“ไพบูลย์” ควงแขน “นพ.มโน” ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ค้านตั้ง “สมเด็จช่วง” ขึ้นเป็นสังฆราช ชี้ยังมีปัญหาคดีความ และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบการล่วงละเมิดธรรมวินัย
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บริเวณสำนักงาน ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อม นพ.มโน เลาหวณิช อดีตศิษย์เอกวัดพระธรรมกาย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. คัดค้านการเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 พร้อมทั้งเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ว่า ละเมิดพระธรรมวินัยหรือไม่
โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องยื่นเรื่องคัดค้านการพิจารณาเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากยังคงมีคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับการทำผิดพระธรรมวินัยหลายคดี อาทิ คดีการครอบครองรถหรู การให้ความช่วยเหลือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรณีพระลิขิต และกรณีการไม่นำสวดบทถวายพระพร ในงานราชพิธี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา และแต่ละคดียังไม่สิ้นสุด ซึ่งหากยังดึงดันที่จะดำเนินการเสนอชื่ออาจกลายเป็นสิ่งที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้
“ส่วนตัวเห็นด้วยกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ดำเนินการใด ๆ ในกรณีนี้หากยังมีข้อครหา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” นายไพบูลย์ กล่าว
นอกจากนี้ นายไพบูลย์ ยังได้เรียกร้องให้กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล ให้ดำเนินการในเรื่องนี้ ให้รับฟังเหตุผลของทุกฝ่าย โดยเฉพาะความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมทั้งย้ำว่า กรณีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยเป็นคนละเรื่องกับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช เพราะแม้ พระธัมมชโย จะยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่การตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป