จากกรณีที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลว่ามีนักดำน้ำชาวต่างชาติเข้าไปดำน้ำยิงปลาจับสัตว์ในบริเวณซึ่งคาดกันว่าเป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา
"เรื่องนักดำน้ำต่างชาติดำน้ำยิงปลาจับสัตว์ในบริเวณที่คาดว่าจะเป็นสิมิลันมาให้ผมดู ผมคุยกับหัวหน้าสิมิลันแล้วครับ หัวหน้าทราบแล้วว่าลำไหน เข้าไปสอบสวนอยู่ เพื่อประโยชน์ของรูปคดี ผมไม่ลงชื่อเรือ แต่หัวหน้ายืนยันว่าจะจัดการให้ทุกอย่าง ลองติดตามข่าวต่อไป ผมจะอัพเดทเรื่อยๆ ครับ คงไม่แค่ปรับ 500 บาทแน่นอน เป็นกำลังใจให้อุทยานจัดการเรื่องนี้อย่างเฉียบขาดที่สุดครับ" เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลไทยระบุ
เช้าวันนี้ (4 เม.ย.) เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเจ้าของเรือลำดังกล่าวออกมายอมรับว่าเป็นเรือของตน พร้อมอธิบายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่นักดำน้ำชาวจีนฮ่องกงที่จองเหมาลำมาเพื่อดำน้ำตามปกติ แต่เพิ่งมาแจ้งบนเรือว่าต้องการจะตกปลา ทั้งนี้ทางเรือชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้ เพราะอยู่ในเขตอุทยาน กัปตันห้ามเท่าไหร่ ลูกค้าก็ไม่ยอมฟัง จนสุดท้ายทางลูกค้าจึงต่อรองว่า ให้ช่วยพาไปที่อื่น ที่อยู่นอกเขตอุทยานก็แล้วกัน เนื่องจากกัปตันไม่สามารถติดต่อตนซึ่งเป็นเจ้าของเรือที่อยู่ต่างประเทศได้ และโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กัปตันคิดว่าถ้าอยู่นอกเขตอุทยาน คงจะไม่เป็นไร จึงได้ตัดสินใจนำเรือออกไปนอกเขตอุทยาน และให้ลูกค้าตกปลา ยิงปลาตามภาพที่แชร์กันอยู่ โดยตนรู้สึกเสียใจ ขอรับผิดชอบและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
"สำหรับเรื่องที่ทุกคนกำลังตามหาดิงกี้สีเขียว เป็นดิ้งกี้เรือผมเองครับ เรือภาณุนี
ผมเห็นโพสต์เรื่องนี้แล้วเมื่อเย็นวันนี้เอง ในขณะที่ผมมาทำงานอยู่ที่ต่างประเทศพอดี ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และมิได้นิ่งนอนใจ รีบทำการติดต่อกลับเพื่อสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ชอบการกระทำดังกล่าวเป็นที่สุดด้วยเช่นกัน ก่อนอื่นผมใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงบางประการ ครับ
1) ผมสอบถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงทราบว่านักดำน้ำชาวจีนฮ่องกงที่จองเหมาลำมาเพื่อดำน้ำตามปกติกลุ่มนี้ เพิ่งมาแจ้งบนเรือว่าต้องการจะตกปลา แต่ทางเรือชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้ เพราะอยู่ในเขตอุทยาน กัปตันห้ามเท่าไหร่ ลูกค้าก็ไม่ยอมฟัง จนสุดท้ายทางลูกค้าจึงต่อรองว่า ให้ช่วยพาไปที่อื่น ที่อยู่นอกเขตอุทยานก็แล้วกัน เนื่องจากกัปตันไม่สามารถติดต่อผมที่อยู่ต่างประเทศได้ และโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
กัปตันคิดว่าถ้าอยู่นอกเขตอุทยาน คงจะไม่เป็นไร จึงได้ตัดสินใจนำเรือออกไปนอกเขตอุทยาน และให้ลูกค้าตกปลา ยิงปลาตามภาพที่แชร์กันอยู่
2) ผมสอบถามกับเจ้าของร้านดำน้ำฮ่องกงที่เป็นเอเยนต์ที่จองทริปมา (ตอนนี้ก็มางานนิทรรศการดำน้ำที่ต่างประเทศงานเดียวกัน) ทางเอเย่นต์ก็ไม่ได้ทราบมาก่อนเช่นเดียวกันว่าลูกค้าจะมาตกปลา และยิงปลา และเค้าก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
3) เย็นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยาน และตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าไปตรวจเรือและสอบปากคำพนักงานเรือที่อยู่ในเหตุการ์ณนี้แล้ว และกัปตันจะพาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปชี้จุดเกิดเหตุ ในวันพรุ่งนี้
4) ผมและเรือภาณุนี ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทุกประการสำหรับการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน
5) ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้รักทะเลทุกคน และผมเองก็เช่นกัน ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายสิบปี การดำน้ำได้ให้โอกาส ให้อนาคตผมได้เรียนรู้ ประกอบสัมมาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมาโดยตลอด ถือเป็นผู้มีพระคุณกับผมเป็นอย่างที่หาที่สุดไม่ได้ ผมไม่มีวันทำร้ายผู้มีพระคุณต่อผมอย่างแน่นอน
6) ทางผมรู้สึกเสียใจและรับผิดในเหตุการณ์ที่ขึ้นมานี้ และขอให้คำมั่นสัญญาว่า เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบนเรือภาณุนีอย่างแน่นอน
ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้โอกาสผมได้ชี้แจงครับ....." เจ้าของเรือภาณุนีที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Aoy Kittisarn ระบุ
กรณีนักเที่ยวต่างชาติยิงปลาจับสัตว์ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายเรือดิงกี้สีเขียว ตอนนี้เจ้าของเรือออกมารับผิดชอบแล้ว รายละเอ...
Posted by Thon Thamrongnawasawat on Sunday, April 3, 2016