xs
xsm
sm
md
lg

“แป๊ะซะปลาช่อน” เขย่ามหาดไทย! ครื้นเครงกันทั้งเมือง เมื่อ ๒ ผอ.ใช้ปลาช่อนเฉือนคมชิงเก้าอี้!!

เผยแพร่:   โดย: โรม บุนนาค


แป๊ะซะ เป็นอาหารตำรับที่ได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างหนึ่ง ยิ่งทำด้วยปลาช่อนท้องนาสดๆด้วยแล้ว จะอร่อยเป็นพิเศษ แต่แป๊ะซะปลาช่อนเรื่องนี้กลับทำให้ “ร้อนท้อง” บิ๊กๆของกระทรวงมหาดไทยเต้นกันเป็นขบวน ต่างออกมาปฏิเสธว่ารสนิยมของตัวเองไม่ถึงขั้นแป๊ะซะ ชอบแต่ขาหมู ไข่พะโล้

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๒๔ ซึ่งคงจะเป็นวันเหงาๆของนักข่าวสายทำเนียบ ไม่มีข่าวเป็นชื้นเป็นอัน นักข่าวกลุ่มหนึ่งจึงไปคุยกับ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ซึ่งตอนนั้นเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดร.ไตรรงค์เป็นคนพูดอร่อยอยู่แล้วเลยสมใจนักข่าว ได้ข่าวพาดหัวใหญ่เขย่ากระทรวงมหาดไทยกันไปเลย

เรื่องที่นักข่าวไปชวนโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีคุย เกี่ยวกับระบบราชการเมืองไทยที่มีการวิ่งเต้นเลียแข้งเลียขาเพื่อความก้าวหน้า ดร.ไตรรงค์บอกว่าเรื่องนี้มีมานานแล้ว และมีในข้าราชการทุกระดับชั้น การประจบพลอพลอเจ้านายและชิงไหวชิงพริบปัดแข้งปัดขากัน เป็นหนทางก้าวหน้าของข้าราชการไทย พร้อมทั้งเล่าเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับพฤติกรรมเช่นนี้ให้นักข่าวฟัง

“ผมยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่อย่าให้เอ่ยเลยว่าเป็นใคร เจ้าตัวได้ฟังเรื่องนี้ก็ต้องรู้ว่าเป็นเรื่องของเขาเอง” ดร.ไตรรงค์อารัมภบท จากนั้นก็เล่าเรื่องอร่อยที่เป็นข่าวฮือฮาไปทั้งเมืองว่า

มีอธิบดีคนหนึ่ง เป็นกรมใหญ่และมีความสำคัญมากกรมหนึ่ง แกชอบกินแป๊ะซะปลาช่อนเอามากๆ ในกรมนี้มีข้าราชการระดับผู้อำนวยการกองอยู่ ๒ คนที่ชิงไหวชิงพริบกันเอาใจเจ้านายเพื่อจะได้เลื่อนขั้น ซึ่งมีคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เลื่อน

วันหนึ่งใกล้จะถึงวันเกิดท่านอธิบดี ผู้อำนวยการกอง ก. รู้ว่าเจ้านายชอบกินแป๊ะซะปลาช่อนมาก จึงอุตส่าห์ไปหาปลาช่อนแม่ลาที่ขึ้นชื่อมาจากสิงห์บุรี ขังไว้เตรียมทำแป๊ะซะให้เจ้านายในวันเกิด เผอิญผู้อำนวยการกอง ข. ซึ่งเป็นคู่แข่งรู้เรื่องเข้า จึงเข้าไปหาเจ้านายแล้วเปรยว่า วันเกิดนับว่าเป็นวันมงคล ควรจะทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา เลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตสักวัน ซึ่งท่านอธิบดีพอใจกับความคิดนี้ รับว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ในวันนั้น

