะบ้าน จีนยี่ ที่ปากน้ำหลังสวนเพื่อนำกระสอบที่เหลือขึ้นฝาก และจะด้วยความสะเพร่าหรือไม่ชำนาญเรื่องเรือ ทำให้จีนเซี๊ยะกับจีนก๋งหุนผูกเรือไม่แน่นทำให้เรือลอยไป จีนฉัน ดุด่า ๒ ลูกจ้างใหม่อย่างรุนแรง ซึ่งจีนเซี๊ยะกับจีนก๋งหุนก็ไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใด

เมื่อเรือออกทะเล ภายในเรือมีเพียง ๔ คน คือจีนฉัน อำแดงทองใส จีนเซี๊ยะ และจีนก๋งหุน พอเรือแล่นเลียบฝั่งที่เป็นที่เปลี่ยว จึงเปิดโอกาสให้ ๒ ลูกจ้างใหม่เปลี่ยนบทบาทเป็นโจรขึ้นทันที จีนเซี๊ยะเห็นจีนฉันนั่งอยู่ท้ายเรือกำลังเผลอ จึงคว้าสามง่ามพุ่งเข้าเสียบร่างของจีนฉันจนหงายหลังตกทะเล อำแดงทองใสเห็นเข้าก็ตกใจกระโดดหนีตามผัวลงไปอีกคน สองผัวเมียจึงจมน้ำตายอย่างอนาถขณะที่อำแดงทองใสกำลังตั้งท้องด้วย สองลูกจ้างทรยศหันหัวเรือกลับไปทางบางสง แขวงเมืองชุมพร

ระหว่างทาง ๒ โจรต่างค้นหาสมบัติในเรือ ปรากฏว่าจีนเซี๊ยะได้เงินไป ๕๐ บาทกับผ้าขาว ๒ พับ จีนก๋งหุนได้เงิน ๙๐ บาทกับด้ายแดงอย่างดี ๑ ลูก ส่วนสินค้าในเรือซึ่งยังมีอีกมากเกิดตกลงกันไม่ได้ จนเรือมาเกือบถึงบางสง ๒ จีนจึงจุดไฟเผาให้สิ้นซากไป

เจ้าหน้าที่สืบรู้การกระทำอันชั่วร้ายของ ๒ จีน จึงตามจับจีนเซี๊ยะได้ ส่วนจีนก๋งหุนหลบหนีไป ตระลาการเห็นว่าการกระทำของจีนเซี๊ยะนับว่าโหดเหี้ยมมาก แม้จะรับสารภาพ แต่หากขังคุกไว้ก็จะหนักแผ่นดินเปล่าๆ จึงพิพากษาให้เฆี่ยน ๙๐ ทีก่อนที่จะนำตัวไปประหารชีวิต

ระหว่างที่ต้องขังรอการลงโทษอยู่นั้น จีนเซี๊ยะก็เกิดอาการลงแดงเพราะอดฝิ่นจนถึงตาย กรมพระนครบาลผู้ “เถรตรง”จึงปฏิบัติตามคำพิพากษา นำศพของจีนเซี๊ยะไปเฆี่ยนหลังเสีย ๙๐ ที ก่อนที่จะนำไปผูกหลักประหาร แล้วตัดหัว เสียบประจานไว้ที่วัดพลับพลาชัย นอกจากนี้ยังมีประกาศติดไว้ข่มขวัญชาวพาราอีกว่า

“ชายหญิงทั่วพระราชอาณาจักรจงมีความเกรงกลัวพระราชอาญา แต่จีนเซี๊ยะทิ้งร่างวางจิตไปแล้ว เจ้าพนักงานกรมพระนครบาลยังไม่ได้ลดหย่อนพระราชอาญาถึงเพียงนี้ แต่บรรดาคนที่เป็นอันธพาลสันดานหยาบ จงลดการที่ประพฤติพาลสันดานชั่ว จงเร่งเกรงกลัวพระราชอาญาทั่วกันทุกคนเทอญ”
กำลังโหลดความคิดเห็น