พอถึงวันเกิดอธิบดี ผู้อำนวยการกอง ก. ก็ขนปลาช่อนเป็นๆไปที่บ้านเจ้านายแต่เช้า เตรียมจะทำแป๊ะซะให้กินร้อนๆ แต่พอท่านอธิบดีมาเห็นเข้าก็อารมณ์บูดทันที บอกว่าวันเกิดเป็นวันมงคล ยังเอาปลาช่อนมาให้ฆ่าอีก เมื่อเรื่องพลิกไปแบบนี้ผู้อำนวยการกอง ก. ก็ตกใจ แต่อาศัยที่เป็นคนหัวไวไหวพริบดี เลยบอกว่าที่เอามานี้ไม่ได้เอามาให้ท่านฆ่า แต่เห็นว่าท่านกินปลาช่อนมามากแล้ว ถึงวันเกิดก็ควรปล่อยทำบุญเสียที ท่านอธิบดีได้ฟังก็คลายโมโหยิ้มได้ ปีนั้นผู้อำนวยการกอง ก. เลยได้ไป ๒ ขั้น

ดร.ไตรรงค์ยังสรุปว่า “มันน่าจะให้นาย ก.นี่เป็นอธิบดีไปเลย มันเก่งจริงๆ แก้ปัญหาได้ฉับไว แบบนี้ถ้าชาติไม่เจริญก็ฉิบหายไปเลย”

นักข่าวซักว่าอธิบดีที่ชอบกินแป๊ะซะนี้อยู่กรมไหน ดร.ไตรรงค์ก็ชี้มือเปะปะไป แต่นักข่าวตีความเหมือนกันว่า ชี้ไปทางคลองหลอด

เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮามากในกระทรวงมหาดไทย ถามไถ่กันว่าอธิบดีกรมไหนที่ชอบกินแป๊ะซะปลาช่อน แต่คนที่เต้นกว่าใคร ก็คือนายพิศาล มูลศาสตรสาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงกับเรียกประชุมอธิบดีและผู้อำนวยการกองทุกคนในบ่ายวันที่ ๑๘ ที่ห้องประชุมกรมการปกครอง แล้วถามอธิบดีเป็นรายตัวว่าใครชอบกินแป๊ะซะปลาช่อน จากนั้นก็เปิดแถลงข่าวว่า ได้ถามอธิบดีทุกคนแล้วไม่มีใครชอบกินแป๊ะซะปลาช่อน และไม่เคยมีใครจัดงานวันเกิด ดังนั้นเรื่องที่โฆษกรัฐบาลเล่าจึงไม่ใช่เรื่องจริง ขอแถลงให้ทราบโดยทั่วกัน และที่ประชุมยังลงมติดังนี้

๑. เห็นควรทำหนังสือสอบถามไปยังนายไตรรงค์ว่า ได้มีการให้ข่าวเรื่องนี้จริงหรือไม่ ถ้าจริงมีหลักฐานอะไร ถ้าไม่จริงให้แก้ข่าวด้วย และให้นำสำเนานี้กราบเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบ

๒. ให้ชี้แจงหนังสือพิมพ์และวิทยุกระจายเสียงถึงผลการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นว่า การให้ข่าวดังกล่าวไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวงมหาดไทย แต่ยังทำให้คนทั่วไปเกิดความชิงชังต่อการบริหารงานราชการแผ่นดิน ซึ่งเสียหายต่อราชการส่วนรวมอีกด้วย

“ผมขอความเป็นธรรมครับ” ปลัดฯพิศาลบอกนักข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ที่แถลงนี้เราไม่คิดจะแก้แค้นใคร สงสารข้าราชการที่ทำงานบ้าง ข่าวที่ออกไปภาพพจน์ข้าราชการมหาดไทย ตลอดจนขวัญกำลังใจเสียหมด เรื่องนี้ผมจะทำบันทึกถึง รมว.มหาดไทยและนายกรัฐมนตรีด้วย ถ้าคุณไตรรงค์ให้ข่าวเกิดความเสียหาย ก็ขอให้รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำด้วย”

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า ปลัดพิศาลว่ามีหนังสือพิมพ์ระบุว่าเป็นกระทรวงริมคลองหลอด บางฉบับยังระบุว่าเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ถ้าเป็นเรื่องเล่าแบบศรีธนญชัย ก็ขอให้ช่วยแก้ข่าวให้ด้วย

ก่อนหน้าจะเข้าห้องประชุมในครั้งนี้ ปลัดพิศาลก็ถูกนักข่าวรุมถามกันมาแล้วว่าชอบกินอะไร ซึ่งปลัดพิศาลก็ตอบด้วยอารมณ์ครึกครื้นว่าชอบกินขาหมู ส่วนนายฉลอง กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการปกครองถามแล้วบอกชอบกินไข่พะโล้ ทั้งยังบอกว่าตั้งแต่เป็นอธิบดีมา ไม่เคยจัดงานวันเกิดเลย และวันเกิดมักจะไปตรวจราชการต่างจังหวัด

เรื่องนี้นอกจากจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันมากในกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังมีการแจกใบปลิวโจมตีนายไตรรงค์ออกมาเกลื่อน นายสีหนาท ฤาชา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทยและรองโฆษกพรรคชาติไทย เปิดให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายไตรรงค์ว่า การเล่าเรื่องอธิบดีแป๊ะซะนี้ ถ้าพูดในฐานะโฆษกรัฐบาลก็ไม่สมควร แต่ถ้าพูดเป็นการส่วนตัวก็มีสิทธิ์พูดได้ แต่ควรระบุชื่อด้วยว่าเป็นอธิบดีกรมไหน ผู้อำนวยการกองไหน เพื่อจะได้เสนอให้ รมว.มหาดไทยจัดการลงโทษ แต่การกล่าวออกมาลอยๆเช่นนี้ทำให้ข้าราชการเสียหาย และทำให้คนมองภาพพจน์กระทรวงมหาดไทยผิดๆด้วย

เมื่อเรื่องบานปลายออกไป นายไตรรงค์ สุวรรณคีรีก็ออกมายืนยันว่าเป็นผู้พูดเรื่องนี้จริง แต่ไม่ได้ระบุว่ากรมกองไหน ตีความกันไปเอง ทั้งยังยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และเกิดขึ้นในปีนี้เอง ไม่ใช่เรื่องโจ๊กหรือนิทาน ทั้งยังเป็นเรื่องที่คนรู้กันมาก ไม่เป็นความลับแต่อย่างใด ที่เอามาเล่าก็เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อแผ่นดิน และเรื่องประเภทนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีก ไม่ได้มีแต่เรื่องนี้

“เราต้องช่วยกันประคับประคองระบบราชการ เรื่องอย่างนี้ไม่ถูกต้องอย่างที่สุดในการบริหารงานบุคคล เป็นเรื่องที่ควรเปิดเผยไม่ใช่ปกปิด และจะทำให้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ประเทศชาติไม่ก้าวหน้า จะมีแต่คนประจบสอพลอ เพราะทำแบบนี้แล้วได้ดี ผมพูดด้วยเจตนานี้ ใครจะเอาไปว่าผมก็ไม่แคร์”

นักข่าวเอาเรื่องนี้ไปถาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ว่าทราบเรื่องแป๊ะซะแล้วหรือยัง ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีไม่อ่านหนังสือพิมพ์และได้ฉายาว่า “พระเตมีย์ใบ้” นักข่าวจึงเล่าเรื่องให้ฟัง “ป๋า”ฟังนักข่าวเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชอบใจและหัวเราะอย่างขบขัน แต่ไม่ออกความเห็น

นักข่าวไปถาม พล.อ.สิทธิ์ จิรโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สิทธิ์ก็หัวเราะอย่างขบขันอีกคน และว่า “ถ้าเจอคุณไตรรงค์ผมจะลองถามดู ผมว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร คงคุยกันเป็นเรื่องสนุกมากกว่า ผมว่าคงเป็นไปไม่ได้”

เรื่องอธิบดีแป๊ะซะปลาช่อนคงจะเป็นข่าวสนุกไปอีกหลายวัน แต่ในวันที่ ๑๙ กันยายนนั้น เครื่องบินไอพ่น เอฟ ๕ ของกองทัพอากาศที่ขึ้นบินเพื่อฝึกป้องกันภัยทางอากาศ “นภาพิทักษ์” ก็โหม่งลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา นักบินตายคาเครื่อง จากการสอบสวนพบว่าเครื่องยนต์ดับ นักบินเกรงว่าเครื่องจะตกใส่บ้านคน เลยยอมสละชีพพุ่งลงแม่น้ำ จึงได้รับการสดุดีว่าเป็นวีรบุรุษ ทำให้ข่าวไร้สาระเรื่องอธิบดีแป๊ะซะจบลงเพียงแค่นี้ ไม่มีใครสนใจให้เสียเวลาอีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น